รักร้าว! “จุ๋ย” ลดสัมพันธ์ “นิว” จากคนรักเหลือเพียงพี่น้อง อ้ำอึ้ง มีมือที่สาม โบ้ยให้รอถามฝ่ายชาย เจ้าตัวแจง มัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลาปรับความเข้าใจกัน ย้ำชัด ธุรกิจไม่มีส่วนทำให้เลิก รับ เหงาแต่ดีที่มีครอบครัวและเพื่อนฝูงคอยเยียวยา พร้อมบอก จบกันด้วยดี แต่ไม่ตอบจะกลับมารักกันเหมือนเดิมหรือเปล่า 
      
เมื่อช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เพิ่งจะประสานเสียงยืนยันว่าความรักยังแข็งแรงดี สำหรับคู่ของนางเอกสาว “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” และหนุ่ม “นิว วงศกร ปรมัตถากร” หลังมีข่าวว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะเรื่องธุรกิจร้านส้มตำ “ตำเพลิน” ที่ร่วมหุ้นลงขันกันอยู่ ล่าสุดมีคนตาดีเห็นหนุ่มนิวควงสาวนอกวงการเที่ยวผับ เมื่อสอบถามประเด็นดังกล่าวกับจุ๋ย ผู้สื่อข่าวกลับได้ข่าวคำตอบสุดอึ้ง เมื่อเจ้าตัวประกาศชัดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ตอนนี้ได้ลดความสัมพันธ์จากคนรักเหลือเพียงพี่น้องแล้ว หลังคบหาดูใจกันมาจะร่วม 4 ปี
      
“เรื่องพี่นิวควงสาวอันนี้ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ ต้องไปถามพี่นิวเอง เพราะจุ๋ยไม่ได้รู้เรื่อง แล้วไม่ได้ไปในที่ที่พี่นิวไป หรือไปเห็นเหตุการณ์ ในวันที่บอกจุ๋ยไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด เรื่องนี้จุ๋ยไม่ทราบ ต้องไปถามพี่นิวกันเอาเองเพราะจุ๋ยไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง จุ๋ยไม่รู้เรื่องจริงๆ ค่ะ แต่ละครั้งที่พี่นิวไปเที่ยวก็ไม่ได้มีมาขอ ที่จริงมันก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนที่อยากจะไปสนุกสนานกับเพื่อนฝูงบ้าง แต่จุ๋ยคิดว่าคงไม่น่าจะมี จุ๋ยไม่รู้จริงๆ ฉะนั้นเลยไม่สามารถพูดอะไรได้”
      
“อาจจะเป็นเพราะว่าส่วนนึงเราถอยห่างกันออกมาคนละก้าวแล้ว ตอนนี้เรามีโอกาสได้กลับมาคิดทบทวน กลับมาใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพัก ต่างคนต่างอยู่กับตัวเอง ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ตอนนี้ต่างคนต่างก็ทำงานหนักด้วยกันทั้งคู่ พี่นิวเองตอนนี้เขาก็มีละคร 2 เรื่อง ส่วนตัวจุ๋ยเองก็มีละครอยู่หนึ่งเรื่องที่ต้องเร่งถ่าย แล้วยังมีงานพิธีกร ไหนจะงานที่ร้านอาหาร”
      
“สาเหตุของการห่างมันอาจจะเป็นหลายๆ เรื่องรวมๆ กัน ด้วยความที่เราห่างเรื่องของเวลา และเราเองก็ต้องปรับตัวเข้าหากันตลอด บางทีมันก็ไม่มีเวลาที่จะมานั่งคุยนั่งพูดกัน เลยทำให้เกิดระยะห่างขึ้นเรื่อยๆ ถามว่ายังใช้คำว่าคนรักกับพี่นิวได้ไหม เอาเป็นว่าเราลดความสัมพันธ์ลงแล้วกันค่ะ ก็ลดลงมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้วค่ะ เป็นพี่เป็นน้องกันอะไรประมาณนั้น ก็คงต้องคอยดูกันต่อไป”
      
