โค้ชต้อม วิธวราศักดิ์ อุปถัมภ์นรากร กุนซือ ปตท.ระยอง รับเสียดายที่ทีมเล่นดีแต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบ 4  ศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ได้ แขวะผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้แย่มากเสียดายในความทุ่มเทของนักเตะ

ความเคลื่อนไหวของทีม "พลังเพลิง" ปตท.ระยอง หลังจากที่ลงเล่นในศึกมูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพรอบ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยแพ้ต่อเจ้าบ้าน บุรีรัมย์ พีอีเอ ไปอย่างหวุดหวิด 1-2 โดยเจ้าบ้านได้ประตูชัยในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บหลังจากที่ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 โดยในเกมดังกล่าว ปตท.ระยอง ต้องเล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกด้วย

โดยโค้ชต้อม วิธวราศักดิ์ อุปถัมภ์นรากร กุนซือของทีมออกมาเผยถึงเกมเกมดังกล่าวว่า สำหรับนัดที่ผ่านมานั้นตนยอมรับว่ารู้สึกเสียดายพอสมควร ที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้ เพราะตนคิดว่าเราเล่นได้ไม่เป็นรองเจ้าถิ่นเลยด้วยซ้ำ แต่มาเกิดจุดเปลี่ยนตอนที่เราตั้งมาเหลือผู้เล่นในสนามแค่ 10 คน แต่เราก็เล่นกันได้ดีแม้วาจะโดนยิงประตูขึ้นนำไปก่อน แต่ทุกคนก็ช่วยกันเล่นจนสามารถตามตีเสมอได้ ซึ่งอันที่จริงเกมนี้น่าจะตัดสินด้วยการดวลจุดโทษด้วยซ้ำ แต่เราโชคร้ายที่ต้องมาโดนเจ้าถิ่นยิงประตูชัยในช่วงเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย แต่ก็รู้สึกภูมิใจกับผลงานของลูกทีมทุกคน

นอกจากนี้นายใหญ่ ปตท.ระยอง ยังได้พูดถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเกมดังกล่าวด้วยว่า อันที่จริงตนก็ไม่อยากที่จะวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน แต่อย่างที่เห็นๆกันอยู่หากใครได้ชมเกมก็คงจะคิดเหมือนกับตน ไม่ใช่เฉพาะแฟนบอลของ ปตท.ระยอง เท่านั้น เพราะผู้ตัดสินตัดสินได้ไม่ทันเกมเลย และยังเป่าให้ทีมตนเสียประโยชน์หลายครั้ง ซึ่งตรงส่วนนี้ก็มีส่วนทำให้เราต้องตกรอบเร็วกว่ากำหนด และตนก็อยากให้ผู้ตัดสินพิจารณาตัวเองดีกว่าให้คนอื่นมาบอก เพราะสิ่งที่เสียดายไม่ใช่การที่เราไม่ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไป แต่สิ่งที่ตนเสียดายก็คือการที่นักเตะทำงานหนัก แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนที่ยุติธรรม แต่อย่างไรก็ตามตนก็จะไม่เอาเรื่องนี้มาใส่ใจมาก เพราะเรายังมีภารกิจในการลงเล่นในศึกดิวิชั่น 1 ต่อไป โดยตนมั่นใจเหลือเกินว่าหากเราเล่นได้เหมือนนัดที่ผ่านมา ก็มีสิทธิ์ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศได้อย่างแน่นอน