"ผม รู้สึกเห็นใจบีนะครับ ผมสงสารเขา เพราะเท่าที่ผมเคยคบและรู้จักเขามา ผมไม่เชื่อกับข่าวที่ออกมาเลย" พระเอกหนุ่ม "เคลลี่ ธนะพัฒน์" เปิดใจถึงกรณีที่แฟนสาว "บี"น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงห่างกัน แล้วมีข่าวเกี่ยวกับผู้ชาย และพฤติกรรมที่ไม่ดี รวมถึงเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ซึ่งนักแสดงหนุ่ม ย้ำว่า "อย่างเรื่องยาเสพติด ตั้งแต่ผมคบกับเขา บีไม่เคยแตะต้องยาเสพติดเลย ผมการันตีได้เลย ขนาดเหล้าแทบจะไม่แตะต้องเลยแค่ดื่มไวน์แก้วเดียวก็หน้าแดงแล้ว เรื่องปาร์ตี้ช่วงคบกับผมเขาก็ไม่ค่อยเที่ยว ช่วงหลังเขาอาจจะไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงบ้าง อาจจะเป็นอารมณ์ที่ว่าตอนนี้เขาโสดก็อาจจะมีไปเที่ยวบ้าง แต่ผมเชื่อว่าไปเที่ยวอย่างไรเขาก็กลับบ้าน ไม่ได้ไปเที่ยวมั่ว เท่าที่ผมรู้จักนิสัยน้องบีถือว่าเขาเป็นคนดีมากเขาไม่เคยมั่วยา ไปเที่ยวเละเทะหรือทำอะไรเสียหาย"

"ส่วน ข่าวที่ว่าน้องบีขายตัว ขายบริการข่าวนี้ทุเรศมากมันเกินไป บีจะมาขายบริการทำไม ผมคบกับเขามาตั้งนาน เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน ขยัน ดูแลคุณแม่และครอบครัวขนาดไหน เรื่องนี้ฟังแล้วรู้สึกเห็นใจเขามากๆ และรู้สึกโกรธแทนเขาด้วยว่าทำไมข่าวถึงเขียนแรงขนาดนี้ ข่าวนี้ออกมาผมได้คุยกับคุณแม่ของบี คุณแม่เขาเครียดและเสียใจมากๆ ถึงกับนอนไม่หลับเพราะข่าวลูกสาวออกมาแรงมาก ข่าวทำนองนี้สำหรับผู้หญิงถือว่าแรงเกิน พูดได้เลยว่าไม่จริงครับ ผมบอกคุณแม่ของบีว่าต้องเข้มแข็งไว้มันไม่จริงเดี๋ยวก็เงียบไปเอง"

ยัง มีข่าวว่า "บี" เป็นมือที่สามทำลายความรักของ "ฮิม" กับ "แพท"ณปภา ตันตระกูล "เท่าที่ผมรู้จักและเคยคบกับเขามา ผมไม่คิดว่าเขาจะไปทำอะไรแบบนั้น ส่วนเรื่องที่ว่าบีรู้จักกับเขาหรือเปล่าผมไม่ทราบเพราะผมไม่รู้จักทางฝ่าย โน้นเลย แต่เท่าที่รู้จักนิสัยน้องบีเขาไม่ใช่คนที่แย่งของใคร"

ตั้งแต่ เกิดข่าวขึ้นมา "เคลลี่" มีให้กำลังใจ "บี" บ้างหรือเปล่า "จริงๆ ผมไม่ได้ติดตามข่าวเลยครับ แต่มีคนรู้จักใกล้ตัวผมหลายคนเป็นห่วงและโทร.มาหาผมว่ามีข่าวต่างๆ เกิดขึ้นกับบี ผมไม่อยากคิดมาก เราเห็นใจเขาอ่านข่าวแล้วรู้สึกเสียใจแทน ทุกอย่างที่โดนเขียนเกี่ยวกับเขา 4 ปีกว่าที่คบกันเขาไม่ใช่คนแบบนั้นเลยครับ"

ณ วันนี้ความสัมพันธ์ของ "เคลลี่" กับ "บี" เป็นอย่างไรบ้าง "ก็เป็นพี่น้องและเป็นเพื่อนกันครับ"

จะ มีโอกาสกลับมาเหมือนเดิมหรือเปล่า "มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เราตัดสินใจว่าห่างกันแล้วดูก่อนว่ามันเป็นอย่างไร แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้คือเป็นพี่น้องกัน"

แสดงว่าต่างคน ต่างสามารถเปิดใจรับศึกษาคนใหม่ๆ ได้ "ตรงนี้ก็แล้วแต่เขาครับ สำหรับผมก็ทำงานของผมไป ส่วนเรื่องการเปิดรับมันต้องมีจังหวะเข้ามา เราคงไปหาไม่ได้"