ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เรือใบยิ้ม! ลิเวอร์พูลเศร้านำ2ลูกไม่เฮโดนเชลซีไล่แชร์แต้มสุดมันส์

เรือใบยิ้ม! ลิเวอร์พูลเศร้านำ2ลูกไม่เฮโดนเชลซีไล่แชร์แต้มสุดมันส์

Posted 03/01/2022 by siamsport

เสียหายไม่น้อยสำหรับสองทีมหัวตารางหลัง ลิเวอร์พูล ที่ออกนำไปก่อนถึง 2 ประตูแต่มิวายโดน "สิงห์บลูส์" ตามไล่ตีเจ๊า 2-2 โดยเป็น เชลซี รั้งรองฝูง มี 43 คะแนนตามหลัง แมนซิตี้ 10 แต้ม ส่วนทาง "หงส์แดง" ขยับเพิ่มเป็น 42 คะแนนยึดอันดับ 3 แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี รองจ่าฝูง พาทีมเสมอไบรท์ตัน 1-1 แบบสุดเซ็งในเกมล่าสุด เพราะเสียประตูในช่วงทดเจ็บ แต่ก็ทำให้ไม่แพ้มา 5 เกมแล้ว ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล อันดับ 3 พาทีมแพ้เลสเตอร์ 0-1 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 11 เกมรวมทุกรายการ    

    เปิดฉากครึ่งแรก 7 นาที "หงส์แดง" หวิดงานเข้าจากความผิดพลาดของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สกัดบอลไปติดบล็อค ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้อนเข้ากรอบ 6 หลาถึง คริสเตียน พูลิซิช แตะไม่ผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ ล้มตัวรวบเอาไว้ได้

    แต่แล้วนาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล ทะยานออกนำ 1-0 จากจังหวะทางขวาของ ดิโอโก้ โชต้า ตักบอลเข้าเขตโทษติดหัว เทรโวห์ ชาโลบาห์ โขกสกัดพลาดกลายเป็นถวายพานให้ ซาดิโอ มาเน่ เก็บส้มหล่นล็อกหนี เอดูอาร์ เมนดี้ ได้ช่องตวัดด้วยซ้ายตุงตาข่าย

    นาทีที่ 19 "สิงห์บลูส์" ออกหมัดสวนบ้าง เมสัน เม้าน์ท ขยับมาเก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนทิ้งยาวเข้าเขตโทษลึกมาเสาไกลถึง มาร์กอส อลอนโซ่ ตะบันด้วยซ้ายตามน้ำเหินข้ามคานออกไปไกล

    ต่อมานาทีที่ 26 ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวยทางฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตักบอลขึ้นมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แตะเข้าเขตโทษโยกหนี มาร์กอส อลอนโซ่ ก่อนซัดด้วยซ้ายยัดเสาแรกผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไปอย่างเหนือชั้น

    30 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น ดวงเฮงจากจังหวะนอกเกมของ เมสัน เม้าน์ท ไปเจตนาเตะใส่ คอสตาส ซิมิคาส แต่ยังโชคดี แอนโธนี่ เทย์เลอร์ รอฟังสัญณาน วีเออาร์ หันมาผายมือให้เกมดำเนินต่อ

    ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 42 เจ้าถิ่น ไล่มาเป็น 1-2 จากลูกฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา มาร์กอส อลอนโซ่ เปิดลึกไปติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ปัดย้อนมาหน้ากรอบ 18 หลาเข้าทาง มาเตโอ โควาซิช ถอยมา ฮาลฟ์วอลเลย์ ด้วยขวาบอลติดไซค์ก้อยพุ่งชนเสาไกลเหลี่ยมในเด้งเข้าประตูงามหยด

    ใจช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1 "สิงห์บลูส์" ตามตีเสมอ 2-2 เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดีดบอลหนีบล็อค อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลอยเข้าเขตโทษถึง คริสเตียน พูลิซิช สอดมาพักอกได้ช่องซัดด้วยซ้ายผ่านมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ไม่เหลือ

    หมดครึ่งเวลาแรก เชลซี 2 ลิเวอร์พูล 2

    50 นาทีผ่านคราวนี้ เจ้าถิ่น ออกหมัดก่อน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พาบอลแหวกขึ้นมาแทงออกซ้ายถึง มาร์กอส อลอนโซ่ แตะเข้าเขตโทษดึงเข้าขวาหนี อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่ซัดข้ามคานออกไปไกล

    นาทีต่อมา "หงส์แดง" หวิดได้เฮจากบอลกลางสนาม ฟาบินโญ่ วางบอลข้ามแนวรับ เชลซี มาตกใส่เท้า ดิโอโก้ โชต้า ขยับมาเก็บในเขตโทษก่อนตะบันด้วยซ้ายติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ ล้มตัวปัดออกหลังเหลือเชื่อ

    นาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทอง ดิโอโก้ โชต้า ขยับตามมาปั๊มบอลแปะต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกี่ยวกระชากขึ้นมาปั่นด้วยซ้ายเกือบเล่นงาน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ออกมาไกลแต่ต้องชมนายทวารชาว เซเนกัล ถอยไปตะปปทิ้งได้ทัน

    จากจังหวะต่อเนื่องคราวนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถอยมาเชื่อมบอลดีดชิ่งให้ ซาดิโอ มาเน่ ขยับมารับบอลโยกหนี ติอาโก้ ซิลวา หลุดเข้าเขตโทษก้มหน้าอัดด้วยขวายัดเสาแรกก็ยังไม่ผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เหมือนเดิม

    ต่อมานาทีที่ 62 เชลซี หวิดแซงนำจากจังหวะครอสทางซ้ายบอลย้อยเข้ากรอบ 6 หลามาถึง คริสเตียน พูลิซิช โฉบตัดหน้า คอสตาส ซิมิคาส ชาร์ด้วยซ้ายเกือบเสียบใต้คานติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นิดเดียว

    10 นาทีสุดท้าย "สิงห์บลูส์" มาได้ลุ้นเพิ่มจากฟรีคิกของ เมสัน เม้าน์ท และ มาร์กอส อลอนโซ่ แต่ก็ยังไม่ดีพอผ่านเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ยืนตำแหน่งดีรับเอาไว้ได้หมด

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม เชลซี 2 ลิเวอร์พูล 2

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง

    เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้, เทรโวห์ ชาโลบาห์ (จอร์จินโญ่ น.70), ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เม้าน์ท, ไค ฮาแวร์ตซ์ (คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย น.79) - คริสเตียน พูลิซิช

ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิ่ล

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอสตาส ซิมิคาส - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ (นาบี เกอิต้า น.69) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า (อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.69), ซาดิโอ มาเน่ (เคอร์ติส โจนส์ น.90)

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์   

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ลิเวอร์พูลเตรียมรับทรัพย์หากนิวคาสเซิ่ลคว้าตัวเด็กเก่าเข้าทีม
    ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ สื่อท้องถิ่นย่านเมอร์ซี่ย์ ไซด์ รายงานว่าสโมสรลิเวอร์พูล เตรียมได้เงินส่วนแบ่งกำไรนักเตะ หากอดีตผู้เล่นขอทีมย้ายไปอยู่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
  • หงส์ไร้คล็อปป์! เชลซีฟัดลิเวอร์พูลจัด "ฮาแวร์ตซ์ วัดคม ซาลาห์" เดิมพันรองฝูง
    "สิงห์บลูส์" รองจ่าฝูง ของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล พลาดไม่ได้หากยังหวังลุ้นแชมป์ความพร้อมเจอปัญหาเพียบแนวรุกปรับใช้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ส่วนทาง"หงส์แเดง" ทีมอันดับ 3 จะไม่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีมข้างสนามจากปัญหาโควิดโดยเกมนี้ต้องมีแต้มเพื่อขึ้นอันดับ 2 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 2 มกราคมนี้
  • ต้องชนะเพื่อไล่บี้เรือใบ! เจาะ 5 ข้อก่อนเกมลิเวอร์พูล เยือน เชลซี
    ลิเวอร์พูล กับ เชลซี มีคิวต้องพบกันเองในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคมนี้ โดยงานนี้ทั้งสองสโมสรมีปัญหารุมเร้าทั้งในและนอกสนาม อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพยายามที่จะเอาชนะกันให้ได้ เพื่อที่จะได้ทำแต้มกลับไปไล่บี้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง กระนั้นแมตช์นี้ "หงส์แดง" เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ, ติดโควิด และติดโทษแบน ขณะที่ "สิงห์บูลส์" เจอปัญหาจากการให้สัมภาษณ์ของ โรเมลู ลูกากู ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามัคคีภายในทีมก็ได้
  • ซาลาห์-มาเน่พร้อมลุย,ส่อไร้อลีสซง?คาด11ตัวจริงลิเวอร์พูลเยือนเชลซี
    คืนวันอาทิตย์นี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับสาม ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีโปรแกรมสุดสำคัญ โดยจะออกไปเยือน เชลซี ทีมอันดับสอง ที่สังเวียนแข้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งถือเป็นเกมที่ต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะอย่างมาก หลังจากที่ล่าสุดโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง โกยคะแนนทิ้งไปไกลสิบกว่าแต้ม และเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" ไม่สามารถคุมทีมข้างสนามได้ เนื่องจากติดเชื้อไวรัส "โควิด-19" ซึ่งนั่นหมายความว่า เป๊ป ลินเดอร์ส ผู้ช่วยโค้ชชาวดัตช์ ต้องลงทำหน้าที่แทน และนี่คือชุด 11 ผู้เล่นตัวจริง ลิเวอร์พูล ภายใต้ระบบ 4-3-3 ที่น่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้ โดยที่อาจจะไม่มี อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารจอมหนึบเลือดแซมบ้า ลงเฝ้าประตู (อ้างอิงจาก thisisanfield.com)

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »