โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก บาเยิร์น เชื่อ ที่ผ่านมาตนทำได้ดีพอจนสมควรได้สัมผัสกับรางวัล บัลลง ดอร์ โดยบอกว่าความสำเร็จและผลงานส่วนตัวมันน่าจะตอบคำถามถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
   
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าคนเก่งของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ บุนเดสลีกา เยอรมัน แสดงความเชื่อว่าที่ผ่านมาตนทำผลงานได้ดีพอจนสมควรที่จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2021 แล้ว

ดาวเตะชาวโปแลนด์เป็นหนึ่งใน 30 คนที่มีชื่อลุ้นรางวัล บัลลง ดอร์ ในปีนี้ และหลายคนก็มองว่าเขาเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะได้สัมผัสกับรางวัลลูกฟุตบอลทองคำด้วย หลังจากฤดูกาลก่อนทำประตูในลีกได้ถึง 41 ลูก จนส่งผลให้เขาทำลายสถิติการทำประตูต่อ 1 ซีซั่นได้มากที่สุดของ บุนเดสลีกา

ที่จริงแล้ว เลวานดอฟสกี้ ถูกมองว่ามีโอกาสดีที่จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ตั้งแต่ปีก่อนแล้ว เพราะในฤดูกาล 2019-20 เขาทำประตูได้ถึง 55 ลูกจากการลงเล่น 47 นัดในทุกรายการ จนทำให้ บาเยิร์น ได้ทั้งแชมป์ บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ-โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนั้นไปครอง แถมช่วงต้นซีซั่นก่อนเขาก็ยังทำประตูได้อย่างต่อเนื่องด้วย แต่สุดท้าย ฟร้องซ์ ฟุตบอล นิตยสารชื่อดังตัดสินใจยกเลิกการมอบรางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2020 โดยให้เหตุผลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มันส่งผลให้เกิดปัจจัยต่างๆ ที่ไม่สามารถตัดสินผลงานของนักเตะอย่างแท้จริงได้ อย่างเช่นการที่ ลีก เอิง ต้องตัดจบการแข่งขัน เป็นต้น

ทั้งนี้ ล่าสุด มาร์ก้า สื่อชื่อดังของสเปนได้สัมภาษณ์ เลวานดอฟสกี้ และถามเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเขาคิดยังไงกับโอกาสที่จะได้ บัลลง ดอร์ ในปีนี้ ซึ่งดาวยิงชื่อก้องก็ตอบว่า "ความเป็นไปได้ที่จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ มันมีความหมายกับผมมากๆ มันทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจสุดๆ ถ้าคุณพิจารณาถึงทุกอย่างที่ผมทำได้ทั้งในปีนี้และปีก่อนซึ่งเป็นปีที่การมอบรางวัลถูกยกเลิกไปน่ะ คุณก็จะเห็นว่าผมได้แชมป์หลายต่อหลายรายการ และทำประตูได้หลายลูกด้วย ถ้าผมได้รางวัลนี้มันก็จะเป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ"

"ผมได้ทั้งแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก, ซูเปอร์ คัพ, ชิงแชมป์สโมสรโลก และยังทำลายสถิติของ แกร์ด มุลเลอร์ ด้วยการทำไปถึง 41 ประตูกับการเล่นใน บุนเดสลีกา ได้ด้วย มันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆ ซึ่งมันก็ทำให้ผมทั้งภาคภูมิใจและมีความสุขสุดๆ"

"ทุกคนรู้ดีว่าที่ผ่านมาผมทำอะไรไปบ้าง และรู้ว่าผมยังทำอะไรต่อมาได้อีก ความสำเร็จที่ผมทำได้มันถือว่าตอบคำถามนี้ได้ดีอยู่แล้ว เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมาน่ะสิ่งที่ผมทำได้มันไม่ได้เป็นเพียงความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของผมเท่านั้น แต่เป็นความสำเร็จที่สุดยอดสำหรับนักฟุตบอลทุกคนในประวัติศาสตร์ด้วย"