โรนัลโด้ อดีตสตาร์ทีมชาติบราซิล ประกาศอำลาวงการลูกหนังอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยอมรับคิดหนักกว่าจะตัดสินใจได้ แต่เมื่อมองสภาพร่างกายแล้วคงยากที่จะฝืนสังขารอีกต่อไป

      "โล้นทองคำ" โรนัลโด้ กองหน้าจอมเก๋าชาวบราซิเลียน ของทีม โครินเธียนส์ ซึ่งครองตำแหน่งดาวซัลโวตลอดกาลในทัวร์นาเมนต์เวิลด์ คัพ และเป็นอดีตนักเตะยอดเยี่ยมของโลก 3 สมัย ออกมาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

      อดีตสตาร์ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ซึ่งเคยนำ บราซิล คว้าแชมป์โลก 2 สมัยในปี 1994 และ 2002 ให้เหตุผลที่ต้องอำลาสนามในวัย 34 ปีว่า "วันนี้ผมอยู่ที่นี่เพื่อบอกว่าผมจะเลิกเล่นแล้ว ผมขออำลาอาชีพนักฟุตบอลของผม ตลอดอาชีพของผมเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก, ความสวยงาม และมีแต่เรื่องที่สุดยอด"

      "ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผมมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาตลอด อาการบาดเจ็บขาทั้งสองข้าง รวมถึงปัญหาเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาการบาดเจ็บกดดันให้ผมต้องคิดเรื่องการแขวนสตั๊ด สภาพจิตใจของผมยังต้องการที่จะค้าแข้งต่อไป แต่ผมรู้ว่าร่างกายของผมมันไม่ไหวแล้ว แน่นอนว่าอาชีพของผมมันมีแต่สิ่งที่สุดแสนวิเศษ ผมเคยแพ้มากมาย แต่ก็คว้าชัยชนะนับไม่ถ้วนเช่นกัน"

      เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ "อ้วนพลิ้ว" ตัดสินใจอำลาวงการลูกหนัง น่าจะเกิดจากความน้อยใจแฟนบอล โครินเธียนส์ ที่แสดงความไม่พอใจทั้งทุบรถบัสทีม, ทำลายรถนักเตะ รวมทั้งพ่นสีประท้วงที่สำนักงานใหญ่ของสโมสร เนื่องจากไม่พอใจที่ทีมตกรอบ ศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส โดย โรนัลโด้ เปิดใจว่า "ผมไม่เคยเห็นแฟนบอลแสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมาเลย บางครั้งพวกเขาก็ต้องการผลการแข่งขันที่ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกก้าวร้าว ซึ่งมันยากที่จะควบคุม ผมต้องกล่าวขอโทษสำหรับความล้มเหลวในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส"

      ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ เผยว่าเขามีปัญหาที่ต่อมไทรอยด์ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยากลำบากที่จะทำให้เขาควบคุมน้ำหนักตัวเองได้ "เมื่อ 4 ปีก่อน ที่มิลาน ผมตรวจพบว่ามีปัญหาต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้กระบวนการเผาผลาญไขมันช้ากว่าปกติ และต้องมีการควบคุมเรื่องนี้ ผมต้องฉีดฮอร์โมนซึ่งไม่ได้รับอนุญาตในวงการฟุตบอล เพราะพวกเขาพิจารณาว่ามันเป็นการโด๊ปยา มีผู้คนมากมายที่หัวเราะเยาะเรื่องน้ำหนักของผม แต่ผมไม่รู้สึกโกรธอีกต่อไปแล้ว"