ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » แชมเปี้ยนส์ลีกคัมแบ็ค! 6 ข้อควรรู้ก่อนลุ้นถ้วยหูใหญ่รอบ 16 ทีม

แชมเปี้ยนส์ลีกคัมแบ็ค! 6 ข้อควรรู้ก่อนลุ้นถ้วยหูใหญ่รอบ 16 ทีม

Posted 15/02/2022 by siamsport

ศึกลูกหนัง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เกมการโม่เกือกที่มีแฟนบอลให้การติดตามทั่วทุกมุมโลกกำลังจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกแล้ว
   
หลังผ่านพ้นการดวลกันในรอบแบ่งกลุ่ม การทำศึกในรอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกจะออกสตาร์ตกันในวันอังคารนี้ (15ก.พ.) โดยสองคู่แรกจะเป็นการปะทะกันระหว่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง กับ เรอัล มาดริด และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน กับ แมนฯ ซิตี้

และนี่คือ 6 ข้อที่ทุกคนควรรู้ก่อนตามลุ้นตามเชียร์ให้มีอรรถรสมากขึ้น

1.  บาร์เซโลน่า ไม่มีเอี่ยว

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีที่ทีมยักษ์จากกาตาลันไม่อาจผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ

มันก็สมควรอยู่หรอกในเมื่อ บาร์ซ่า แพ้ให้กับคู่แข่งด้วยสกอร์ 3-0 มากถึงสามนัดเริ่มตั้งแต่นัดแรกที่โดน บาเยิร์น มิวนิค บุกมาขยี้ และตามด้วยการออกไปแพ้ เบนฟิก้า ด้วยสกอร์เดียวกันในเกมที่สอง

ยิ่งไปกว่านั้น ทีมดังของลีกกระทิงดุไม่อาจแก้แค้น  พญาเหยี่ยวลิสบอน ได้ด้วยเพราะทำได้แค่เจ๊าใน คัมป์นู แบบไร้สกอร์ในนัดรองสุดท้ายก่อนปิดฉากออกไปโดน เสือใต้ ขย้ำเละอีก 3-0 หลุดไปเตะถ้วย ยูโรปาลีก ตามระเบียบ

สำหรับเกม ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย บาร์ซ่า จะต่อกรกับ นาโปลี ซึ่งคว้าอันดับสองของรอบแบ่งกลุ่มถ้วยใบนี้รองจาก สปาร์ตัก มอสโกว์ และเขี่ย เลสเตอร์ ซิตี้ ลงไปเล่นในรายการ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก

ทั้งนี้ หนล่าสุดที่ บาร์ซ่า ไม่ได้พะบู๊ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ซึ่งพวกเขาพ่ายต่อ เซลติก ในถ้วย ยูฟ่าคัพ รอบสี่ด้วยสกอร์รวม 1-0 หลังจบอันดับหกในลีกสแปนิช

2.ทีมจากอังกฤษยังอยู่กันครบ

สปอร์ติ้ง ลิสบอน - แมนฯ ซิตี้

เชลซี - ลีลล์

แอตเลติโก มาดริด - แมนฯ ยูไนเต็ด

อินเตอร์ มิลาน - ลิเวอร์พูล

ถือเป็นครั้งที่สี่ในห้าซีซั่นที่มีทีมจาก พรีเมียร์ลีก สี่ทีมทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมของถ้วยหูใหญ่ แถมทั้งหมดผ่านเข้ารอบได้ก่อนจบเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

เท่านั้นไม่พอ สามจากสี่ทีมของเมืองผู้ดีได้รับการยกให้มีโอกาสคว้าแชมป์ในปีนี้ไม่ว่าจะเป็น เรือใบสีฟ้า , หงส์แดง และ สิงห์บลูส์  ยกเว้น ผีแดง

