ไกเซอร์สลาเทิร์น เล่นในบ้านโดน แฟร้งเฟิร์ต บุกมาถล่มคารัง 0-3 ขณะที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เปิดรังเฉือนเอาชนะ มึนเช่นกลัดบัค หวุดหวิด 3-2 ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553
ไกเซอร์สลาเทิร์น 0 - 3 แฟร้งเฟิร์ต
 สนาม : ฟริตซ์วอลเตอร์ สตาดิโอน  

 
     มาร์โค ควร์ซ เทรนเนอร์ของ ไกเซอร์สลาเทิร์น ปรับทัพแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมล่าสุด ดร็อป โอลิเวอร์ เคิร์ช เป็นสำรอง และส่ง เออร์วิน ฮอฟเฟอร์ มายืนจับคู่กองหน้ากับ เซอร์ดาน ลาคิช
 
     ฟาก มิชาเอล สคิบเบ้ เทรนเนอร์ แฟร้งเฟิร์ต จัดทัพใหญ่มาเต็มสูบ ใช้ ฮาลิล อัลตินท็อป กับ ธีโอฟานิส เกคัส  ยืนเป็นคู่หน้าตอยล่าตาข่าย
 
     เปิดฉากเริ่มเกมมา 14 นาทีเจ้าบ้านมาได้ลุ้นขึ้นนำจากลูกเตะมุม คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต เปิดบอลเข้ามาให้ รอดเน โถมขึ้นโหม่งบอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
 
     นาที 26 เจ้าบ้านมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ จอร์จิออส ซาเวลลาซ ไปทำฟาวล์ ลาคิช ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ ซเวเยอร์ ชี้ไปที่จุดโทษทันทีพร้อมทั้งควักใบเหลืองให้แก่ ซาเวลลาซ ด้วย ทว่า ลาคิช กลับซัดจุดโทษไปทางซ้ายเบาหวิวโดน โอค่า นิโคลอฟ  ล้มตัวป้องกันเอาไว้ได้ ทำให้สกอร์บอร์ดยังคงที่อยู่
 
     เกมยังเป็นทางเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นตลอด นาที 37 ทิฟเฟิร์ต เปิดลูกฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ลาคิช พุ่งเข้ามาโขกบอลเหินข้ามคานออกไปอีก
 
     กระทั่งนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกแฟนบอลเจ้าบ้านต้องเซ็งกันไปเป็นแถบ เมื่อโดนทีมเยือนบุกมาออกนำ จากความผิดพลาดในแดนกลางที่ อิโว อิลิเซวิช เสียบอลให้ พาทริค โอ๊คส์ มาทำชิ่งหนึ่งสองกับ เพอร์มิน ชเวกเลอร์ ก่อนจ่ายมาให้ เกคัส อัดด้วยซ้ายเข้าประตูไป  เป็นประตูที่หกของ เกคัส ในฤดูกาลนี้ แฟร้งเฟิร์ต ออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
 
     ช่วงพักครึ่ง ควร์ซ ไม่รอช้าปรับแท็กติกทันทีถอด คลีเมนส์ วัลช์ ที่ไร้บทบาทออกไป และส่ง โอลิเวอร์ เคิร์ช ลงมาบู๊แทน
 
     เขี่ยลูกเริ่มครึ่งหลังมาสองนาที ทีมเยือนน่าได้ลูกที่สองอย่างยิ่ง จากจังหวะฟรีคิกที่ ซาเวลลาซ ครอสบอลเข้ามาให้ มาร์โค รุสส์ โหม่งระยะแค่หกหลาถูก โทเบียส ซิปเปิ้ล ผวาปัดบอลออกมาเข้าทาง เกคัส ได้ซ้ำดาบสอง ทว่า ซิปเปิ้ล ยังสุดยอดตามไปปัดบอลออกหลังได้ทันอย่างเหลือเชื่อ
 
