ทีมชาติไทย ฟอร์มยังไม่เจ๋ง ทำได้แค่เจ๊า 1-1 ในการเล่นอุ่นเครื่องกับพม่า นัดที่สอง จักรพันธ์ แก้มพรม ซัดจุดโทษให้นำก่อน 1-0 ตั้งแต่ น.16 ก่อนจะโดน ไป ซอย ยิงตีเสมอ น.63 แต่ยังได้ข่าวดี เมื่อ สุรัตน์ สุขะ กองกลางป้ายแดงของ "ปราสาทสายฟ้า" กลับมารายงานตัวเป็นวันแรก ซึ่งเจ้าตัวหมายมั่นพาทีมเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายโซนเชีย ด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมัน พอใจกับแข้งสำรอง ทำหน้าที่ได้ยอดยี่ยม และจะไม่เรียกเสริมอีกแล้ว

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ที่เดินทางมาเก็บตัวใน จ.บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมสู้ศึกฟุตบอลโลก 2011 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดแรก เจอกับทางปาเลสไตน์ในวันที่ 23 ก.ค. นี้ ที่สนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม เวลา 18.00 น.
หลังจากที่ทีมชาติไทยลงทำการอุ่นเครื่องกับพม่า และเฉือนเอาชนะไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา วินฟรีด เชเฟอร์ ได้พาลูกทีมเข้าห้องประชุมของ รร.เทพนคร เพื่อทำการดูเทปการเล่นของแมตช์ลับแข้งเมื่อวานนี้

โดย "วินนี่" เปิดเผยถึงการดูเทปครั้งนี้ว่า ตนต้องการที่จะแนะนำการเล่น เนื่องจากการอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเลยว่ามีข้อผิดพลาดในรอยต่อของเกมรับ เมื่อนักเตะเล่นเกมรุกสูง ทำให้ลงมาช่วยซัพพอร์ตในส่วนนี้ไม่ทัน

    ชมเปาะคู่เซนเตอร์,แบ็กซ้ายเยี่ยม

นอกจากนี้กุนซือใหญ่ชาวเยอรมัน ยังได้พูดถึงฟอร์มการเล่นของนักเตะแนวรับว่า "การประสานงานระหว่าง โอ๊ด (ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์) กับ ชล (ชลทิตย์ จันทคาม) ถือว่าประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม มีความเข้าใจเกมกันสูงมาก อีกทั้งการเล่นของ บอย (อนุชา กิจพงษ์ศรี) ทำให้แบ็กซ้ายดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการเติมเกมขึ้นมาเล่นกับ อ้น (รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค) ทำให้กราบซ้าย ดูมีความวูบวาบ และเกือบที่จะได้ประตูจากฝั่งนี้หลายครั้งมาก"

จากนั้นในช่วงเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกัน บรรดา 24 ขุนพลทีมชาติไทยได้ออกจาก รร.เทพนคร เพื่อเดินทางไปยังสนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม เนื่องจากมีคิวอุ่นเครื่องกับพม่าอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการเล่นในรูปแบบ 2 ควอเตอร์ๆ ละ 35 นาที ทั้งนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ ต้องการที่จะให้โอกาสผู้เล่นที่ยังไม่ได้ลงสนาม แสดงศักยภาพออกมาให้เห็นกับตา

 

    "สุรัตน์" มารายงานตัวเรียบร้อย

ขณะเดียวกันที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลในนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม นั่นคือ สุรัตน์ สุขะ ห้องเครื่องตัวใหม่ของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้เดินทางมารายงานตัวกับทีมชาติไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับเสียงปรบมือจากกองเชียร์ทั้งสนาม

ซึ่งเจ้าตัวพูดถึงการเข้าแคมป์ครั้งนี้ว่า "หลังจากที่ผมพลาดการเล่นให้ทีมชาติคราวก่อน ในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เนื่องจากได้ทำข้อตกลงกับเมลเบิร์น วิคตอรี่ และสมาคมฟุตบอลฯ ว่าจะไปช่วยในรอบสอง แต่เราดันพลาดตกรอบไปก่อน ทำให้ในตอนนี้ ผมมีความกระหายที่อยากจะลงสนามโดยเร็ว เพราะอยากจะช่วยให้ทีมชาติ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก รอบ 10 ทีมสุดท้ายของโซนเอเชีย"

    วางชุดสำรองอุ่นเกือกหม่อง

ด้านการจัด 11 ผู้เล่นลงสนามในเกมนี้ของ วินฟรีด เชเฟอร์ เจ้าตัวส่งแข้งสำรองลงทั้งหมด ให้ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ลงเฝ้าเสา แบ็กขวาใช้ ชาคริต บัวทอง ทางซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน คู่เซนเตอร์ให้ สุทธินันท์ พุกหอม จับคู่กับ ปรัชญ์ สมัคราษฎร์

แดนกลางใช้ ปกเกล้า อนันต์ เดินเกมร่วมกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จอมเก๋าจาก เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ส่วนปีกซ้ายเป็นหน้าที่ของ อัสมิง แม ด้านขวาใช้ จักรพันธ์ พรใส ขณะที่คู่หัวหอก สมปอง สอเหลบ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ สุรชาติ สารีพิมพ์

    ครึ่งแรก "จักรพันธ์" ซัดโทษไทยนำ 1-0

เปิดฉากครึ่งแรกแข้งสำรองของทีมชาติไทย เล่นเกมรุกได้เหนือกว่ามาก เนื่องจากดูมีความกระหาย ที่อยากจะโชว์ฟอร์มให้เข้าตา วินฟรีด เชเฟอร์ กระทั่ง น.16 เสียงเฮของแฟนบอลก็ดังสนั่นสนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม เมื่อ ซอ ซอ อู กองหลังของพม่า ไปเบียด สมปอง สอเหลบ ในจังหวะกระชากบอลล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ประธาน นาสว่าง ไม่รอช้าเป่าให้ฟาวล์ พร้อมกับชี้เป็นจุดโทษ

และเป็น "เจ้าบอล" จักรพันธ์ พรใส ปีกจรวดจากค่ายเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งรับหน้าที่สังหารไม่พลาดเป้า ให้ไทย นำในครึ่งแรก 1-0

    โดนพม่าตีเจ๊า 1-1 ช่วงท้าย

กลับสู่ครึ่งหลังทีมชาติไทยส่ง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กับ ศรายุทธ ชัยคำดี ลงมาแทน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล และ สมปอง สอเหลบ ซึ่งยังเป็นฝ่ายที่ครองเกมบุกได้เยอะกว่า และน่าจะบวกสกอร์ได้เพิ่มใน น.48 จากจังหวะที่ จักรพันธ์ พรใส โยนบอลจากกราบขวาเข้าไปให้ สุรชาติ สารีพิมพ์ ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่กลับไปถูก ทีฮา ซิ ตู ล้มตัวรับบอลไว้ได้ แต่แล้วทีมเยือนก็มาได้ประตูตีเสมอใน น.63 จาก ไป ซอย ทำให้จบเกมเจ๊ากันไปอย่างสนุก 1-1

    กุนซือเมืองเบียร์พอใจผลงาน

หลังเกมทาง วินฟรีด เชเฟอร์ เฮดโค้ชของมทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงทีมชุดนี้ว่า "ในครึ่งแรกฟอร์มของพวกเขาทำได้ดีมาก เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อย และความกระหายที่อยากจะลงเล่น แต่ยังคงปรับปรุงเรื่องการจบสกอร์ ซึ่งจุดนี้นักเตะส่วนใหญ่ น่าจะทำการฝึกซ้อมมาจากสโมสรบ้าง เพราะเห็นได้ชัดเลยว่ายังทำได้ไม่ดีพอ"

นอกจากนี้ "วินนี่" ได้บอกถึงจังหวะที่เสียประตูตีเสมอว่า "เราไม่อยากจะโทษ เอ๊ะ (ชาคริต บัวทอง) เพราะวันนี้เราจับเขาเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด นั่นคือแบ็กขวา แม้ว่าเราจะเสียประตู แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือ การสู้กันได้อย่างสนุก"