ยัน ธุรกิจไม่มีส่วนบั่นทอนความสัมพันธ์ เพราะต่างคนต่างแฟร์ทั้งคู่
“ถ้าในเรื่องของธุรกิจต้องยืนยันจริงๆ ว่าในข่าวระบุว่าต้นเหตุมาจากเรื่องที่ร้าน อันนี้ต้องขอยืนยันว่าไม่ใช่ความจริงพันเปอร์เซ็นต์ เรื่องธุรกิจเราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ด้วยความที่เราเองก็เป็นคนแฟร์ๆ ด้วยกันทั้งคู่ รวมถึงเราเองก็มีหุ้นส่วนอีก มันอีกหลายๆ อย่างที่เราทำร่วมกัน แล้วพี่นิวเองเขาก็เป็นคนแฟร์ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงเงิน เรื่องของการใช้แรงงาน พี่นิวเขาก็ไม่เคยจะมาโกงจะมาอะไรอยู่แล้ว ตรงนี้ยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาเรื่องร้าน ธุรกิจก็ยังคงดำเนินต่อไป พี่นิวก็ยังคงเป็นหุ้นส่วนจุ๋ยอยู่ค่ะ”
      
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า มีเรื่องมือที่สามหรือไม่ แต่เจ้าตัวโบ้ยให้รอถามความจริงจากหนุ่มนิวเอง รับ มีเหงาบ้างแต่มีงานและเพื่อนๆ ช่วยคลายเหงา ย้ำ จากกันด้วยความเข้าใจ อ้ำอึ้งจะรีเทิร์นหรือไม่
      
“พอห่างกันแล้ว ถ้าพี่นิวจะไปมีใครตรงนี้จุ๋ยก็ไม่รู้สึกอะไร มันก็เป็นสิทธิ์ของพี่นิว จุ๋ยค่อนข้างจะมั่นใจว่าไม่ใช่ประเด็นผู้หญิงที่ทำให้เราห่างกัน เอาเป็นว่าต้องลองไปถามความจริงกับเจ้าตัวดูว่าเป็นยังไง ถ้าพี่เขาอยากจะเล่าเดี๋ยวเขาก็คงจะเล่าเอง จุ๋ยก็มีความเชื่อมั่นว่ามันคงจะไม่มีอะไร คิดว่าที่เห็นคงเป็นการไปเที่ยวสังสรรค์กันระหว่างเพื่อนๆ ลงไปถามพี่เขาเองจะดีที่สุด”
      
“มันก็มีบ้างนะวันเหงาๆ แต่เราก็มีแทนไปในเรื่องของงาน หรือว่าพบปะเจอกับเพื่อนๆ พี่ๆ หรือแม้จะเป็นครอบครัว จุ๋ยว่าตรงนี้ช่วยเราได้ค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีใครมาจีบ ด้วยความที่ข่าวเองก็เพิ่งออกไป จุ๋ยเองก็ไม่ได้จะพูดอะไรเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็อยู่แต่ที่กองละคร ทำงานอย่างเดียว มันยังเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งคงไม่สามารถเอาใครเข้ามาได้ในระยะเวลาที่กระชั้นชิดขนาดนั้น แล้วจุ๋ยเองก็ไม่ได้เปิดโอกาสเพราะจุ๋ยรู้สึกว่าเราอยู่อย่างนี้มันยังมีความสุขอยู่ (นิวมาง้อบางไหม?) คือมันไม่ใช่ประเด็นตรงนั้น เหมือนเราให้เวลาในการทำความเข้าใจและเคารพสิทธิ์ของกันและกันค่ะ”
      
“โอกาสกลับมาเหมือนเดิม เอาเป็นว่า ณ ตอนนี้ขออยู่กับตัวเอง ขอทำงานที่ตัวเองรักก่อน ขอใช้เวลาอยู่เงียบๆคนเดียวสักพัก ทุกๆ อย่างเราคุยกันด้วยความรู้สึกดีๆ นะคะ คุยด้วยเรื่องของความเข้าใจในฐานะที่เราเองก็โตๆ กันแล้ว เราเข้าใจในเหตุผลของการดำเนินชีวิต เราใช้ความรักคุยกัน ความสัมพันธ์ความรู้สึกดีๆ ความรักดีๆ ในอดีตมันก็ยังมีอยู่ เราคุยกันดีๆ ค่ะ”