ชี้ชะตา ไบรอัน ร็อบสัน คุมทีมต่อหรือไม่ ให้เป็นมติของสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี เรียกประชุมใหญ่ 24 ธ.ค.นี้ พร้อมยินดีเปิดโต๊ะเจรจากับแฟนบอล เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ และพัฒนาวงการด้วยกัน แถมได้ร่างธรรมนูญการเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลฯ และหลักการบริหารฉบับใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า จะใช้ในการเลือกตั้งสมัยหน้านี้เลย ชี้สโมสรมีสิทธิ์เลือกตั้งต้องเป็นอาชีพ

 

       ตามที่เว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ รวมถึง ไทยแลนด์สู้สู้ ซึ่งถือเป็นแหล่งพบปะพูดคุยกันของแฟนฟุตบอลไทยในโลกออนไลน์ ได้มีการนัดรวมตัวกัน เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (11 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าอาคารมาลีนนท์ ซึ่งเป็นที่ทำการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อหวังที่จะกดดันให้ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี รวมถึงสภากรรมการบริหารของสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการประกาศลาออกแบบยกชุด ด้วยเหตุผลที่ทีมชาติไทย ตกรอบแรกในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010
 

      โดยการชุมนุมมีแฟนบอลประมาณ 150 คน นำโดย พินิจ งามพริ้ง ประธานชมรมเชียร์ไทย พร้อมด้วย พิพัฒน์ ณ เมืองทอง ประธานเชียร์สโมรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด, จิรัฐ จันทะเสน แห่งสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย และตัวแทนแฟนคลับสโมสรต่างๆ ในไทยลีก
 

      ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้อ้างสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น ตามหลักประชาธิปไตย เพื่อเสนอหาทางออกกับปัญหาความตกต่ำของทีมชาติไทย พร้อมกับต้องการให้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ และสภากรรมการบริหารประกาศลาออกจากตำแหน่ง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้
 

      พร้อมกันนั้น พินิจ งามพริ้ง และ พิพัฒน์ ณ เมืองทอง ก็ได้เป็นแกนนำ ในการมอบหนังสือ ซึ่งประกอบด้วยความล้มเหลวของทีมชาติไทย ในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงแผนพัฒนาฯ และเป้าหมายในระยะยาว ที่ถือเป็นที่ต้องการของแฟนฟุตบอลไทยส่วนใหญ่มามอบให้แก่ นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของช่อง 3 ที่ลงมารับมอบด้วยตนเอง

                                                               แข้งสาว 16 ปี รุดให้กำลังใจ "บังยี"

     วันเดียวกันที่ รร.เรดิสัน ทางแข้งสาวเยาวชน 16 ปีทีมชาติไทย นำโดย ดร.กษม ชนะวงศ์ ผจก.ทีม ได้นำกระเช้าดอกไม้ เดินทางเข้าพบ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อให้กำลังใจในการทำงานต่อไป
 

     โดย "บังยี" ก็ได้กล่าวขอบคุณนักเตะทุกคน พร้อมกับให้ทำหน้าที่ให้เต็มที่ต่อไปในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่แม้ว่าโอกาสที่เยาวชนสาวไทย จะเข้ารอบมีน้อยแล้ว แต่ก็อยากจะให้ทุกคนตั้งใจสู้กับพม่า ในนัดสุดท้ายต่อไปให้ดีที่สุด

                                                            ยินดีเปิดโต๊ะเจรจากับแฟนบอล

     จากนั้นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ตอบข้อซักถามของสื่อ ที่มารอทำข่าวกันจำนวนมาก โดยเรื่องแรกคือประเด็น ที่แฟนบอลได้รวมตัวกันประท้วงและได้ยื่นข้อเสนอ ที่จะขอเข้าพบและเปิดโต๊ะเจรจากันแบบซึ่งๆ หน้า ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ เพื่อสอบถามถึงการบริหารงานและความล้มเหลวของทีมชาติที่ผ่านมา
 

     เรื่องนี้ "บังยี" กล่าวว่าส่วนตัวรู้สึกยินดี ที่จะได้เปิดใจกับแฟนบอลทุกคน แต่ว่าในช่วงดังเวลาดังกล่าว ตนติดภารกิจต้องไปประเทศยูเออี ในศึกฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก พอดี ก็จะขอนัดพบปะกันใหม่ และจะขอประสานไปยัง คุณพินิจ งามพริ้ง ตัวแทนแฟนบอลอีกครั้งว่า จะเป็นวันไหนดี คาดว่าไม่วันที่ 24 ก็ 25 ธ.ค.
 

