ศึกลูกหนังยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่2 วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ เชลซี ไป2:1 
 

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011

รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่2

วันอังคารที่ 12 เมษายน 2554

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2:1 เชลซี

รวมสองนัด 3:1

สนาม : โอลด์แทร็ฟ ฟอร์ด
ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนซ่า (โปรตุเกส)
ถ่ายทอดสด : เวลา 01.45 น. ช่อง 3

ผู้ทำประตู : [1:0] ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ น.43,[1:1] ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา น.77 ,[2:1] ปาร์ค จี-ซอง น.77

ใบแดง รามิเรส

ครึ่งแรก

      เริ่มเกมครึ่งแรก แมนฯยูเป็นฝ่ายได้เขี่ยบอลบุกจากขวาไปซ้าย นาที 4 ปาร์ค จี-ซอง ล้มตัวกวาดบอลได้จากกลางสนามให้ ชิชาริโต้ ได้ไหลให้ เวย์น รูนี่ย์ ได้หลุดเข้าไปเปิดจากฝั่งขวาแต่ไม่ได้ลุ้น อีกสองนนาทีต่อมา รามิเรส หลุดเข้าเขตโทษ ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวรับไว้ได้

      นาที 9 เวย์น รูนี่ย์ วางบอลข้ามแนวรับให้ ปาร์ค จี-ซอง ได้หลุดเข้าเขตโทษก่อนล็อกหลบ อเล็ก กับ อิวาโนวิช แล้วตอกส้นเข้าปากประตูแต่ย้อนหลัง ชิชาริโต้ไปนิดเดียว

      นาที 14 แอชลี่ย์ โคล เปิดบอลจากฝั่งซ้าย เนมานย่า วิดิช โหม่งสกัดมาเข้าทาง ตอร์เรส แต่ไม่มีจังหวะยิงก่อนไหลย้อนไปแถวสองให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ได้สับไกลอกขาผู้เล่นแมนฯยูบอลเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว

     นาที 21 ปาร์ค จี-ซอง ต้องออกไปปฐมพยาบาลหลังศรีษะแตกจากการเข้าปะทะ แมนฯยูเหลือ 10 คนในสนาม และเชลซีก็ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ตอร์เรส พักอกรับบอลจากลูกเปิดจากทางซ้ายก่อนซัดไปติดผู้เล่นแมนฯยูบอลตกมาเข้าเท้า นิโกล่าส์ อเนลก้า ได้ซ้ำจากบริเวณเส้นเขตโทษบอลโค้งเฉียดสามเหลี่ยมออกหลังไป

      นาที 27 เวย์น รูนี่ย์ เปิดบอลจากทางกราบขวาเข้าในกรอบเขตโทษ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ โฉบเข้ามาโหม่งที่เสาแรกบอลเสียบตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า

      นาที 33 แมนฯยูมาได้ฟรีคิกทาฝั่งขวา นานี เปิดเข้าเขตโทษ ผู้เล่นเชลซี โหม่งสกัดไว้ได้ อีกห้านาทีต่อมา เวย์น รูนี่ย์ มีโอกาสสับไกนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาออกหลัง

      "ปีศาจแดง"มาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 ในนาที 43 จากจังหวะที่ จอห์น โอเชีย ตอกส้นจ่ายทะลุช่องให้ ไรอัน กิ๊กส์ ได้หนีเข้าไปปาดบอลตัดแนวรับเชลซีจากริมเส้นด้านขวา ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ปรี่เข้าชาร์จจ่อๆที่เสาสองเสียบตาข่าย เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกมครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง

      เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังเชลซีเปิดเกมบุกหวังทวงประตูคืนและมาไดลุ้นในนาที 50 จากจังหวะที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รับบอลจากลูกทุ่มทางฝั่งขวาก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วซัดบอลออกหลังไป

      นาที 53 เชลซีวางบอมเข้าเขตโทษแมนฯยู เนมานย่า วิดิช โหม่งสกัดบอลบอลตกมาเข้าเท้า ฟลอร็องต์ มาลูด้า ได้วอลเลย์แบบไม่จับบอลเฉียดเสาออกหลัง

     นาที 59 เชลซีมาได้ฟรีคิกนอกกรอบทางขวา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ยิงฟรีคิกทะลุกำแพง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องทุบออกมาจากปากประตู จากนั้นเชลซีต้องเปลี่ยนเอา ซาโลมง กาลู ลงมาแทน อเนลก้า

      นาที 66 แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้าย อเล็ก โหนโขกบอลเฉียบเสาสองออกหลัง นาทีต่อมา อเล็ก โหม่งสกัดบอลมาเข้าทาง หลุยส์ นานี่ ได้ส่องด้วยขวาจากนอกกรอบ ปีเตอร์ เช็ก ทุบบอลออกหลังไปได้

      เชลซีต้องมาตกที่นั่งลำบากเพราะต้องมาเหลือผู้เล่น10คนในนาที เมื่อรามิเรสไปเข้าไปหวด นานีจากด้านหลัง ผู้ตัดสินให้เหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

      เชลซี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1:1 ในนาที 77 จากจังหวะที่ ไมเคิ่ล เอสเซียง วางบอลยาวจากกลางสนามให้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พักอกดึงบอลก่อนหลุดเข้าเขตโทษทางขวาแล้วสับไกลด้วยขวาบอลผ่านมือ นาซาร์ เสียบตาข่าย 

      เชลซีดีใจได้ไม่นานแมนฯยูก็มาได้ประตูขึ้นนำ 2:1 อย่างรวดเร็วหลังโดนยิงไม่ถึงนาทีจากจังหวะเขี่ยบอลเริ่มเล่นกลางสนาม ไรอัน กิ๊กส์ วางบอลให้ ปาร์ค จี-ซอง ได้หลุดเขาในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เสียบเสาไกลสุดสวย

      เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเชลซีมีลุ้นประตูจากจังหวะที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช วางบอลจากทางกราบขวาเข้าในเขตโทษ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เทกตัวขึ้นโหม่งบอลเฉียดเสาอสงออกหลังไปจบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ เชลซี ไป2:1รวมสองนัด 3:1 เข้ารอบรองชนะเลิศไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : จอห์น โอเชีย ,ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช,ปาทริซ เอวร่า
กองกลาง : ไมเคิ่ล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซอง, ไรอัน กิ๊กส์,หลุยส์ นานี่ ( อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.75 )
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ

เชลซี ระบบ 4-3-3 :
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : อเล็ก(เปาโล เฟอร์ไรร่า น.82 ), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : ไมเคิ่ล เอสเซียง, รามิเรส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด
กองหน้า : เฟอร์นานโด ตอร์เรส ( ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา น.46), นิโกล่าส์ อเนลก้า ( ซาโลมง กาลู น.61) ,ฟลอร็องต์ มาลูด้า