''เอม-เจษยา'' แฉหมดเปลือพระเอกลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' ตามรับส่งไม่ห่างแถมขอขึ้นห้องพักส่วนตัว เจ้าตัวรีบแจงทันทีไม่พลาดจนมีอะไรเกินเลยกัน รับโกรธพระเอกหนุ่มปฏิเสธเสียแข็งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนพร้อมเหน็บตนไม่ใช่สัมภเวสีถึงพูดแบบไม่แคร์ความรู้สึกกัน เผยแจงสื่อในครั้งนี้ไม่คิดฉีดหน้าพระเอกหนุ่มหรือเกาะกระแสแต่อย่างใด แค่พูดเรื่องจริงเท่านั้น

หลังจากมีภาพหลุดปาปาราซซี่ของพระเอกลูกครึ่ง ''สเตฟาน'' สันติ วีรบุญชัย กับนักแสดงสาว ''เอม'' เจษยา เวียงเกตุ ออกมาบ่อยครั้งจนทำให้ก็หลายคนจับตามองความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างมากหลังจากที่ต้องร่วมงานกันในละครเรื่อง ''อิเหนา สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา'' ล่าสุดยิ่งตกย้ำข่าวลือความสัมพันธ์ที่เกินกว่าพี่น้องร่วมวงการมากยิ่งขึ้นเมื่อมีภาพของ ''สเตฟาน'' กับดาราสาวคนดังกล่าวที่คอนโดฯ ย่านทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งงานนี้เมื่อบรรดาผู้สื่อข่าวถามไปสอบถามความจริงจากปากพระเอกหนุ่มก็ได้คำตอบว่ามีการไปที่คอนโดฯ ของนักแสดงสาวเป็นจริงตามข่าวแต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการขึ้นไปบนห้องของสาว ''เอม'' แต่อย่างใด แต่ทว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.54 ความร้อนแรงของประเด็นดังกล่าวจะร้อนทวีคูณขึ้น ขณะที่เธอมาร่วมงานเปิดตัว ''ออลฮาร์ดฟอร์เเจแปน'' ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อดาราสาวได้ออกมาเปิดเผยสวนทางกับพระเอกหนุ่มว่า ''สเตฟาน'' เป็นคนขอขึ้นห้องของนักแสดงสาว

''ก็ไม่ปฏิเสธค่ะว่าไม่จริงคือขึ้นคอนโดฯ จริงค่ะในความรู้สึก ''เอม'' การที่เราเล่นละครด้วยกันเป็นพี่น้องกันเหมือนเพื่อนๆ กัน ขึ้นคอนโดฯ กันก็ไม่ได้คิดอะไร ''อม''เ อาจจะผิดที่เหมือนพาผู้ชายขึ้นคอนโดฯ แต่จริงๆ แล้วข้างบนมันก็ไม่ได้พลาดและไม่ได้มีอะไรด้วยค่ะคือหนูจะพูดยังไงดีล่ะพอดีว่าวันนั้นไปทานข้าวกันด้วยกันและเขามาส่งเราที่คอนโดฯ เขาก็ถามว่าขึ้นไปนั่งเล่นข้างบนไหม ขึ้นไปได้หรือเปล่า ส่วนตัวเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะข้างบนห้องก็มี ''ลูกตาล'' เพื่อนของหนูอยู่ด้วย''

ผู้สื่อข่าวถามว่าความสนิทสนมกับหนุ่ม ''สเตฟาน'' มากขนาดไหนถึงกล้าให้ขึ้นไปที่ห้องพัก ซึ่งเรื่องนี้ดาราสาวให้เหตุผลว่าตนก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะก็เป็นพี่ๆ น้องๆ กันอีกอย่างที่ห้องพักก็มีเพื่อนของตนอยู่ด้วย

''เป็นพี่ๆ น้องๆ กันมากกว่าแล้วอีกอย่างหนึ่งที่ห้องก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย หนูไม่เคยรู้สึกอะไรกับคนคนนี้อยู่แล้ว อาจะเป็นพี่น้องร่วมงานกันธรรมดามากกว่าหนูบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าหนูไม่เคยบอกหรือว่าขอร้องให้ ''พี่ฟาน'' ไปรับ

