ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » อลีสซงมาแล้ว ! เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกมลิเวอร์พูล เยือน ฟูแล่ม

อลีสซงมาแล้ว ! เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกมลิเวอร์พูล เยือน ฟูแล่ม

Posted 13/12/2020 by siamsport

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเตรียมนำ ลิเวอร์พูล บุกเยือน ฟูแล่ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมนี้ โดยพวกเขาอาจจะมีสถิติไม่ค่อยดีนักในการเล่นนอกบ้านเกมลีก เพราะสะกดคำว่าชนะไม่ได้เลยใน 4 เกมหลังสุด ต่างจากการเล่นในแอนฟิลด์ ราวฟ้ากับเหว
    แมตช์นี้ "หงส์แดง" มีข่าวดีมากๆ เมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ ฟิตสมบูรณ์พร้อมกลับมาทำหน้าที่เป็นมือ 1 ให้กับสโมสร ขณะที่แบ็กโฟร์ได้ผู้เล่นชุดที่แกร่งที่สุดคืนทัพได้แก่ โฌแอล มาติป, ฟาบินโญ่, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

    ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เตรียมที่จะลบล้างอาถรรพ์ในการเล่นที่กรุงลอนดอน ซึ่งมักจะยิงประตูไม่ค่อยได้ โดยซัดไปแค่ประตูเดียวจาก 12 เกมหลังสุดที่มาเยือนเมืองหลวงผู้ดี ที่สำคัญเกมนี้พวกเขาต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเบียดกับ สเปอร์ส ซึ่งกำลังฟอร์มแรงในเวลานี้


1. พ่อหมีกลับคืนตำแหน่งเดิม
    แม้ว่า ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูอนาคตไกลจะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วง 3 เกมล่าสุดที่ได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ แต่ตอนนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ กลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว  และแน่นอนว่าตำแหน่งมือ 1 ทัพ "หงส์แดง" จะกลับคืนสู่ที่เดิมอีกครั้ง


    ผลงานของ โกลชาวไอริช ได้รับคำชมเชยอย่างมาเพราะเจ้าตัวได้แสดงให้เห็นถึงความนิ่ง และไหวพริบที่รวดเร็วว่องไว ในการทำหน้าที่นายด่านปราการสุดท้าย ทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เพียงไม่กี่นัด แต่ฟอร์มของเขาทำให้หลายคนยกย่องว่ามีอนาคต และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เคลเลเฮอร์ จะได้รับบทมือ 2 แทน อาเดรียน

    นายใหญ่ชาวเยอรมัน ออกมายืนยันแล้วว่า นายทวารทีมชาติบราซิล มีสภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะ และกลับมาฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยงานนี้ โกลเลือดแซมบ้า ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ย่ำแย่ใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะกลับมาเป็นมือ 1 ในแมตช์เยือน ฟูแล่ม วันอาทิตย์นี้

    แน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" คงแฮปปี้สุดๆ ที่ได้เห็น อลีสซง กลับมาประจำตำแหน่งอีกครั้ง เพราะความเหนียวหนึบของเขาคงทำให้แผงแบ็กโฟร์รู้สึกใจชื้นมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการที่มี "พ่อหมี" ยืนตระหง่านบริเวณหน้าประตูสามารถขู่เกมรุกของทัพ "เจ้าสัวน้อย" ได้มากเลยทีเดียว
   
2. ซาลาห์ลบหลอนกรุงลอนดอน
    ต้องยอมรับว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำผลงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อให้กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เมื่อเขาตะบันตาข่ายคู่แข่งไปแล้ว 82 ประตูจากการลงสนาม 118 แมตช์ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งถือว่าเยอะกว่านักเตะคนอื่นๆ นับตั้งแต่ที่เริ่มต้นฤดูกาล 2017/2018

    แม้ว่าสถิติในการยิงประตูของ "คิง ออฟ อียิปต์" จะดูดีโดดเด่นเหลือเกิน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นรอยด่างในชีวิตนักเตะของเขาที่มาค้าแข้งในเมืองผู้ดีก็คือ การที่ ซาลาห์ ต้องเจอกับความยากลำบากทุกครั้งที่มาเล่นในกรุงลอนดอน เพราะเขายิงได้แค่ประตูเดียวจาก 12 เกมหลังสุดที่มาเยือนเมืองหลวงผู้ดี โดยเกิดขึ้นในเกมพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม นี่จะเป็นโอกาสดีสำหรับ "บังโม" ที่จะได้ลบอถรรพ์ เพราะเขากำลังมีความมั่นใจหลังจากที่ซัดประตูให้กับต้นสังกัดในเกมเสมอ มิดทิลแลนด์ 1-1 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์นี้ ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักเตะที่ทำประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (ไม่นับรวมรอบคัดเลือก) มากสุดของสโมสร ที่จำนวน 22 ลูก แซงหน้า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีมซึ่งทำได้ 21 ประตู ไปแล้ว

    แม้ ซาลาห์ มีสถิติยิงได้แค่ประตูเดียวจากการที่ได้พบกับ ฟูแล่ม 2 เกมหลังสุด แต่ฟอร์มการเล่นในลีกของเขาในฤดูกาลนี้ก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ เมื่อซัดไปแล้ว 9 ประตู ที่สำคัญนักเตะยังยิงไป 3 ลูกจาก 4 เกมลีกหลังสุด ฉะนั้นเกมรับของ "เจ้าสัวน้อย" คงจะได้เจองานหนักในการรับมือเขา