     เกมของ ไกเซอร์สลาเทิร์น ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และก็มาโดนลูกที่สองจนได้ในนาที 67 จากลูกเตะมุมที่ ซาเวลลาซ เปิดเข้ามาให้ เกคัส เจ้าเก่าสลัดหนีการประกบของ รอดเน เข้าไปกระทุ้งบอลด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย ส่งผลให้ เกคัส ขึ้นมานำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ ปาปิส ซิสเซ่ ที่จำนวนเจ็ดลูกแล้ว แฟร้งเฟิร์ต ทิ้งห่าง 2-0
 
     นาที 79 เกคัส ต้องชวดทำแฮตทริคในเกมนี้ เมื่อ สคิบเบ้ เปลี่ยนตัวออกมาพักและส่ง อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ ลงไปเล่นแทน
 
     ทว่าแท็กติกของ สคิบเบ้ ก็เห็นผลทันควันเมื่อทีมมาได้ลูกที่สามฝังเจ้าถิ่นลงหลุมสนิทในนาที 83  เซบาสเตียน ยุงก์ แบ็กขวาครอสจากริมเส้นเข้ามาให้ ไมเออร์ สอดเข้ามาชาร์จบอลจ่อๆเข้าประตูไป แฟร้งเฟิร์ต ฉีกไกลเป็น 3-0
 
     ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มขึ้น ทำให้จบเกม แฟร้งเฟิร์ต บุกมาถล่มเจ้าบ้าน ไกเซอร์สลาเทิร์น 3-0 เก็บสามแต้มเต็มเข้ากระเป๋า
 
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     ไกเซอร์สลาเทิร์น  : โทเบียส ซิปเปิ้ล - โฟลเรียน ดิ๊ค, มาร์ติน เอเมดิค, รอดเน, เลออน เยสเซ่น - คลี เมนส์ วัลช์ (โอลิเวอร์ เคิร์ช น.46), ยิรี่ บิเล็ค (แยน โมราเว็ค น.57), คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, อิโว อิลิเซวิช - เออร์วิน ฮอฟเฟอร์ (อดัม เนเม็ช น.79), เซอร์ดาน ลาคิช

     สำรองไม่ได้ใช้ : เควิน ทรัปป์, อเล็กซานเดอร์ บูเกร่า, มัทธีอัส อาเบล, บาสเตียน ชูลซ์
 
     แฟร้งเฟิร์ต  : โอค่า นิโคลอฟ - เซบาสเตียน ยุงก์, มาร์โค รุสส์, ไมค์ ฟรานซ์, จอร์จิออส ซาเวลลาซ ( ยอนนิส อมานาติดิส น.89) - เพอร์มิน ชเวกเลอร์ - คริส, เพอร์มิน ชเวกเลอร์ - พาทริค โอ๊คส์ (มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์ น.91), เบนจามิน โคห์เลอร์ - ฮาลิล อัลตินท็อป, ธีโอฟานิส เกคัส (อเล็กซานเดอร์ ไมเออร์ น.79)

     สำรองไม่ได้ใช้ : ราล์ฟ เฟห์รมันน์, อเล็คซานดาร์ วาโซสกี้, คาโย่, ซอนนี่ คิทเทิ่ล
 
     ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซเวเยอร์

ฮอฟเฟ่นไฮม์ 3 - 2 มึนเช่นกลัดบัค
สนาม : ไรน์-เน็คการ์ อารีน่า 

 
     ราล์ฟ รังนิก เทรนเนอร์ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ขยับเอา มาร์วิน คอมป์เปอร์ เข้ามายืนเป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ อิซัค วอร์ซาห์ แทนที่ โยซิป วิมูนิช ที่โดนแบน ขณะที่เกมรุกยังใช้ เพเนียล เอ็มปาลา, เวดัด อิบิเซวิช และ เด็มบา บา เป็นสามประสานเช่นเดิม
 
     ด้าน "สิงห์หนุ่ม" ปรับทัพแค่ตำแหน่งเดียว ส่ง โมฮามาดู อิดริสซู ลงมายืนทำเกมรุกแทนที่ พาทริค แฮร์มันน์ ที่บาดเจ็บ และวาง ราอูล โบบาดีย่า ดาวยิงอาร์เจนไตน์เป็นหน้าเป้าต่อไป
 
     เปิดฉากเริ่มเกมมาห้านาทีเป็นเจ้าบ้านที่น่าขึ้นนำก่อน หลุยซ์ กุสตาโว่ เคาะบอลสั้นมาให้ เซบาสเตียน รูดี้ จับหนึ่งจัหวะและซัดไกลเต็มข้อทันที บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปหวุดหวิด
 
     นาที 9  ฟิลิป เดมส์ กองหลัง มึนเช่นกลัดบัค เกือบทำพลาดให้ทีมโดนส่อง เมื่อจ่ายบอลพลาดถูก รูดี้ ตัดได้ ก่อนที่ รูดี้ จะลากบอลขึ้นมาไหลทะลุช่องให้ เอ็มปาลา ตวัดยิงเรียดไปติดขา โลแกน เบลลี่ นายด่านทีมเยือนที่ออกมาบล็อคได้เร็ว
 
     ทว่านาที 12 กลับเป็น สิงห์หนุ่ม ที่มาออกนำไปก่อนจากโอกาสลุ้นครั้งแรก เซบาสเตียน ชัคเท่น  สาดบอลยาวขึ้นหน้ามาให้ มาร์โค รอยส์ ตบบอลโด่งเข้ากลางมาให้ โบบาดีย่า วิ่งสอดเข้ามากระดกบอลสวนตัว ทอม สตาร์เค่ เข้าประตูไปนิ่มๆ มึนเช่นกลัดบัค บุกนำ 1-0
 
     ห้านาทีต่อมาทีมเยือนมามีลุ้นบวกสกอร์ที่สอง ชัคเท่น แบ็กซ้ายลากตะลุยแหวกหนีผู้เล่นเจ้าบ้านสองคน ก่อนอัดด้วยขวาบอลไปตกตาข่ายด้านบน
 
     เกมกลับมาเป็นของทีมเยือนที่ครองบอลบุกใส่ได้มากกว่า รอยส์ โยนลูกเตะมุมมาที่เสาสองให้ อันแดร์สัน โหม่งตั้งมาที่เสาแรกให้ อิดริสซู โขกบอลเหินข้ามคานออกไปได้ลุ้น
 
     เกมผ่านมาครบครึ่งชั่วโมงยังเป็นทีมเยือนที่เหนือกว่าและมาได้ลุ้นอีกครั้ง เบลลี่ เตะเปิดบอลยาวหลุดมาถึง โบบาดีย่า ล็อคหนี อันเดรียส์ อิแบร์ทสแบร์เกอร์ และปั่นบอลด้วยซ้ายหมายให้เข้าเสาแรก ทว่า สตาร์เค่ ล้มตัวตะครุบบอลไว้ได้ทัน
 
     ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมของทั้งสองทีมกลับมาสูสีและเดินหน้าลุยเข้าใส่หากันตลอด ทว่าไม่มีจังหวะหวาดเสียวให้ได้ลุ้นมากนัก จบ 45 นาทีแรก มึนเช่นกลัดบัค บุกมานำ 1-0
 
     ช่วงพักครึ่ง รังนิก ไม่รอช้าปรับแท็กติกทันที ถอด อิบิเซวิช ที่หายไปจากเกมออกมา และส่ง บอรุส วุคเซวิช ลงไปบู๊แทน
 
     และเขี่ยลูกเริ่มครึ่งหลังมาหนึ่งนาทีการแก้เกมของ รังนิก ก็เป็นผลทันควันเมื่อเจ้าบ้านมาได้ลูกตีเสมอสำเร็จ จากจุดเริ่มที่ วุคเซวิช เปิดบอลยาวออกมาริมเส้นให้ เอ็มปาลา ที่สปีดหนี เดมส์ มาแบบไม่เห็นฝุ่นก่อนตบบอลเรียดเข้ากลางมาให้ บา สไลด์ชาร์จบอลเข้าไปตุงตาข่าย ฮอฟเฟ่นไฮม์ ตีเจ๊าเป็น 1-1
 
     นาที 49 สิงห์หนุ่มเกือบออกนำอีกครั้ง อารันโก้ เปิดฟรีคิกอันตรายเข้ามาถูก สตาร์เค่ ทุบบอลออกมาชน อิดริสซู กระเด้งย้อนหลุดกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ
 