     ซึ่งเรื่องนี้ ตนยินดีมาก ที่จะได้มาคุยกัน เพราะการบริหารทีมชาติมันมีหลายชุดทั้งเยาวชน ฟุตซอล ฟุตบอลหญิง และทีมชุดใหญ่ มันไม่ใช่งานเล็กๆ มันเป็นงานของส่วนรวม ถ้ามีข้อเสนอแนะที่ดี เราพร้อมรับฟัง และพร้อมปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ขอบคุณแฟนบอลด้วย ที่จะได้มาคุยและแลกเปลี่ยนทรรศนะต่อกัน

                                                           เผยปีหน้าโปรแกรมลงตัวทุกอย่าง

     มีการถามย้ำว่า จากที่ผ่านมา โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ มีผลกระทบต่อทีมชาติ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ไม่ให้เกิดขึ้นอีก นายกวรวีร์ มะกูดี ได้ตอบว่า ความจริงสมาคมฟุตบอลฯ ได้จัดระเบียบและวางโปรแกรมไว้หมดแล้ว แต่ปีที่ผ่านมา อาจจะเกิดอุบัติเหตุหลายอย่าง ทำให้โปรแกรมต่างๆ ต้องเลื่อนออกไป
 

     ซึ่งก็ยืนยันว่าปีหน้าทุกอย่างจะราบรื่น และลงตัวแน่นอน เพราะการทำโปรแกรมเราได้จัดวางตามปฏิทินของฟีฟ่า และเอเอฟซี ทุกอย่าง ฉะนั้นไม่กระทบกับทีมชาติแน่ นอกเสียจากเกิดอะไรที่ไม่คาดคิด แต่ก็มั่นใจว่าไม่น่าจะมีอะไร และโปรแกรมน่าจะเป็นไปตามล็อก ทั้งลีกภายในและทีมชาติทุกชุด

                                                              ชะตา "ร็อบสัน" ขึ้นกับมติสภาฯ

     ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหลังจากตกรอบที่อินโดนีเซีย มีการพูดคุยกับทาง ไบรอัน ร็อบสัน บ้างหรือยัง "บังยี" ได้เผยว่า โทร.คุยกันแล้ว ทาง ร็อบสัน เองก็แสดงความเสียใจ และบอกว่าผิดหวังอย่างมาก ที่ต้องทำให้ทีมไทยตกรอบ แต่ว่าเรายังไม่ได้คุยกันในรายละเอียดว่า มีปัญหาอะไรหรือไม่ในช่วงแข่งขัน ซึ่งในส่วนนี้ทาง ร็อบสัน จะได้ทำรายงานแจ้งเข้ามาให้ทราบ
 

     มีการถามต่อว่าจะให้ ไบรอัน ร็อบสัน คุมทีมต่อหรือไม่ "บังยี" เผยว่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม สภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะประชุมใหญ่ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ เพราะเรื่องแบบนี้จะต้องมีการประชุมหารือกัน และใช้เสียงส่วนใหญ่ของสภาฯ ในการตัดสินใจ แต่ว่าเราก็จะตัดสินอย่างเป็นธรรมที่สุด กระนั้นเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามนั้น

                                                                   ฟีฟ่าสนับสนุนด้านเทคโนฯ

     ในส่วนของการพัฒนาสมาคมฟุตบอลฯ ทั้งระบบการจัดการ การบริหาร และการวางแผนระยะยาวรวมถึงการสร้างนักเตะ ที่โดนวิจารณ์กันมากนั้น "บังยี" ได้เปิดใจว่า ที่ผ่านมาเรามีการเดินหน้าในทุกส่วนไปมากแล้ว โดยได้ทางฟีฟ่าส่งบุคลากรเข้ามาช่วยเหลือ
 

     อย่างเช่นโครงการวิชั่นไทยแลนด์ ที่จะพัฒนาในทุกส่วน ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ถึงทีมชาติชุดใหญ่ เราก็ดำเนินการไปแล้ว และยังลงไปถึงระดับจังหวัดไม่ว่า ชลบุรี, ขอนแก่น, ภูเก็ต ที่จะตามมาก็มี บุรีรัมย์, นราธิวาส, เชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะระดับรากหญ้าที่เราเน้นมาก ยิ่งปัจจุบันลีกของเราโตก็จะช่วยกระตุ้นให้เยาวชน หันมาเล่นฟุตบอล และฝึกฝน เพื่อจะได้ก้าวไปสู่นักเตะอาชีพต่อไป
 

     "นอกจากนี้ทางฟีฟ่า ยังได้ให้การสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่จะนำมาใช้กับสมาคมฟุตบอลฯ ทั่วโลก จะเป็นระบบออนไลน์เชื่อมกันหมด อีกหน่อยการซื้อขายนักเตะ การแจ้งลงทะเบียนผู้เล่นต่างๆ ก็จะผ่านระบบนี้ทั้งหมด อีกทั้งเราก็จะนำเทคโนฯ นี้มาใช้ เรื่องของการเก็บสถิติข้อมูลต่างๆ ทั้งนักเตะและทีมชาติ รวมถึงการขึ้นทะเบียนด้วย โดยฟีฟ่าจะเร่งติดตั้งเร็วๆ นี้"