ส่งเราเลยค่ะ เขามาของเขาเองและภาพที่ออกมาก็เป็นภาพก่อนที่เราจะออกไปกินข้าวด้วยกันไม่ใช่ภาพ หลังจากงานเดินแบบอย่างที่พี่เขาเคยบอกเพราะถ้าเป็นภาพในวันงานเดินแบบจริงๆ มันก็คงดึกมากๆ เพราะกว่าแฟชั่นจะจบก็ 4-5 ทุ่มแล้วคงไม่มีเวลาไปทานข้าวกันหรอกค่ะ อีกอย่างหนึ่งก็คือวันนั้นเขาไปให้ข่าวหนูไปกองละครพร้อมกับเขามันก็ไม่จริงค่ะเพราะว่าวันนั้นหนูเป็นคนขับรถไปกองถ่ายด้วยตัวเอง หนูเองก็ไม่ได้คิดว่าจะฉีกหน้าใครแต่หนูไม่อยากกลายเป็นคนกลับไปกลับมา เขาเป็นคนขอหนูขึ้นห้องหนูก็ตอบกับสื่อไปตามความจริง อย่างคราวที่แล้วตอนที่มีภาพไปทานข้าวออกมาด้วยกันเขาก็ออกมาปฏิเสธหนูก็ไม่รู้จะพูดอะไรหนูรู้สึกแย่มากที่เขาทำเหมือนหนูไม่มีตัวตน หนูก็เป็นคนนะไม่ใช่สัมภเวสี ก็เลยส่งเอสเอ็มเอสไปหาเขาให้เขาทำอะไรก็ได้ที่จะไม่ทำให้หนูเสียหายไปมากกว่านี้เขาก็โทร.กลับมาบอกว่าโอเค''

เมื่อถามว่าออกมาเปิดเผยขนาดนี้กลัวจะมองหน้ากับ ''สเตฟาน'' ไม่ติดไหมกับเรื่องนี้ ''เอม''บอกว่าไม่กลัวและฝ่ายชายเองก็ไม่มีสิทธิ์มาโกรธอะไรด้วยเนื่องจากคนที่เสียหายก็คือตนนั่นเอง

''คือ ''พี่ฟาน'' เขาคงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธหนูหรอกค่ะ เพราะมันเป็นความผิดอะไรของหนูล่ะ หนูไปทานข้าวกับเขาแล้วมีภาพออกมาคนเสียหายคือหนู''

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเหมือน ''เอม'' โกรธ ''สเตฟาน'' เลยหรือเปล่า กับเรื่องนี้ดาราสาวยอมรับว่าใช่พร้อมกับยืนยันว่าความจริงก็คือความจริงและตนไม่ได้สร้างกระแส

''ใช่ค่ะถ้าเขาบริสุทธิ์ใจเขาก็สามารถบอกกับคนอื่นๆ ได้ว่าเป็นน้องที่ถ่ายละครด้วยกันก็ได้ เขามารับใต้คอนโดฯ คนอื่นๆ ก็เห็น แล้วมาพูดแบบนี้หนูไม่ต้องเอาปี๊บมาปิดหน้าเลยเหรอ หนูคิดว่าความจริงก็คือความจริงเราไม่ได้คบกันซะอย่าง และไม่ได้สร้างกระแสด้วยถ้าหนูเป็นคนปล่อยภาพจริงๆก็คงเชื่อไปแล้วและคงทำหน้าตัวเองให้ชัดไม่ใช่เบลอๆ แบบนี้''

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้ถามว่ารู้สึกหรือเปล่าว่า ''สเตฟาน'' เหมือนกำลังจีบ ''เอม'' อยู่ กับเรื่องนี้นักแสดงสาวปิดปากเงียบ โดยบอกว่าเธอพูดไม่ได้เพราะเป็นผู้หญิง

''จะพูดว่าจีบไหมคือหนูพูดไม่ได้ค่ะเพราะหนูเป็นผู้หญิง หนูไม่รู้ว่าการคุยกันแบบนี้ดีไหมแต่ทุกอย่างมันเข้ามา ก็มาหาหนูเอง หนูไม่ได้เดินเข้าไปหา''