    ชี้ 3 แข้ง "โปลิศ" เล่นได้ดี

ขณะเดียวกันอดีตเฮดโค้ชของทีมชาติแคเมอรูน ปี 2002 ยังได้พูดถึงฟอร์มการเล่นของ 3 นักเตะจากอินทรีเพื่อนตำรวจ อย่าง สุรชาติ สารีพิมพ์, อัสมิง แม, ปกเกล้า อนันต์ ว่า "ในครึ่งแรกเขาทั้ง 3 คนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือรับ ต่างช่วยกันทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อาจจะเป็นเพราะว่าความเหนื่อยล้าในช่วงครึ่งหลัง ทำให้สมาธิของพวกเขาหายไป"

    ไม่เรียกใครมาเสริมทัพแล้ว

ต่อข้อสักถามข้อผู้สื่อข่าวสยามกีฬาที่ถามถึงเรื่องการเรียกตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมในทีมชาติไทยชุดนี้ว่า วินฟรีด เชเฟอร์ จะทำการเรียกมาเพิ่มหรือไม่ หลังจากที่ส่งชื่อไปแล้ว และทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะทำการปิดกำหนดให้ส่งภายในวันที่ 16 ก.ค. นี้

ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "เราคงจะไม่เรียกใครเข้ามาเสริมอีกแล้ว เนื่องจากผู้เล่นที่เรามีอยู่ในชุดปัจจุบัน ค่อนข้างที่จะมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว อีกทั้งเรายังได้ สุรัตน์ สุขะ กลับมาร่วมฝึกซ้อมกับทีมแล้วด้วย โดยส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าพวกเราจะสามารถผ่านปาเลสไตน์ในนักแรกได้อย่างแน่นอน"

    บอกเวลาน้อยไม่อุ่นเครื่องอีกแล้ว

อีกทั้ง วินฟรีด เชเฟอร์ ยังตอบข้อสักถามถึงเกมอุ่นเครื่องว่า จะขอบุรีรัมย์ พีอีเอ มาฟาดแข้งเพื่อลองระบบครั้งสุดท้ายหรือไม่ เนื่องจาก "ปราสาทสายฟ้า" มีผู้เล่นต่างชาติที่มีฝีเท้าดีหลายรายทั้ง แฟร้งค์ อาเชียมปง, อันแดร์สัน โดส ซานโตส และ โอบามา โจเซฟ

"เราคงจะไม่มีการอุ่นเครื่องอีกแล้ว เนื่องจากเหลือเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ที่เราต้องการเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเจอกับ ปาเลสไตน์ อีกทั้งเรายังเป็นห่วงสนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม เนื่องจากที่ผ่านมาทาง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่"

    "โค้ชง้วน" ชี้ต้องผสมนักเตะเกมนัดแรก

ด้าน "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ มือขวาของ วินฟรีด เชเฟอร์ ได้พูดถึงนักเตะชุดนี้ว่า "ทุกคนล้วนแต่มีศักยภาพที่ดีมาก แต่การเจอกับปาเลสไตน์ น่าจะเป็นงานที่ยากพอสมควร เนื่องจากพวกเขามีการเตรียมตัวมากกว่าทีมชาติไทย เพราะฉะนั้น ในการเจอกับปาเลสไตน์ เราคงจะใช้ผู้เล่นผสมกัน ระหว่างนักเตะที่มีประสบการณ์ และดาวรุ่งของทีม ในการที่จะเก็บชัยชนะนัดแรก"

    "บิ๊กเน" บอกน่าจะมีสปีดบอลมากกว่านี้

ส่วน "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ พีอีเอ พูดถึงเกมอุ่นเครื่องนัดที่สองของทีมชาติไทยว่า "เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งว่าผู้เล่นเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นดาวรุ่งที่มีความกระหาย อยากจะลงเล่นอย่างมาก เพื่อที่จะได้เป็นการพพิสูจน์ตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องปรับ นั่นคือเรื่องของสปีดบอล ที่ยังไม่เร็วมากนัก และการเติมเกมของวิงแบ็กทั้ง 2 ข้าง ยังทำได้ไม่ดีมากเท่าไร"