งาน มีทเดอะเพรส ไทยลีกร้อนระอุ อาร์มี่ ยูไนเต็ด คำรามลั่นขอเก็บชัยเหนือ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่ตั้งเป้าเก็บ 3 แต้มเหมือนกัน ส่วน การท่าเรือไทย คุยฟุ้งล้ม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้แน่ ขณะที่ กิเลนผยอง รับงานหนักแต่เชื่อว่า 3 แต้มไม่หนีไปไหน ขณะที่ เอสซีจี สมุทรสงคราม สภาพทีมทรุดหนัก แต่ขอลุ้นคว้า 3 แต้มในถิ่นตัวเอง ส่วน เชียงราย ยูไนเต็ด ตั้งเป้าเก็บชัยเช่นกัน แม้จะต้องขาด 2 แซมบ้า

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ได้มีการจัดงานแถลงข่าว “มีท เดอะ เพรส” สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 โดยมี องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมด้วยตัวแทนของ 6 สโมสร ที่จะทำศึกกันในสุดสัปดาห์นี้ มาร่วมแถลงข่าวความพร้อมกันอย่างคับคั่ง

“อาร์มี่” ลุ้นฟิต “เลอันโดร”

เปิดหัวด้วยคู่บิ๊กแมตช์อย่าง อาร์มี่ ยูไนเต็ด พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่จะแข่งขันกันวันที่ 6 ส.ค. 54 โดยทางฝั่ง อาร์มี่ ยูไนเต็ด ส่งตัวแทนอย่าง อดุลย์ รุ่งเรือง ผช.โค้ช และ มงคล ทศไกร กองกลางตัวเก่งเข้าร่วมงาน ซึ่งทาง โค้ชอดุลย์ ได้เปิดเผยถึงความพร้อมว่า “เวลานี้ทีมอาร์มี่ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ 2 นักเตะบราซิลอย่าง เลอันโดร ดอส ซานโตส กองหน้าตัวเก่ง และ โทนี่ เดอ ปินโญ่ กองกลางตัวคุมเกม ซึ่งคาดว่าสุดท้ายแล้วไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนนอกนั้นนักเตะทุกคนสามารถลงสนามได้ทั้งหมด ทำให้คาดว่าในเกมกับ บางกอกกล๊าส ทีมอาร์มี่จะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม”

ตั้งเป้า 3 แต้มสถานเดียว

พร้อมกันนั้น โค้ชอดุลย์ ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายในเกมนี้ว่า “เกมกับ บางกอกกล๊าส ในสัปดาห์นี้ นับเป็นเกมที่ยากเกมหนึ่ง เนื่องจากพวกเขามีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามทีมอาร์มี่เองก็มีความพร้อมในศึกนัดนี้พอสมควร ซึ่งทางผู้ใหญ่และสตาฟฟ์โค้ชทุกคนตั้งเป้าว่าจะต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้สถานเดียว เพราะเรามีความได้เปรียบที่ได้เล่นในบ้าน อีกทั้งทุกคนต้องการจะลบความผิดหวังในนัดล่าสุดที่เราบุกไปแพ้ศรีราชามาในสัปดาห์ที่แล้ว”

“บีจี” ฟูลทีมเข็น “โจ้” ลงยิง

ส่วนทางด้าน บางกอกกล๊าส เอฟซี ส่งตัวแทนอย่าง อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ กุนซือใหญ่ และ ศุภชัย คมศิลป์ กัปตันทีมมาร่วมงาน ซึ่งทาง “ขงเบ้งลูกหนัง” ได้กล่าวถึงความพร้อมว่า “เกมนัดนี้เรามีความพร้อมค่อนข้างจะเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีนักเตะคนใดได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ส่วนในรายของ ศรายุทธ ชัยคำดี กองหน้าของเรานั้น เวลานี้แม้สภาพร่างกายจะยังไม่ฟิตเต็มที่ แต่ตนก็น่าจะเข็นเขาลงสนาม เพราะเราไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วในแดนหน้า ดังนั้นเกมนี้ตนยืนยันว่าเราจะยกทัพไปเยือนด้วยชุดผู้เล่นที่ดีที่สุด”

ฟุ้งบุกยิงทัพบกดับดิ้นคารัง

นอกจากนั้น อ.อาจหาญ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจถึงเกมนัดนี้ว่า “จากการที่เรามีสภาพทีมที่ค่อนข้างพร้อม ทำให้เป้าหมายในเกมนี้คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากบุกไปคว้าชัยชนะให้ได้สถานเดียว และถึงแม้ว่าทีมอาร์มี่จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งยามได้เล่นในบ้าน แต่ด้วยการที่เรามีเกมรุกที่ดุดัน ตนมั่นใจว่าเราจะบุกไปทำประตูเอาชนะพวกเขาได้แน่นอน”

“ท่าเรือ” ยวบใส่ชื่อ “โค้ชธง” เล่น

ส่วนอีกคู่เป็นการพบกันระหว่าง การท่าเรือไทย เอฟซี ปะทะ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ซึ่งจะแข่งขันในวันที่ 6 ส.ค.54 โดยทาง การท่าเรือฯ ส่ง ธงชัย สุขโกกี เฮดโค้ช พร้อมด้วย เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ปีกตัวจี๊ดมาร่วมงาน ซึ่ง “โค้ชธง” ได้กล่าวถึงความพร้อมว่า “เกมกับ เมืองทองฯ ในวันเสาร์นี้ ทีมท่าเรือนับว่ามีปัญหาพอสมควร เพราะปัจจุบันเรามีนักเตะในเกมรับได้รับบาดเจ็บหลายราย อาทิ มุนเช่ อุลริช ผู้รักษาประตูมือ 1, ณรงค์ วิเศษศรี ผู้รักษาประตูมือ 2 และ มูดูโร่ สวา มอยเซ่ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทำให้ในเกมกับเมืองทองฯ ตนจำเป็นต้องใส่ชื่อตัวเองเป็นผู้เล่นสำรองของ วัลภ แซ่จิ๋ว นายทวารมือ 3เพราะในทีมไม่มีผู้รักษาประตูคนอื่นอีกแล้ว ขณะที่ในตำแหน่งอื่นๆคงจำเป็นต้องเข็นนักเตะตัวหลักที่ยังมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยลงสนาม เพราะสภาพทีมของท่าเรือตอนนี้นับว่ามีนักเตะให้เลือกใช้น้อยเต็มที”

วอนแฟนช่วยเชียร์จนเก็บชัย

พร้อมกันนั้น “โค้ชธง” ได้กล่าวถึงความมั่นใจในเกมนัดนี้ว่า “เกมกับ เมืองทองฯ ในวันเสาร์นี้นับเป็นอีกนัดที่สำคัญมาก เพราะในศึกไทยลีกนัดที่แล้วเราแพ้ให้กับ พัทยาฯ 0-2 ดังนั้นหากเกมนี้เราไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ โอกาสที่จะถูกกลุ่มผู้นำทำแต้มหนีห่างออกไปก็มีสูง ดังนั้นตนอยากขอให้แฟนบอลสิงห์เจ้าท่าทุกคนช่วยกันส่งแรงใจเชียร์ทีมการท่าเรือฯให้มากๆ เพราะหากเราได้รับกำลังใจแล้ว โอกาสที่เราจะมีฮึดจนเอาชนะเมืองทองฯก้มีสูง”

“กิเลน” เปรี๊ยะ “ฟาวเลอร์” อาจตัวจริง

ขณะที่ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด งานนี้ส่ง “ตอง” กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 มาร่วมงานเพียงลำพัง ซึ่ง “ตอง” ได้กล่าวถึงความพร้อมของทีมว่า “เวลานี้ทีมเมืองทองฯไม่มีนักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้เชื่อว่าในสุดสัปดาห์นี้ เอ็นริเก้ คาลิสโต้ กุนซือใหญ่ น่าจะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม ส่วนในรายของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ได้ประสนามไปแล้วนั้น ในสุดสัปดาห์นี้อาจจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เพราะสภาพร่างกายของเขาน่าจะสูงถึง 85 เปอร์เซ็นต์แล้ว”

เน้นรัดกุมวางเป้า 3 แต้ม

ส่วนในเรื่องเป้าหมายนั้น นายทวารมือ 1 ของทีมเมืองทองฯ ได้กล่าวว่า “เกมกับ การท่าเรือฯ เราคงต้องเล่นอย่างไม่ประมาท เพราะพวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่งในบ้าน อีกทั้งยังมีเกมรุกที่อันตราย แต่ด้วยความพร้อมของเรา บวกกับความมั่นใจของเพื่อนร่วมทีมทุกคน ตนเชื่อว่าเกมในวันเสาร์นี้ ทีมเมืองทองนน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ แม้จะต้องเหนื่อยหน่อยก็ตาม”

“ปลาทู” เจ็บเพียบเตรียมปรับทัพวุ่น

คู่สุดท้ายเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง เอสซีจี สมุทรสงคราม กับ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งคู่นี้จะแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. 54 โดยทาง “ปลาทูคะนอง” นั้นส่ง วรวรรณ ชิตะวนิช หัวเรือใหญ่ และ พงพิพัฒน์ คำนวณ มาร่วมงาน ซึ่งทาง “โค้ชป้ำ” ได้เปิดเผยถึงความพร้อมว่า “ทีมสมุทรสงครามกำลังเจอกับปัญหาหนัก นั่นคือนักเตะตัวหลักเกือบครึ่งทีมได้รับอาการบาดเจ็บ ทั้ง ทศพร ศรีเรือง นายทวารมือ 1, พงพิพัฒน์ คำนวณ แบ็คซ้ายตัวเก่ง และ ยานนิค จ็อจ ปราการหลังตัวกลาง อีกทั้งในเกมนี้จะไม่มี ชัยวุฒิ วัฒนะ ห้องเครื่องตัวหลัก และ ดิยุฟ บิรัม กองหน้าคนสำคัญ เนื่องจากติดโทษแบน ทำให้เราคงต้องปรับทัพกันวุ่นวายพอดู”

แต่ยังมั่นใจเปิดบ้านเก็บชัย

อย่างไรก็ตาม “โค้ชป้ำ” ได้แสดงความมั่นใจถึงเกมนัดนี้ว่า “แม้เราจะขาดผู้เล่นคนสำคัญไปหลายราย แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นว่าบรรดาผู้เล่นที่เหลือน่าจะยังสามารถพาทีมไปสู่ชัยชนะได้ ซึ่งหากนักเตะทุกคนเล่นได้ตามแผนที่ตนวางไว้ การเก็บ 3 คะแนนในเกมนี้ก็ไม่น่าจะยากเย็นนัก”

“กว่างโซ้ง” ขาด 2 แข้งบราซิล

ส่วนทีม เชียงราย ยูไนเต็ด งานนี้ส่ง สเตฟานโน่ คูกูร่า กุนซือใหญ่ พร้อมด้วย ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น มาร่วมงาน โดยทาง “เตโก้” ได้กล่าวถึงความพร้อมว่า “เกมในสุดสัปดาห์นี้เราจะไม่สามารถส่ง 2 นักเตะชาวบราซิลอย่าง เอ็ดวัลโด้ แปไรร่า กองหน้า และ กิลสัน ดิอาซ กองหลัง ลงสนามได้เนื่องจากติดโทษแบน แต่นอกนั้นนักเตะทุกคนสามารถลงสนามได้ทั้งหมด ซึ่งตนคงจะส่ง 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามทำศึกกับ สมุทรสงคราม แน่นอน”

“เตโก้” ฟุ้งบุกขโมย 3 แต้มแน่นอน

นอกจากนั้น “เตโก้” ยังกล่าวถึงเป้าหมายในเกมนัดนี้ว่า “เราออกสตาร์ทเลกที่ 2 ได้ดี เพราะสามารถเอาชนะ ราชนาวี ได้ ทำให้นักเตะในทีมเริ่มมีความมั่นใจกลับมา ดังนั้นเกมนี้แม้เราจะออกไปเยือน สมุทรสงคราม แต่ตนเชื่อว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่า และจะเป็นฝ่ายบุกไปเก็บ 3 แต้มมาครองได้”