3. ฟอร์ม "หงส์แดง" ยิ่งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ฟอร์มของลิเวอร์พูลในเวลานี้ต้องบอกว่ากำลังเข้าฝักจริงๆ เพราะพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม (แพ้  แอสตัน วิลล่า 2-7)  โดยแมตช์นั้นก็คือการแพ้ อตาลันต้า 0-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 

    อย่างไรก็ตาม "เดอะ เร้ดส์" ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นหลังจากนั้นเมื่อพวกเขาคว้าแชมป์กลุ่ม ในเกมถ้วยใบโตยุโรป เช่นเดียวกับในเกมลีกพวกเขารั้งอันดับ 2 มี 24 คะแนนเท่ากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่เป็นรองผลต่างประตูได้เสีย "ไก่เดือยทอง" เท่านั้น

    อย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ผ่านมาต้องประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บระนาว แต่พวกเขาก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างดุดัน สามารถไล่ทุบคู่แข่งได้ในทุกๆ แมตช์ แถมในเกมล่าสุดที่ไปเยือน มิดทิลแลนด์ นายใหญ่ชาวเยอรมันยังจับเด็กดาวรุ่งลงสนามหลายคน แต่ก็ทำผลงานได้ดีไม่มีที่ติ

    สำหรับเกมนี้มีรายงานว่าขุมกำลังตัวหลักของทีมค่อยๆ ทยอยกลับมาจากอาการบาดเจ็บทั้ง อลีสซง เบ็คเกอร์, อเล็กซ์ อ็อดซ์เลด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิต้า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ส่วน ติอาโก้ อัลกันตาร่า น่าจะหายเจ็บในเร็วๆ นี้ด้วย ดังนั้นแมตช์เยือนถิ่นคราเว่น ค็อตเทจ "หงส์แดง" พร้อมเต็มสูบ

4. เทรนต์ พร้อมประจำการ, ฟาบินโญ่-มาติป คู่เซนเตอร์แบ็ก
    อย่างที่บอกไปว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่นักเตะเพิ่งจะได้ลงสนามเต็มเวลา 90 นาที พร้อมทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมในช่วงต้นเกมเยือน มิดทิลแลนด์ ด้วย ฉะนั้นตำแหน่งแบ็กขวา คงได้เวลาที่เจ้าของเดิมต้องกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง


    สำหรับ เนโก วิลเลี่ยมส์ ถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจในระดับหนึ่ง และ คล็อปป์ พร้อมที่จะให้โอกาสกับเขาในเกมฟุตบอลถ้วยในประเทศ รวมไปถึงหากทีมต้องมีโปรแกรมแน่นเอี๊ยด แบ็กขวาชาวเวลส์ ก็มีสิทธิ์ที่จะได้ลงสนาม เพื่อเป็นการโรเตชั่นขุมกำลัง

    ในขณะเดียวกันเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องก็คือ นาบี เกอิต้า ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมกับ มิดทิลแลนด์ และลงเล่นไปประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนโดนเปลี่ยนตัวออก โดยนักเตะไม่มีปัญหาบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ แฮปปี้สุดๆ

    นอกจากนี้ในส่วนของเซนเตอร์ฮาล์ฟ งานนี้ โฌแอล มาติป คงจะต้องกลับมาทำงานร่วมกับ ฟาบินโญ่ อีกครั้ง หลังจากที่เกมเยือนประเทศเดนมาร์ก ดาวเตะชาวแคเมอรูน ได้พักร่างกาย เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายพลังม้า น่าจะได้เล่นตัวจริงในเกมลีกสุดสัปดาห์นี้
 
5. ได้เวลาหยุดสถิติไร้ชัยเกมเยือนซะที
    เห็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอดของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะเกมในรังแอนฟิลด์ แต่หารู้ไม่ว่าฟอร์มการเล่นเกมเยือนของพวกเขาไม่ได้น่าอภิรมณ์เอาซะเลย เพราะเกมเยือนในศึกพรีเมียร์ลีกของพวกเขาในช่วง 4 แมตช์หลังสุดสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่ได้เลย

    เริ่มด้วยการโดน วิลล่า อัดยับคาวิลล่า พาร์ค 7-2 ตามด้วยการทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (แถม เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เจ็บหนัก, ติอาโก้ เดี้ยง) ตามด้วยการเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 และที่น่าเจ็บปวดก็คือเสมอ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-1 ทั้งๆ ที่ฟอร์มสุดยอด แต่โดนทีเด็ด "วีเออาร์" เต็มรัก!!

    แน่นอนว่าการเยือน ฟูแล่ม ที่มีเกมรับหลวมโคกเสียไปแล้ว 21 ประตูในลีก จึงน่าจะเป็นโอกาสดีที่ ลิเวอร์พูล จะได้เริ่มต้นนับหนึ่งในการเล่นเกมเยือน ขณะเดียวกันในส่วนของเกมบุกเจ้าบ้านก็ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ยิงได้แค่ 11 ประตูในลีกเท่านั้น ฉะนั้นนี่จึงเป็นข้อได้เปรียบสำหรับ "หงส์แดง"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »