"ม้าลาย" ยูเวนตุส เปิดบ้านซิวชัยเหนือ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน 1-0 ทะยานรั้งที่ 6 ส่วนทีมเยือนหล่นไปอยู่อันดับ4 ด้าน"อินทรีย์ฟ้าขาว" ลาซิโอ บุกเก็บชัยเหนือเบรสชา2-0 กระโดดขึ้นไปอยู่ที่3 ขณะที่ "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า ฮึดบุกแซงถล่ม ปาแลร์โม่ สุดมัน 4-2 ขยับมาอยู่อันดับ 10 ในศึกกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2554

ยูเวนตุส 1 - 0 อินเตอร์ มิลาน

 

     ยูเวนตุส ทำศึกดาร์บี้ดิตาเลียด้วยการเปิด สตาดิโอ โอลิมปิโก ที่ตูริน รอรับ อินเตอร์ มิลาน โดยเจ้าถิ่นเลือกส่ง ลูก้า โทนี่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ อเลสซานโดร มาตรี ส่วนทีมเยือนยังไร้ คริสเตียน คิวู ที่เหลือโทษแบนอีก 3 นัด แต่ตัวทีเด็ดอยู่ที่ จามเปาโล ปาซซินี่ และ ซามูเอล เอโต้

     "ม้าลาย" เริ่มต้นได้น่ากลัว โทนี่ ตอกส้นให้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปาดเข้ากลาง มาตรี พยายามจะเข้าชาร์จ แต่โดน อีบัน คอร์โดบา สกัดล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินยังไม่ว่าอะไร

     เกมเป็นไปแบบสูสี เฟลิเป้ เมโล่ วางยาวให้ โทนี่ ยิงไปติดบล็อก คอร์โดบา ออกหลัง จากลูกเตะมุม บอลกลับมาหา อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ซัดเหินข้ามคานออกหลังไป

     เจ้าบ้านมาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ มิลอส คราซิช ป้ายคืนหลังให้ เฟรเดริก โซเรนเซ่น โยนเข้ากลาง และเป็น มาตรี ที่โหม่งกดลงพื้นไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0

     จากนั้น "งูใหญ่" ครองเกมได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีโอกาสสักเท่าไหร่ จบ 45 นาทีแรก ยูเว่ ออกนำไปก่อน 1-0

     เปิดฉากครึ่งหลังไม่นาน ดั๊กลาส ไมค่อน โยนจากฝั่งซ้ายให้ ปาซซินี่ โฉบโหม่งเต็มศีรษะ แต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังทุบทิ้งทัน

     พลพรรค "เบียงโคเนรี่" ตอบโต้เหมือนกัน คราซิช ครอสจากขวาอย่างเหมาะเหม็งให้ มาตรี สะบัดศีรษะโขก บอลหลุดกรอบไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

     นาทีที่ 67 ไมค่อน เปิดจากขวาเข้าเขตโทษ โซเรนเซ่น โหม่งสกัดไม่ดีมาเข้าทาง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่ตั้งป้อมกดเต็มข้อ บอลไปติดพวกเดียวกันเอง โกรัน ปานเดฟ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง อย่างน่าเสียดาย

     จากนั้น สไนเดอร์ ชิพให้ เอโต้ สอดทะลุหลุดกัปดักล้ำหน้าเอาบอลลง แต่ยิงไปติดเซฟ บุฟฟ่อน ที่ออกมาเร็ว

     ช่วงเวลาที่เหลือ อินเตอร์ โหมบุกหวังจะเอาประตูตีเสมอ และเกือบได้เหมือนกัน เมื่อ ไมค่อน ปาดเรียดจากขวาเข้ากลาง บอลหลุดไปถึง เอโต้ ที่แปจ่อๆ ชนคานอย่างเหลือเชื่อ จบเกม ยูเว่ จึงเฉือนชนะหวุดหวิด 1-0 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ พร้อมกระโดดขึ้นรั้งอันดับ 6 ของตารางเรียบร้อย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

     ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; เฟรเดริก โซเรนเซ่น, อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่; มิลอส คราซิช, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, เฟลิเป้ เมโล่ (โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ น.74), เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ (ซิโมเน่ เปเป้ น.72); ลูก้า โทนี่ (วินเชนโซ่ ยาควินต้า น.65), อเลสซานโดร มาตรี

     อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์; ดั๊กลาส ไมค่อน, อันเดรีย ราน็อคเคีย, อีบัน คอร์โดบา, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ; ฮุสซีน คาร์ยา (โกรัน ปานเดฟ น.60), ติอาโก้ ม็อตต้า, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ (ยูโตะ นางาโตโมะ น.73); เวสลี่ย์ สไนเดอร์; จามเปาโล ปาซซินี่, ซามูเอล เอโต้

 

 

เบรสชา 0-2 ลาซิโอ

 

      ที่มาริโอ ริกามอนติ เบรสชา พบ ลาซิโอ เจ้าถิ่นไม่มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ลดลง ผู้รักษาประตูยังใช้ มิเคเล่ อาร์คารี่ ลงเฝ้าเสาต่อเมื่อ มัตเตโอ เซเรนี่ ยังไม่หายเจ็บ ข้างหน้าส่ง ซิตาดิน เอแดร์ ยืนหน้าเป้า

      ด้านทีมเยือนที่ยังแอบฝันถึงแชมป์ ยึดทีมหน้าเดิมเป็นส่วนใหญ่ เปลี่ยนแค่ดร็อป เมาโร ซาราเต้ สำรอง ส่ง อัลวาโร่ กอนซาเลซ กลางอุรุกวัย มาทำเกมรุกอยู่ข้างหลังหัวหอก ลิบอร์ โคซัค

      เกมในช่วงต้นยังไม่รายละเอียดน่าสนใจ ทั้งสองฝ่ายยังไม่ผลีผลามเปิดเกมรุก ลาซิโอ ครองบอลมากกว่าตามสมควร แต่ก็สร้างโอกาสอะไรไม่ได้

      แต่เล่นไปเล่นมา โอกาสจบหนแรกๆ ของลาซิโอ ก็กลายเป็นประตูนำเลยในนาทีที่ 17 สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ ดันเกมขึ้นมาครอสเข้าใน อัลวาโร่ กอนซาเลซ ทิ่มโขกบอลจาก 6 หลาเข้าประตูไปไม่เหลือซาก อินทรีกระพือปีก 1-0

      สองนาทีต่อมา ลาซิโอ ได้จบอีกหน แอร์นาเนส ลองยิงไกลไปจาก 25 หลา บอลพุ่งแรงทีเดียวแต่ มิเคเล่ อาร์คารี่ เซฟไว้ไม่ลำบาก

      โอกาสลุ้นประตูมีไม่มากนัก โดยเฉพาะ เบรสชา ที่ต้องการประตูตีเสมอแต่สร้างโอกาสอะไรไม่ได้เท่าที่ควร นาที 37 พานากิโอติส โคเน่ สบโอกาสสอดเข้าโหม่งระยะแค่ 5-6 หลา แต่ลูกข้ามคานไป ส่งผลให้ครึ่งแรกจบไป ลาซิโอ นำ 1-0

      เริ่มครึ่งหลังมาแวบเดียว เบรสชา ได้ฟรีคิกระยะมีลุ้น บอลเขี่ยสั้นเปิดพื้นที่ให้ อันโตลิโอ ฟิลิปปินี่ กระหน่ำเข้ามาเต็มแรง แฟร์นานโด มุสเลร่า ต้องปัดทิ้งออกไป

      เบรสชา แก้เกมลงมาครองบอลบุกอยู่ตลอดช่วงต้นครึ่งหลัง และเริ่มมีจังหวะเข้าปะทะหนักๆ มากขึ้นเรื่อยๆ

      แต่แล้วเมื่อเล่นถึงนาที 57 ลาซิโอ ก็ยิงหนีห่างไปจนได้ทั้งที่ครึ่งหลังเกมเป็นรอง จากลูกเตะมุม คริสเตียน เลเดสม่า สาดมาที่เสาสอง ลิบอร์ โคซัค ขึ้นโหม่งคนเดียวเหนือตัวประกบ ขวิดผ่านมือ อาคาร์รี่ เข้าไปอย่างเฉียบขาด ลาซิโอ ทิ้ง 2-0

      เมื่อสกอร์นำห่าง ลาซิโอ ก็เล่นแบบไม่กดดันแล้ว นาที 69 เบรสชา มาได้ฟรีคิกหน้าเขตในจุดอันตรายอีก แต่คราวนี้ อเลสซานโดร เดียมานติ ปั่นข้ามกำแพงและข้ามคานออกไป

      นาที 79 ความผิดพลาดเกมรับของทีมเยือนเกือบทำสกอร์ห่างเพิ่มอีก จังหวะคืนบอลถึงนายทวารที่โดนตัดไว้โดยแข้งเจ้าถิ่น บอลถูกไหลต่อมาที่ เมาโร ซาราเต้ สับไกยิงติด ฟรานเชสโก้ เบก้า สไตล์ตัวทิ้งจากบนเส้นออกมาหวุดหวิด

      ช่วงท้ายนาที 85 เบรสชา น่าได้ประตูตีไข่แตกอย่างยิ่ง เอแดร์ ได้จบจ่อๆ ในกรอบหลา มุสเลร่า โชว์ซูเปอร์เซฟบล็อกได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นกันกับอีกอึดใจถัดมา เดียมานติ ตะบันด้วยซ้ายจากหน้าเขตไปที่เสาแรก มุสเลร่า ก็ยังตบออกหลังได้

      ตอนทดเจ็บ เดียมานติ ได้โอกาสซัดฟรีคิกเข้ามาจากทางซ้าย มุสเลร่า โดนบอลบางๆ แล้วลูกเด้งคานบนออกหลังไปอีก เท่ากับที่สุดแล้ว เบรสชา ก็แก้คืนไม่ได้ จบเกม ลาซิโอ บุกมาชนะ 2-0 ติดลมบนต่อไป

 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

 เบรสชา : มิเคเล่ อาร์คารี่; โจนาธาน เซบีน่า, ฟรานเชสโก้ เบก้า, ดาวิเด้ โซโบลี่; กาเอตาโน่ เบราร์ดี้, พานากิโอติส โคเน่, อันโตนิโอ ฟิลิปปินี่ (นิโกลัส คอร์โดว่า น.60), เปอร์ปาริม เฮเตมาย (ดาวิเด้ ลันซาฟาเม่ น.31), ปิเอโตร อัคคาร์ดี้ (ดาวิเด้ ปอสซันซินี่ น.69); อเลสซานโดร เดียมานติ; เอแดร์
 ลาซิโอ : แฟร์นานโด มุสเลร่า; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, จูเซ็ปเป้ เบียว่า, อันเดร ดิอาส, ลิโอเนล สคาโลนี่; คริสเตียน เลเดสม่า, มาตูซาเล็ม; จูเซ็ปเป้ สคูลลี่ (เมาโร ซาราเต้ น.74), แอร์นาเนส (มาร์ค เบรสชาโน่ น.87), อัลวาโร่ กอนซาเลซ (คริสเตียน บร็อคคี่ น.65); ลิบอร์ โคซัค

 

ปาแลร์โม่ 2-4 ฟิออเรนติน่า

     ปาแลร์โม่ เปิด สตาดิโอ เรนโซ่ บาร์เบร่า รอรับ ฟิออเรนติน่า โดยเจ้าถิ่นต้องปราศจาก อาร์มิน บาชิโนวิช ที่ติดโทษแบน แต่ยังนำทัพโดยสามประสานแนวรุก โยซิป อิลิซิช, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ และ ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ ส่วนทีมเยือนก็ฝากความหวังไว้ที่ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ กับ อาเดรียน มูตู

      เริ่มเกมมา 7 นาที "โรซาเนโร่" ได้ประตูอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ อิลิซิช ปาดเข้ากลางให้ ปาสตอเร่ วิ่งเข้ามาแปด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0

      ผู้มาเยือนตอบโต้ได้น่ากลัว มูตู จ่ายให้ จิลาร์ดิโน่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงด้วยขวา บอลผ่านเสาสองไม่กี่คืบเท่านั้น

      จากนั้นไม่กี่วินาที จิลาร์ดิโน่ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดติดเซฟ ซัลวาตอเร่ ซิริกู อย่างน่าเสียดาย

      เจ้าบ้านต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกตั้งแต่นาทีที่ 32 หลัง จูลิโอ มิยัชโช่ มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่ง อัฟริเยีย อัคควาห์ ลงแทน

      4 นาทีต่อมา "ม่วงมหากาฬ" ตามตีเสมอจนได้เป็น 1-1 เมื่อ วาลอน เบห์รามี่ ชิพให้ จิลาร์ดิโน่ สอดทะลุขึ้นมาโหม่งตุงตาข่าย

      ท้ายครึ่งแรก มาริโอ ซานตาน่า โยนจากฝั่งขวาให้ เบห์รามี่ โหม่งหลุดกรอบไปแบบได้เสียว จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

      เปิดฉากครึ่งหลังเพียง 3 นาที ปาแลร์โม่ ออกนำอีกครั้งเป็น 2-1 คราวนี้เป็น มิคโคลี่ ที่ลากลุยถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนโยนให้ อันโตนิโอ โนเชริโน่ โขกจ่อๆ ไม่เหลือ

      เจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมบุก มิคโคลี่ จ่ายให้ โนเชริโน่ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อ แต่ อาร์เทอร์ โบรุค ป้องกันได้อย่างยอดเยี่ยม

      นาทีที่ 70 พลพรรค "วิโอล่า" ตามตีเสมอเป็น 2-2 มานูเอล ปาสกวาล เปิดลูกเตะมุมไปเสาสองให้ มิเคเล่ คัมโปเรเซ่ พักอกแล้วซัดตุงตาข่ายไม่พลาด

      ถัดมา 8 นาที ทีมเยือนมาพลิกแซงนำ 3-2 จากจังหวะที่ อเด็ม ลายิช ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง กระชากขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง และเป็น เชซาเร่ โบโว่ ที่สกัดเข้าประตูตัวเอง

      ฟิออฯ มาบวกเพิ่มได้อีกเม็ดในนาทีที่ 88 ลายิช เลี้ยงลุยขึ้นมาแล้วปาดเข้ากลางให้ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ วิ่งเข้ามากดด้วยขวา หมดสิทธิ์สำหรับ ซิริกู

      ช่วยท้าย ปาแลร์โม่ ยังไม่ถอดใจ โบโว่ ตอกส้นให้ อาเบล เอร์นานเดซ ยิงเต็มข้อ แต่บอลไปชนเสาอย่างจัง จบเกม ฟิออเรนติน่า บุกมาชนะ 4-2 คว้าชัยการเป็นทีมเยือนครั้งแรกของฤดูกาลนี้ด้วย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ปาแลร์โม่ : ซัลวาตอเร่ ซิริกู; เอเซเกล มูนยอซ (พาจ์ทิม คาซามี่ น.87), ซินิซ่า อันเดลโควิช, เชซาเร่ โบโว่, เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ; จูลิโอ มิยัชโช่ (อัฟริเยีย อัคควาห์ น.32), จัสมิน คูร์ติช, อันโตนิโอ โนเชริโน่; โยซิป อิลิซิช, ฮาเวียร์ ปาสตอเร่; ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ (อาเบล เอร์นานเดซ น.76)
ฟิออเรนติน่า : อาร์เทอร์ โบรุค; จานลูก้า โคม็อตโต้, อเลสซานโดร กัมเบรินี่, มิเคเล่ คัมโปเรเซ่, มานูเอล ปาสกวาล; วาลอน เบห์รามี่, มาร์โก โดนาเดล, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่; มาริโอ ซานตาน่า (อเด็ม ลายิช น.77), อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (คูม่า บาบาการ์ น.90), อาเดรียน มูตู (เชซาเร่ นาตาลี น.82)

สรุปผลกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี
- ปาแลร์โม่ แพ้ ฟิออเรนติน่า  2-4
- ซามพ์โดเรีย ชนะ โบโลญญ่า  3-1
- กายารี่ ชนะ คิเอโว  4-1
- บารี่ เสมอ เจนัว 0-0
- เบรสชา แพ้ ลาซิโอ  0-2
- คาตาเนีย ชนะ เลชเช่  3-2
- เชเซน่า แพ้ อูดิเนเซ่  0-3
- ยูเวนตุส ชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0