     ถัดมานาทีเดียวเจ้าบ้าน่าพลิกขึ้นนำอย่างยิ่ง อันเดรียส์ เบ็ค ลากบอลตัดเข้ากลางมาก่อนซัดไกลทันที บอลพุ่งผ่านมือ เบลลี่ ที่รับบอลจั่วลมไปชนคานดังสนั่น ทำเอา รังนิก ที่ลุ้นอยู่ข้างสนามกุมหัวด้วยความเสียดายอย่างยิ่ง
 
     เกมกลับมาเป็นของเจ้าบ้านหมดแล้ว และนาที 62 สถานการณ์ของทีมเยือนก็ย่ำแย่หนักไปอีกเมื่อมาเหลือผู้เล่นในสนาม 10 คน อารันโก้ คุมอารมณไม่อยู่ไปยกขาถีบคืนใส่ เซยาด ซาลิโฮวิช อย่างน่าเกลียด ทำให้ผู้ตัดสิน มิชาเอล ไวเนอร์ ควักใบแดงไล่ออกจากสนามไปทันที
 
     และนาที 67 เจ้าบ้านก็ฉวยโอกาสจาการมีผู้เล่นที่มากกว่า ทำประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 สำเร็จ จากลูกเตะมุมที่ ซาลิโฮวิช เปิดเข้ามาให้ บา โฉบมาโขกไม่โดนบอล และบอลหลุดเลยไปชนเสาในบอลข้ามเส้นประตูเข้าไปชัดเจน แม้ เบลลี่ จะควักออกมาได้ ทว่าผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นประตูไปแล้ว โดยยกเครดิตประตูนี้ให้ บา ด้วย
 
     ท้ายเกมนาที 81 สถานการณ์ของทีมเยือนยิ่งแย่ลงไปอีก จากจังหวะที่ เดมมา บา กำลังได้ยิงในเขตโทษ แต่ถูก เซบาสเตียน แชชเท่น ดึงล้มอย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่กองหลังทีมเยือนออกจากสนามเป็นคนที่ 2 พร้อมให้จุดโทษเจ้าบ้าน และเป็น เซยาด ซาลิโฮวิช ที่ยิงเข้าไป เจ้าบ้านนำห่าง 3-1
 
     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นมาได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 จาก โมฮามาดู อิดริสซู แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม ฮอฟเฟ่นไฮม์ เอาชนะ มึนเช่นกลัดบัค 3-2
 
     รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

     ฮอฟเฟ่นไฮม์ : ทอม สตาร์เค่ - อันเดรียส์ เบ็ค, อิซัค วอร์ซาห์, มาร์วิน คอมป์เปอร์, อันเดรียส์ อิแบร์ทสแบร์เกอร์ - เซบาสเตียน รูดี้, หลุยซ์ กุสตาโว่, เซยาด ซาลิโฮวิช - เพเนียล เอ็มปาลา, เวดัด อิบิเซวิช, เด็มบา บา

     สำรอง : ดาเนียล ฮาส, คริสเตียน ไอช์เนอร์, มัทธีอัส ไยส์เล่อ,โทเบียส ไวส์, บอริส วุคเซซิช, ซิเนดู โอบาซี่
 
     มึนเช่นกลัดบัค  : โลแกน เบลลี่ - โทเบียส เลเวลส์, อันแดร์สัน, ฟิลิป เดมส์, เซบาสเตียน ชัคเท่น -ไมเคิ่ล แบร็ดลี่ย์, ธอร์เบน มาร์ก - มาร์โค รอยส์, ฮวน อารานโก้, โมฮามาดู อิดริสซู, ราอูล โบบาดีย่า

     สำรอง :  คริสโตเฟอร์ ไฮเมอโรธ, เยนส์ วิสซิ่ง, มาร์เซล เมียววิส, โรมัน นอยสเตดเทอร์, เอลเลียส คาชุนก้า, ฟาเบียน เบ็คเกอร์, อิกอร์ เด คามาโกร 
 
     ผู้ตัดสิน : มิชาเอล ไวเนอร์