อย่างไรก็ดี ให้น่าหนักใจแทนตัวแทนจากเมืองผู้ดีไม่หยอกเนื่องจากทั้งหมดถูกจับสลากให้ต่อกรกับแชมป์จากสี่ลีกทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น สเปน , อิตาลี , ฝรั่งเศส และ โปรตุเกส

แต่ขณะเดียวกัน มันพอจะเบาใจได้อยู่เนื่องจากถึงขณะนี้ทั้งสี่ทีมล้วนฟอร์มตก ไม่ได้เป็นจ่าฝูงในลีกของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น

จึงไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจได้เห็นคู่ชิงชนะเลิศปีนี้ซ้ำรอยกับปีก่อนก็ได้ที่เป็นการเผชิญหน้ากันเองของสองทีมจากเมืองผู้ดีโดย เชลซี พิชิต แมนฯ ซิตี้ ลงได้ด้วยสกอร์ 1-0

ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น มันก็หมายความว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องรอการคว้าถ้วยหูใหญ่กับทีมในลีกอื่นที่ไม่ใช่ ลา ลีกา อีกต่อไป

3.ส่วนผสมที่หลากหลาย

เกมในรอบ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ลีก คราวนี้ประกอบไปด้วยทีมลูกหนังจากแปดชาติ รวมถึงน้องใหม่ที่ได้ร่วมชิงชัยเป็นครั้งแรกอย่าง เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ด้วย

รวมแล้ว ซัลซบวร์ก , อาแจ็กซ์ , เบนฟิก้า และ สปอร์ติ้ง ลิสบอน คือสโมสรที่ไม่ได้อยู่ในห้าลีกใหญ่ของทวีปยุโรป

อย่างไรก็ดี ทีมของ เอริค เทน ฮาก มีผลงานสอยตาข่ายในรอบแบ่งกลุ่มสูงสุดเป็นอันดับสอง 20 ประตู เป็นรอง บาเยิร์น แค่ทีมเดียวโดย เสือใต้ กระซวกตาข่ายชาวบ้านได้ 22 เม็ด

ด้าน สปอร์ติ้ง ลิสบอน สร้างความฮือฮาได้ไม่เบาเนื่องจากคว้าอันดับสองเข้ารอบตาม อาแจ็กซ์ โดยเขี่ย ดอร์ทมุนด์ ทีมเต็งของกลุ่มร่วงไปเล่นถ้วย ยูโรปาลีก อย่างน่าช็อก

เท่านั้นไม่พอ เซบาสเตียน อัลแลร์ กองหน้า อาแจ็กซ์ ยังรั้งตำแหน่งดาวซัลโวในปัจจุบันด้วยจากผลงานพังประตูไปแล้ว 10 เม็ดจากหกเกม ขณะที่ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ของทีม แอร์เบ ไลป์ซิก รั้งอันดับสามร่วมกับ โม ซาลาห์ 7 ประตู รองจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอก บาเยิร์น 9 ประตู

4.ใครได้ประโยชน์จากการจับสลากใหม่?

ศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องมีการจับสลากใหม่หลังเกิดข้อผิดพลาดในการจับสลากหนแรก

และแน่นอนว่าบางทีมเจอกับคู่ปรับที่แข็งแกร่งกว่ารายแรก ขณะที่บางทีมได้ดวลกับทีมที่อ่อนลง

แรกทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกประกบให้พบกับ เปแอสเช อีกทีมตัวเต็งแชมป์ซึ่งจะเป็นการปะทะกันระหว่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่

อย่างไรก็ดี หลังการจับสลากใหม่ ผีแดง ได้บู๊กับ แอตเลติโก มาดริด แทนโดยปัจจุบันทีม ตราหมี หล่นไปอยู่ในอันดับห้าของ ลา ลีกา แล้ว

ในทางกลับกัน เปแอสเช ต้องจ๊ะเอ๋กับ เรอัล มาดริด เจ้าพ่อตัวจริงของถ้วยใบนี้จึงเป็นโปรแกรมที่หนักกว่าการได้ต่อกรกับ ผีแดง อย่างแน่นอน