                                                              เน้นพัฒนาสิงห์เชิ้ตดำอย่างจริงจัง

     นายกสมาคมฟุตบอลไทย ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของระบบเทคโนลียีสมัยใหม่ ยังจะนำมาใช้กับเรื่องของการประเมินความสามารถของผู้ตัดสินได้ด้วย เพราะเราจะเก็บข้อมูลสถิติการตัดสิน ข้อผิดพลาดทุกอย่างได้หมด ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนของผู้ตัดสินเราจะเร่งพัฒนาให้จริงจังขึ้น เพื่อให้ทันกับลีกที่โตเร็วมาก ที่ผ่านมาเรามีปัญหาเยอะ จึงต้องแก้ไขด่วน
 

     เริ่มแรกคือจะให้มีการพัฒนาผู้ตัดสินรุ่นใหม่ ส่วนในระดับไทยลีกจะมีการเพิ่มรายได้เป็นแมตช์ละ 5,000 บาท และจะใช้ผู้ตัดสินต่างประเทศเข้ามาในคู่สำคัญๆ ด้วย นี่คือทางแก้ในช่วงแรกนี้ก่อน ส่วนเรื่องที่หวั่นว่าจะมีการล็อบบี้กันนั้น ไทยลีกปีหน้าเราจะใช้วิธีสุ่มจากคอมพิวเตอร์ว่าใครจะได้ตัดสินคู่ไหน ทั้งนี้เราจะนำรายชื่อของผู้ตัดสิน ที่ได้รับการยอมรับจากทุกสโมสรมาเข้าเครื่องสุ่มตรวจ วิธีนี้ ก็น่าจะขจัดเรื่องของการล็อบบี้ออกไปได้

                                                                ปรับธรรมนูญเลือกตั้งนายกฯ ใหม่

     ส่วนเกี่ยวกับสิ่งที่แฟนบอลออกมาเรียกร้อง ให้แก้ระเบียบการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ และสภากรรมการใหม่ทั้งหมด เรื่องนี้ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ชี้แจงว่า เราได้ดำเนินการแก้ไขไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีทางฟีฟ่าเป็นผู้ปูพื้นฐานให้ทุกอย่าง
 

     ซึ่งธรรมนูญใหม่จะเน้นไปที่การบริหารจัดการแบบธรรมมาภิบาล และให้เป็นไปตามระบบสากล โดยได้จัดทำแผนทั้งหมดเสนอต่อ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า แล้วว่าเราจะเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกนายกฯ ใหม่ และทางฟีฟ่าก็ได้ส่งวิทยากรมาช่วยเราทุกอย่างตั้งแต่เดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ขอบอกว่าเรื่องนี้เราได้เตรียมการหมดแล้ว เพื่อยกระดับให้เป็นสากลมากที่สุด
 

     "ที่ผ่านมาระบบการเลือกตั้งของเรา จะเป็นแบบแต่งตั้ง คือเลือกตัวนายกสมาคมฯ แล้วจะไปแต่งตั้งสภากรรมการฯ อีกที ซึ่งแนวทางนี้ไม่สอดคล้องกับ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ฉะนั้นในการเลือกตั้งสมัยหน้าเดือน มี.ค. 54 เราจะปรับทุกอย่างให้เป็นไปตามหลักสากล"

                                                              แจงสโมสรอาชีพมีสิทธิ์เลือกตั้ง

     ส่วนว่าการเลือกตั้งในระบบใหม่ จะออกมารูปแบบไหน ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เผยว่า หลักการคร่าวๆ จะต้องมีการเลือกตั้ง 2 รอบ คือรอบแรกการเลือกตั้งตัวนายกสมาคมฟุตบอลฯ และรอบที่สองคือเลือกตั้งสภากรรมการ ทั้งนี้เสียงจากการเลือกตั้ง เรามีแนวทางมาจากฟีฟ่าทั้งหมด และเขาก็กำหนดมาเองว่าสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ จะต้องเป็นสโมสรอาชีพเท่านั้น ตรงนี้เราก็จะมาดูกัน แต่เราจะใช้แนวทางของฟีฟ่า ในการเลือกตั้งใหม่อย่างแน่นอน

                                                           เผยให้ตัวแทนแฟนบอลเป็นสภาฯ ได้

     ขณะที่ "บังยี" ได้กล่าวเสริมในส่วนของของธรรมนูญเลือกตั้งใหม่ว่า มีอยู่ข้อหนึ่ง ที่ฟีฟ่ากำหนดมาก็คือว่า เปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการสามารถเข้ามานั่งเป็นสภากรรมการบริหารฯ ได้ ในส่วนนี้ตนตีความว่า น่าจะหมายถึงในส่วนของแฟนบอล ที่น่าจะมีสิทธิ์มาร่วมกันบริหารงานได้ และเลือกตั้งครั้งหน้า ก็จะเปิดให้แฟนบอลสมัครเข้ามาร่วมบริหารงานด้วยกัน ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาอย่างยิ่ง