วีกเอนด์นี้ศึกพรีเมียร์ลีกมีแมตช์ใหญ่ให้ติดตาม แมนฯ ยูไนเต็ดมีคิวดวลแมนฯ ซิตี้ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งกำลังเร่าร้อนเหลือกำลังด้วยแล้ว หากปีศาจแดงโค่นจ่าฝูงลงได้จริง นอกเหนือจากอะไรต่อมิอะไรในทีมน่าจะดีขึ้นอีกมาก ยังเปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี รวมถึง สเปอร์ส และ อาร์เซน่อล ลุ้นแชมป์กันสนุกมากขึ้น
    และนี่ถือเป็นประเด็นที่คอลูกหนังอังกฤษต้องจับตาดูสถานการณ์ให้ดี มิใช่แค่แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้เท่านั้น ยังมีอีกหลายคู่ที่ห้ามพลาด

    "อีกา"

    1). สปิริตผี-มันสมองมู

    ผลลัพธ์จากที่แมนฯ ยูไนเต็ดควักชัยออกมาจากยูเวนตุส สเตเดี้ยมได้สำเร็จ เป็น 3 แต้มที่ล้ำค่ามาก ไม่ใช่แค่ทำให้มีผลต่อการเข้ารอบน็อกเอาต์แล้วยังทำให้สปิริตและบรรยากาศภายในทีมยอดเยี่ยมเยียมเสียด้วย

    7 เกมหลังทุกรายการนับจากแพ้ต่อขุนค้อนที่ลอนดอน ยูไนเต็ดเพลี้ยงพล้ำให้คู่แข่งแค่นัดเดียวเกิดขึ้นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดวันถูกม้าลายพยศใส่ 1-0 นั่นแหละแต่สามเกมหลังมาเนี่ยเก็บชัยรวดเป็นสัญญาณคืนชีพได้เลย

    สองนัดติดต่อกันแล้วที่ มูรินโญ่ แอนด์ โค แซงชนะและได้ประตูชัยช่วงท้ายเกม เป็นแคแรกเตอร์ที่แฟนผีถวิลหากันมานานเหมือนยุคเฟอร์กี้ไทม์นั่นแหละ ตั้งแต่หมดอำนาจป๋าก็หายไปเลยนานมาก แต่ดูเหมือนแคแรกแตอร์แบบนี้กลับมาแล้ว นักเตะหลายคนรวมพลังกันสู้ ฮึกเหิม ไม่ยอมแพ้ นั่นคือข้อดีที่เกิดขึ้นตอนนี้

    กึ๋นของกุนซือโปรตุกีสก็เป็นที่พูดถึงช่วงหลังๆ เลือกทีมชุดแรกได้เข้าตา เปลี่ยนตัวชุดสองได้เข้าเป้า นี่แหละครับที่เค้าบอกว่า มูรินโญ่ ตายยาก เขาเป็นคนคิดงานละเอียดรอบคอบปล่อยหมากแต่ละตัวส่งไพ่เด็ดแต่ละใบผ่านการคำนวณแล้วว่าจะลงไปทำอะไร ยกเว้นเกมที่แพ้คาบัานต่อยูเว่ ที่เขาไม่รู้จะส่งใครเพราะทรงบอลสู้กันไม่ได้และตัวผู้เล่นเด็ดๆ มีไม่มากพอ

    ประเด็นตอนนี้ก็คือหลังจากที่ยูไนเต็ดปราศจาก รอม ลูกากู ยืนหน้าเป้า แนวรุกกลับดูหวือหวาปราดเปรียวหวังผลได้บอลไปข้างหน้ามากกว่าเก่าแต่กมนี้ดันเซ่น อเล็กซิส ซานเชซ อาจชวดเกมดาร์บี้แมตช์อีกต่างหาก

    อาจเป็นข่าวร้ายซ้ำสองของแฟนผีก็คือเดลี่ เมล สื่อดังเมืองผู้ดี รายงานว่า มูรินโญ่ ต้องการให้ ลูกากู ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้ให้ได้หลังกลับมาซ้อมเบาๆได้แล้วหากประเมินสภาพความฟิตผ่านก็บู๊ทันทีเพราะมองว่าความแข็งแกร่งของเขาคือสิ่งจำเป็น

    ไม่รู้ว่านี่จะเป็นข่าวดีหรือร้ายสำหรับยูไนเต็ดกันแน่ๆ หากแต่อย่างน้อยๆ ยูไนเต็ดก็ยังมีหวังยี่ห้อ มูรินโญ่ ชอบทำอะไรแบบนี้ เขาชอบที่จะเบรกเกมรุกคู่แข่งขัน จนหัวทิ่มเสียด้วย แท็กติกของเขาน่าจะเป็นอีกประเด็นที่ต้องติดตาม

    2). ความรับผิดชอบของ JK

    เดอะค็อป โวยกันแหลกกับการจัดไลน์อัพตัวจริงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากความพ่ายแพ้ที่เบลเกรด ผลพวงจากการจัดตัวไม่เต็มนัดนั้นจึงได้รับผลลัพธ์ทางลบที่ประเมินค่าไม่ได้ เหนื่อยเพิ่ม หนักเพิ่มในการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์

    ตัวสำรองทดแทนตัวจริงไม่ได้และไม่ไหว แนวรับชัดเจนมีรูโหว่ตรงนั้น มาติป ซึ่งแทบไม่ได้เล่นร่วมกับ ฟานไดค์ เลยในระยะหลังจะต้องไม่ถูกส่งเล่นร่วมกันอีก อดัม ลัลลาน่ ตกรุ่นไปแล้วกับสปีดบอลของหงส์ ขายได้ต้องขาย ปล่อยได้ต้องปล่อย หรือ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ คนที่ถูกวิจารณ์เสียๆ หายๆ ที่สุดจากเกมที่แล้วนั่นก็เหมารวมด้วย

    เกมของหงส์ตอนนี้ควรต้องเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เก็บบอลได้ดี ไปกับบอลได้ดี แข็งแกร่ง ฉลาด ประสานงานเข้าขากับอีกสองคนข้างหน้านั่นก็คือ โม ซาลาห์ และ มาเน่ ขณะที่ สเตอร์ริดจ์ ยังขี้เกียจเกินไป ไล่เพรสซิ่งก็ไม่สุด ทำให้ตัวเองเก็บบอลไม่ได้ เหนื่อยเพื่อนร่วมทีมอีก จุดนี้ คล็อปป์ ควรต้องเห็นต้องเรียนรู้และอย่าดื้ออีกเป็นอันขาด

    เจอกับทีมท้ายตารางอย่าง ฟูแล่ม ยังไงต้องชนะ ต้องยิงให้เยอะ

    3. นัดสุดท้ายของ ย็อคก้า??

    ทั้งๆ ที่เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา สลาวิซ่า โยคาโนวิช ได้เงินก้อนโตให้ช็อปให้จ่ายตลาดสามรถดึงนักเตะมาเสริมทัพได้ตามใจชอบสุดท้ายก็รวบหัวรวบหางมาถึง 14 รายรวมทั้งแข้งดังอย่าง อันเดร เชือร์เล่ และ ฌอง-มิเชล เซรี่ แต่ไหงผลงานสาละวันเตี้ยลงอย่างน่าใจหายหล่นไปรั้งบ๊วยของตารางแล้ว ล่าสุดแพ้แม้กระทั่งทีมโซนล่างด้วยกันอย่าง ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-1 เท่ากับว่าเสียหายอย่างแรง เสียคะแนนไปกลับ 6 แต้ม

    แน่ละเมื่อเป็นแบบนี้ ย็อคก้า อดีตนายใหญ่เมืองทองฯเก้าอี้ร้อนฉ่ามากทีเดียว กูรูหลายคนไม่รับรองว่าจะไม่ได้อยู่ทำงานจนถึงคริสต์มาสด้วยหรือเปล่านี่สิ ต่อให้บุญเก่ากับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีกก็ไม่ได้ช่วยอะไร ต่อให้ใครต่อใครหลายคนชื่นชมหนักหนาว่าเป็นโค้ชที่ทำทีมเล่นเกมบุกในสไตล์ที่สวยงามเอนเตอร์เทนแต่ถ้าผลลัพธ์ผลแข่งไม่ได้ตามเป้ามันก็ไร้ค่า

    ผลงานย่ำแย่เล่นไป 11 เกม ชนะ 1 เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 8 เกม เก็บได้เพียง 5 คะแนน ยิงได้แค่ 11 ประตู เสียไปถึง 29 ลูก หรือเฉลี่ยโดนนัดละเกือบสามลูก แถมยังไม่เคยเก็บคลีนชีตได้เลยในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ สะท้อนถึงปัญหาใหญ่ที่ชัดเจนที่สุดก็คือหลังที่รั่วเหลือเกิน แม้พยายามใช้แบ็คโฟร์บ้าง หลัง 3 บ้าง แต่ก็ยังไม่ฟื้น

    ยิ่งนัดนี้ต้องยกพลจากลอนดอนไปเยือนที่ลิเวอร์พูล ยิ่งทีมของคล็อปป์หาที่ระบายแค้นด้วยจากไปแพ้ ซเวซด้า ในถ้วยยุโรป น่าห่วงเจ้าสัวน้อยเป็นอย่างมาก ดูท่าแล้วรอดยาก แล้วมันก็คงจะเป็นเกมสุดท้ายของ ย็อคก้า ก่อนเข้าสู่เบรกทีมชาตินั่นแหละ

    4. โอกาสที่ดีเยี่ยมของ นิวคาสเซิ่ล?

    หากพูดถึงกุนซือลำดับต้นๆ ที่จะถูกตะเพิดตกเก้าอี้เป็นคนแรกๆ ราฟาเอล เบนิเตซ คือหนึ่งในนั้น

    ทัพสาลิกาดงออกสตาร์ตน่าผิดหวัง แต่จนแล้วจนรอด เอล ราฟา ก็ยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้เหนียวแน่น เจ้าของ ไมค์ แอชลี่ย์ ไม่กล้าไล่เพราะตัวเองก็มีส่วนผิด ไม่ได้สนับสนุนทางการเงินมากพอ ส่วนแฟนบอลก็ไม่กล้าโห่ใส่เพราะนี่คือหนึงในยอดกุนซือของโลกลูกหนัง ปลดแล้วใครแทน?

    กระนั้นก็ดีถ้าพูดถึงหลักความเป็นจริงเก้าอี้ของราฟายังง่อนแง่นมีโอกาสตกงานได้ทุกเมื่อเหมือนกัน เนื่องจากผลงานภาพรวมไม่ดีนัก เพิ่งมีแค่ 6 คะแนน จากชนะ 1 เสมอ 3 และแพ้ 7 สัปดาห์ก่อนเพิ่งเก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล หลังเปิดบ้านเฉือน วัตฟอร์ด 1-0  หลุดจากโซนตกชั้นได้จริงแต่ห่างแค่แต้มเดียว

    วีกนี้มีโอกาสเก็บชัยอีกครั้งเพราะได้เปรียบเรื่องเล่นในบ้านแต่คู่ต่อสู้คือ บอร์นมัธ ของ เอ็ดดี้ ฮาว ไม่ง่ายๆ ทีมเล็กๆ จากแดนใต้ฟอร์มไม่ธรรมดาก่อนเปิดรังแพ้แมนฯ ยูไนเต็ดหวุดหวิด 1-2 ไม่แพ้ใครนานถึง 6 เกมทุกรายการชนะถึง 5 ต้องดูความสามารถราฟาว่าจะนำพาทีมเข้าวินเป็นเกมที่สองติดต่อกันหรือไม่

    5. หยุดเสียประตูหากไม่อยากตกงานและตกชั้น!

    มาร์ค ฮิวจ์ส คือตัวเต็งกุนซือที่จะโดนไล่ออกคนแรกไม่เป็นสองรองจาก ย็อคก้า ของ ฟูแล่ม ผลงานย่ำแย่สุดๆ เตะไป11 เกม ชนะได้นัดเดียว ที่เหลือเจ๊า 4 แพ้ 6 ถือ แค่ 7 แต้ม น้อยกว่าความคาดหวังอยู่เยอะมาก เนื่องจากขุมกำลังนักบุญชุดนี้ไม่ขี้เหร่ ดีกรีดีๆ ทั้งนั้น แต่ผลงานสวนทางราวฟ้ากับเหว

    ฟางเส้นสุดท้ายของบอร์ดบริหารอยู่ที่วันแพ้ยับเยินต่อ แมนฯซิตี้ 1-6 เข้าใจว่าความพ่ายแพ้ต่อแชมป์เก่าเป็นเรื่องปกติไปแล้วเพราะเรือใบสีฟ้าเหนือกว่าแต่เมื่อแพ้แบบทุเรศสายตาเกินไป คนใหญ่คนโตของสโมสรไม่มีทางรับไหว อาจต้องถึงคราวเปลี่ยนแปลง

    เหมือนกับหลายทีมท้ายตารางปัญหาใหญ่ของนักบุญแดนใต้อยู่ที่แนวรับเปื่อยยุ่ยเป็นกระดาษทิชชู่เปียกน้ำไปหน่อย โดนบุกเป็นโดน โดนโหมใส่เป็นยุบ ขณะเดียวกันแนวรุกก็ไม่ใช่ไม่เป็นปัญหา ความสมดุลขาดหายไป 11 เกม ส่องประตูได้แค่ 7 เม็ด เป็นไปได้ไง?

    ว่ากันว่านัดนี้เซาธ์แฮมป์ตัน จะให้โอกาส ฮิวจ์ส อีกแค่นัดเดียวเกมนี้ที่เตะในบ้านเจอ วัตฟอร์ด ทีมไซส์ใกล้เคียงกัน ถ้าไม่ชนะ เชิญเลย เตรียมไปหางานใหม่ได้

    เช่นกัน, รอย ฮ็อดจ์สัน ขรัวเฒ่าของ คริสตัล พาเลซ ที่ยังแก้ปัญหาของทีมไม่ตกซะที สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้ว 6 เกมติดต่อกันทุกรายการ หลุดแพ้ไปถึง 5 เกม แบ่งเป็นในลีก 4 เสียประตูไปถึง 8 ลูก นัดล่าสุด ถูก เชลซี สอนบอลมา3 เม็ด แถมเกมนี้ต้องดวลเกือกกับ สเปอร์ส ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ อีกเกม

    รวมถึง เดวิด ว้ากเนอร์ ของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ แม้นัดล่าสุดเข่นชนะ ฟูแล่ม 1-0 ได้ แต่ก็ควรรักษามาตรฐานให้ดีกว่านี้ เพราะก่อนหน้านั้นแพ้มากกว่าเจ๊าและชนะ ขณะที่ นีล วอร์น็อค ของ คาร์ดิฟฟ์ ก็ด้วย ปรับจูนแนวรับให้เร็ว

    กระนั้นก็ดี ฮัดเดอร์สฟิลด์ กับ คาร์ดิฟฟ์ เป็นสองทีมที่ผู้จัดการทีมไม่ค่อยกดดันเท่าไร รู้สภาพตัวเอง ศักยภาพทีมก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว เงินทุนในตลาดก็น้อย ด้วยขุมกำลังมีอยู่ถ้ารอดตกชั้นถือว่าเป็นโบนัสครั้งใหญ่ว่าไปนั่นเลย