สำหรับ ลิเวอร์พูล เจองานยากมากขึ้นจากที่ได้บู๊กับ เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก ทีมจากออสเตรีย พวกเขาต้องหันไปฟาดเกือกกับ อินเตอร์ มิลาน แทน

ด้าน แมนฯ ซิตี้ ต้องเตะกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แทนที่จะเป็น บียาร์เรอัล ขณะที่ เชลซี ยังเจอกับ ลีลล์ เหมือนเดิมในการจับสลากทั้งสองหน

ขณะเดียวกัน เสือใต้ ที่เดิมทีได้ประกบกับทีม ตราหมี ต้องเล่นกับ ซัลซบวร์ก แทน ขณะที่ ราชันชุดขาว ต้องเจองานช้างกับ เปแอสเช แทนที่จะเป็น เบนฟิก้า

5.ไม่มีกฏอะเวย์โกลอีกแล้ว

เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาท์จะไม่มีกฏประตูทีมเยือนเนื่องจาก ยูฟ่า ตัดสินใจยุบกติกาดังกล่าวทิ้งไป

เท่ากับว่าหากสองเกมจบลงด้วยสกอร์รวมที่เสมอกัน การต่อเวลาพิเศษจะเริ่มขึ้นก่อนลงเอยด้วยการดวลลูกโทษตัดสินหาทีมเข้ารอบควอเตอร์ไฟนั่ล

แน่นอนว่ามันจะทำให้รสชาติของการฟาดแข้งกร่อยลงไปสำหรับคอบอลซาดิสต์เนื่องจากกฏประตูทีมเยือนสามารถสร้างความเสียวซ่านได้ในทุกๆนาทีของเกมอันทำให้อาจมีรายการ "พลิกล็อค" เกิดขึ้นน้อยลง

อย่างที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตกุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เคยหักปากกาเซียนเขี่ย เปแอสเช ทีมเงินถังของ ลีกเอิง ตกรอบแบบช็อกโลกมาแล้ว

6.เมสซี่ จะพา เปแอสเช คว้าแชมป์เป็นครั้งแรกได้หรือไม่?

ตอนที่ เปแอสเช เซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ พวกเขาไม่ได้ต้องการให้อดีตดาวยิง บาร์ซ๋า พาทีมซิวแชมป์ ลีกเอิง แน่นอน แต่เป็นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ต่างหากที่เศรษฐีเมืองน้ำหอมถวิลหา

ตลอดหนึ่งทศวรรษที่กลุ่มทุนจากกาตาร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร เปแอสเช ยังไม่สมหวังกับถ้วยหูใหญ่เลยทั้งๆที่ลงทุนไปเยอะ และพ่ายต่อ บาเยิร์น 1-0 ในนัดชิงดำปี 2020

กระทั่งมาวันนี้ พวกเขามีสามแนวรุกพระกาฬอยู่ในทีมทั้ง เมสซี่ , เนย์มาร์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้

และที่สำคัญ หากพลาดแชมป์ในปีนี้อีก พวกเขาก็ไม่น่าจะมีดาวยิงเฟรนช์แมนอยู่กับทีมในซีซั่นหน้าด้วยเนื่องจากนักเตะกำลังจะหมดสัญญา และสามารถย้ายออกไปแบบฟรีๆได้ในเดือนก.ค. หลังจาก เปแอสเช เคยปฏิเสธเม็ดเงิน 137 ล้านปอนด์จาก ราชันชุดขาว มาแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์

ด้าน เมสซี่ จะมีอายุครบ 35 ปีในช่วงซัมเมอร์นี้ และหากปีนี้ เปแอสเช ล้มเหลวอีกพวกเขาคงต้องสร้างทีมขึ้นมาใหม่ และไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเนื่องจากดาวเตะอาร์เจนไตน์ไม่ใช่คนหนุ่มที่มีกำลังวังชามากพอจะพาทีมประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดได้ง่ายๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »