Seediq Bale อภิมหาภาพยนตร์แห่งไต้หวัน
Posted 30/07/2011 by ผู้จัดการ
ในอีกประมาณเดือนกว่าที่หนังฟอร์มยักษ์แห่งไต้หวัน Seeding Bale กำลังจะเข้าฉาย ก็มีข่าวดีเป็นกำลังใจ สำหรับทีมงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกคน เมื่อหนังได้รับเลือกให้เข้าฉายในสายหลักของเทศกาลหนังนานาชาติเมืองเวนิสปีล่าสุดด้วย
Seediq Bale เป็นเป็นงานของ เว่ย เต๋อเซิ่ง ผู้กำกับที่เคยสร้างชื่อโด่งดังกับหนัง Cape No.7 ผลงานที่กวาดทั้งเงินและคำชมจากประชาชนไต้หวันไปมากมาย แต่ในหนังเรื่องล่าสุด เว่ย เต๋อเซิ่ง พกความทะเยอทะยานมาเต็มกระเป๋า กับงานช้างในการสร้างหนังอิงประวัติศาสตร์ของไต้หวัน ที่ต้องอาศัยทั้งทุนสร้าง, ความอดทน และการดิ้นรนอย่างหนัก ชนิดเท่าที่คนทำหนังผู้หนึ่งจะสามารถทุ่มเทได้
ในเรื่องราวหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ “เหตุการณ์อู๋เซ่อ” ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้นำชนเผ่าท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้สร้างวีรกรรมกล้าหาญ ในการนำกองกำลังนักรบพื้นเมืองจำนวน 400 ชีวิต เข้าต่อต้านกับผู้รุกรานอย่างกองทัพญี่ปุ่น เมื่อปี 1930 อันเป็นช่วงเวลาแห่งการล่าอาณานิคมของชนชาติแห่งพระอาทิตย์ ที่มีสิทธิ์เหนือการปกครองไต้หวันมาตั้งแต่ปี 1895 เป็นต้นมา
ซึ่ง “ซีดิก” (Seediq) ก็คือชื่อของชนเผ่าพื้นเมืองบนเกาะไต้หวัน เป็นชาวไต้หวันแท้ ๆ ซึ่งอาศัยก่อนหน้าที่ชาวจีนจะอพยพเข้ามา มีภาษาเป็นของตัวเอง โดยส่วนมากมีถิ่นอาศัยอยู่ในมณฑลหนานโถว และมณฑลฮัวเหลียน ซึ่งเรื่องราวของพวกเขากลายเป็นวีรกรรมที่ถูกเล่าขานมานาน แต่เพิ่งจะได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เพื่อให้ทั่วโลกได้รับรู้
ผลงานชิ้นนี้จึงเป็นงานที่สำคัญทั้งต่อตัวผู้กำกับ และประเทศไต้หวันโดยตรง เป็นงานที่ เว่ย เต๋อเซิ่ง ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างหมดทั้งตัวและหัวใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เขายังไม่มีเครดิตเป็นผู้กำกับหนังเรื่องใดมาก่อนเลย โดยเงินก้อนแรก 2 ล้านเหรียญไต้หวัน ที่ผู้กำกับคนดังรวบรวมมาได้ในปี 2003 ถูกใช้สำหรับถ่ายทำฉากสั้น ๆ ความยาว 5 นาที เพื่อเป็นตัวอย่าง ในการนำเสนอขอทุน สำหรับการแสดงภาพรวม และเนื้อหาของหนังว่ามีลักษณะขอบเขตเป็นอย่างไรบ้าง
แม้หนังสั้น 5 นาทีของเขาจะได้รับคำชื่นชมจากผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยความใหญ่โตและสุ่มเสี่ยงของโครงการครั้งนี้ เว่ย เต๋อเซิ่ง ก็ยังไม่สามารถหาทุนรอนได้ครบ จนกระทั่ง Cape No. 7 หนังเล็ก ๆ ที่ให้อารมณ์ถวิลหาอดีตอันสวยงามของไต้หวัน ที่เป็นผลงานเรื่องแรกอย่างเป็นทางการของเขา ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทำรายได้ไป 530 ล้านเหรียญไต้หวัน กลายเป็นหนังทำเงินอันดับสองตลอดกาลของไต้หวันในตอนนั้น เป็นรองเพียง Titanic เท่านั้น
ขณะที่อีกด้าน Cape No. 7 ยังกวาดรางวัลจากเวทีต่าง ๆ ไปมากมาย รวมถึง 6 รางวัลม้าทองคำประจำปี 2007 ด้วย จนความสำเร็จของ Cape No. 7 กลายเป็นแรงส่งที่ทำให้ Seediq Bale เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในที่สุด
สุดท้ายเขาสามารถเปิดกล้อง Seediq Bale ด้วยทุนสร้าง 288 ล้านเหรียญไต้หวัน แต่ระหว่างการถ่ายทำก็มีปัญหาเรื่องทุนสร้างไม่พอมาโดยตลอด และได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมวงการหลายคน รวมถึงมีข่าวว่า เจย์ โจว ศิลปินอันดับ 1 ของประเทศก็ช่วยสนับสนุนเงินทุนก้อนหนึ่งให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย
จนสุดท้ายมีรายงานว่าทุนสร้างของหนังเรื่องนี้ได้บานปลายไปสูงถึง 700 ล้านเหรียญไต้หวัน ถือว่ามากมายอย่างถึงที่สุด สำหรับวงการหนังไต้หวัน ที่ทุนสร้างหนังเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น
ในการพูดคุยกับนักข่าวเมื่อ 2 เดือนก่อนผู้กำกับกล่าวถึงการทำงานครั้งนี้ว่าแทบไม่ได้ต่างอะไรจาก ‘การไปรบ’ เลย “ผมค่อนข้างมั่นใจนะครับ ว่าคงไม่มีทีมงานหนังเรื่องใดได้ประสบกับวิบากกรรมแบบที่เราต้องเจอในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้”
ด้วยนักแสดงตัวประกอบกว่า 15,000 ชีวิต และทีมงานร่วม 400 คนจากทั้งไต้หวัน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ Seediq Bale ต้องต่อสู้กับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายของป่าทึบในเขตภูเขาทางตอนเหนือของไต้หวัน ที่กินเวลายาวนาน 10 เดือน “ถ้ามีใครในกองถ่ายที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรระหว่างการทำงานเลย เขาก็คงเป็นคนประเภทขี้เกียจสันหลังยาวแน่ ๆ” ผู้กำกับกล่าวติดตลกถึงการทำงานที่ยากลำบากสำหรับทีมงานทุกคน
หนังที่ว่าด้วยการต่อสู้และความขัดแย้งระหว่างชาวพื้นเมืองบนเกาะไต้หวัน และกองทัพญี่ปุ่น กลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายห่วงใยว่าอาจสร้างข้อพิพาทครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศขึ้นมา ซึ่ง เว่ย เต๋อเซิ่ง ไม่เชื่อว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาอะไร เพราะหนังเล่าเรื่องอย่างมีเหตุผลโดยไม่ได้ยัดเยียดความเป็นผู้ร้ายให้กับใคร “หนังไม่ได้เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างความดีกับความเลวนะครับ แต่เป็นความพยายามในการเสนอภาพความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากกว่า”
Seediq Bale ประกอบไปด้วยนักแสดงทั้งชาวไต้หวัน, ชาวพื้นเมือง และชาวญี่ปุ่น อาทิ วิเวียน ซู, จิเอะ ทานากะ, อันโด มาซาโนบุ, เหวินหลัน และ ลั่วเม่ยหลิง เป็นต้น โดยหนังจะถูกแบ่งออกเป็นสองภาค สำหรับหนังภาคแรก ที่จะครอบคลุมไปในส่วนของการแนะนำตัวละคร และวาดภาพบรรยากาศของไต้หวันในช่วงแห่งการตกอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นจะมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 9 ก.ย. นี้ ขณะที่หนังภาคสอง ซึ่งจะเข้าฉายในวันที่ 30 ก.ย. จะมีเนื้อหาอยู่ที่การลุกขึ้นต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น ของกลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองในไต้หวัน แม้จะมีกำลังคนน้อยกว่าถึง 10 เท่าก็ตาม
ขณะนี้ Seediq Bale สามารถหาผู้จัดจำหน่ายใน ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ได้แล้ว ขณะที่ผู้กำกับก็ได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท Fortissimo Films ในการพาผลงานที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานของเขาไปฉายยังฝั่งตะวันตกอย่าง ยุโรป และอเมริกาแล้วเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
Fright Night
รีเมคจากภาพยนตร์ ตลก - สยองขวัญ สุดฮิตในอดีตชื่อเดียวกัน และเป็นที่รู้จักในชื่อไทยว่า "คืนนี้ผีมาตามนัด" โคลิน ฟาเรลล์ รับบท "เจอร์รี่" แวมไพร์โหดสุดล่ำที่เข้ามาอาศัยอยู่ข้างบ้าน ของ ชาร์ลี บริวสเตอร์ (แอนทอน เยลชิน) และแม่ของเขา (โทนิ คอลเล็ตท์)ตัวอย่างแรกจาก The Amazing Spider-Man มาแล้ว!!
ตัวอย่างแรกจาก The Amazing Spider-Man มาแล้ว!! นำแสดงโดย แอนดรู การ์ฟิลด์, เอ็มม่า สโตน, ไรห์ ไอฟาน และกำกับโดย ผู้กำกับรุ่นใหม่ มาร์ค เว็บ (ที่ทำ 500 เดย์ ออฟซัมเมอร์) ก็รีบูทกันใหม่ ให้รุ่นใหม่ๆได้ชมกัน คนที่คุ้นเคยเวอร์ชั่น โทบี้ แม๊กไกวน์ ก็นับหนึ่งใหม่นะ โทบี้ คงอายุเกินจะเป็น ปีเตอร์ปาร์กเกอร์แล้วเรื่องย่อ คนโขน
เรื่องของคน เรื่องของโขนนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2508 โดยเล่าเรื่องราวของ ชาด (อภิญญา รุ่งพิทักษ์มานะ) เด็กกำพร้าที่ถูกครูโขนฝีมือดีอย่าง ครูหยด (สรพงษ์ ชาตรี) เลี้ยง ดูและฝึกหัดโขนให้ตั้งแต่เล็ก ๆ จนกระทั่งเติบใหญ่มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจกลายเป็นศิษย์เอกในคณะโขนของครูหยด อีกทั้งชาดยังได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจที่ดีเสมอมาจากเพื่อนรักอย่าง ตือ (กองทุน พงษ์พัฒนะ) และ แรม (นันทรัตน์ ชาวราษฎร์) ที่สนิทสนมรักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่วัยเด็กเรื่องย่อ บางกอกกังฟู
โป้ง, ชิ, กา และ นา กลุ่มเด็กน้อย 4 คน ที่ถูกแก๊งค์ค้ามนุษย์ลักพาตัวไปเพื่อบังคับให้เป็นขอทาน พร้อมทั้งถูกทารุณกรรม โป้ง (เป้) ถูกตัดลิ้นด้วยมีดตัดต้นไม้จนพูดไม่ได้ ชิ (แบงค์) ถูกแทงจนตาบอดทั้งสองข้างด้วยไม้เสียบลูกชิ้น กา (โทโมะ) ถูกตบบ้องหูจนหนวก และ นา (มาริโอ้) ถูกทุบหัวจนกลายเป็นคนสติเลอะเลือนไม่เต็มเต็ง พวกเขาถูกแกงก์ค้ามนุษย์ร่อนเร่ขอทานไปตามจังหวัดต่าง ๆ จนมาถึงกรุงเทพฯ ที่นั่นพวกเขาได้พบกับชายชราจีนที่มีชื่อว่า อึ้งเสี่ยวหงษ์ อาจารย์ผู้ทรงวิทยายุทธ์ผู้สืบทอดคนสุดท้ายแห่งพรรคจันทรา กับเด็กผู้หญิงชื่อ กอหญ้า (แก้ว) ซึ่งชายชราได้ช่วยเหลือทั้งสี่คนออกมาจากพวกแก๊งค์ค้ามนุษย์ และนั้นคือ วันแรกที่เด็กทั้งสี่ได้รู้ว่า "สุดยอดวิชากำลังภายในนั้นมันมีอยู่จริง"
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
เมย์ ณัฐพัชร สลัดลุคนางสาวไทย นุ่งบิกินี่-แหวกอก โชว์เซ็กซี่เบา ๆ ก่อนหยอดแคปชั่นอ้อนเอฟซี
น้ำ ชฏาเกตุ ไอดอลสาวสุดฮอต โชว์หุ่นเอวเอส ในชุดว่ายน้ำ หน้าทองแบนราบ
หญิง ธนพร สาวเหนือหุ่นเซ็กซี่ ที่ทำชาวเน็ตใจละลายทั้งโซเชียล
ปันปัน สุทัตตา ส่งภาพเซ็กซี่ เขย่าโซเชียลจากต่างแดน ทั้งงานหุ่นงานผิว เต็มสิบไม่หัก !!
ลี่เล้ง พรวิภา แฟนบอลสาวหุ่นเซ็กซี่ ที่ทำหนุ่ม ๆ หวั่นไหวทั้งโซเชียล
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
โดนรัวครึ่งหลัง! ไทย บุกพ่าย ญี่...
คลิปไฮไลท์