บิ๊กกาเซ็ม เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ยอมรับมาเลเซียน่ากลัว หลังได้ดูเทปเสือเหลือง  ขณะที่ น้าเหม่ง ประพล พงษ์พานิชย์ เฮดโค้ช เผยมี 11 ตัวจริงในดวงใจแล้ว พร้อมได้ข่าวดี เจ้าดวง นฤพล อารมณ์สวะ กองกลางตัวเก่ง หายเจ็บโคนขาหนีบ กลับมาฝึกซ้อมได้ตามปกติ

ความเคลื่อนไหวของ ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26ที่ประเทศอินโดนีเซีย  ระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย. ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ทัพนักเตะทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ได้ทำการฝึกซ้อมอย่างหนัก ที่จังหวัดภูเก็ต โดยยังเน้นในส่วนของการขึ้นเกมบุก, การป้องกันลูกเซ็ตพีซ และ จังหวะจบสกอร์เป็นหลัก

หลังการฝึกซ้อม “บิ๊กกาเซ็ม” เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ได้เปิดเผยถึงสภาพความพร้อมของทีมตอนนี้ว่า “เวลานี้นักเตะทุกคนเริ่มมีความพร้อมมากขึ้น ส่วนข้อบกพร่องต่างๆก็ทยอยแก้ไขเกือบหมดแล้ว ซึ่งในวันที่ 3 พ.ย. เราจะอุ่นเครื่องกับ เอฟซี ภูเก็ต และนั่นจะเป็นการทดสอบครั้งสุดท้าย ก่อนลุยศึกซีเกมส์ครั้งนี้”

นอกจากนั้น “บิ๊กกาเซ็ม” ยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้เรากำลังศึกษาฟอร์มและรูปแบบการเล่นของทีมคู่แข่งอยู่ โดยเฉพาะ มาเลเซีย คู่ต่อกรนัดแรกของเรา ซึ่งจากที่ดูเทปพบว่า มาเลเซีย เป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก อีกทั้งรูปร่างของผู้เล่นก็สูงใหญ่ทุกคน ดังนั้นเมื่อถึงวันแข่งขันเราต้องระวังลูกกลางอากาศและลูกเซ็ตพีซของเขาให้ดี”

ส่วนทางด้าน “น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิชย์ เฮดโค้ชของทีม ได้เปิดเผยว่า “ตอนนี้เรามี 11 ผู้เล่นตัวจริงในใจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในตอนนี้ เพราะจะทำให้นักเตะที่เหลือเสียกำลังใจได้ แต่ตนขอยืนยันว่าผู้เล่นทุกคนที่คัดมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุด และจะไม่ทำให้แฟนบอลชาวไทยต้องผิดหวังแน่นอน”

ขณะที่ความเคลื่อนไหวอื่นๆของทีมชุดซีเกมส์ ล่าสุดได้รับข่าวดีเมื่อ  “เจ้าดวง” นฤพล อารมณ์สวะ กองกลางตัวเก่ง หายจากอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบ และกลับมาลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว แต่คาดว่าในเกมอุ่นเครื่องกับ เอฟซี ภูเก็ต วันที่ 3 พ.ย. นี้ “เจ้าดวง” น่าจะยังไม่ได้ลงสนาม

สำหรับโปรแกรมอุ่นเครื่องของ ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ จะลงเตะนัดสุดท้ายวันที่ 3 พ.ย. พบกับ “กิเลนทะเลใต้” เอฟซี ภูเก็ต ทีมในระดับ ดิวิชั่น 1 ที่สนามสุระกุล จ.ภูเก็ต เวลา17.00 น. โดยค่าบัตรผ่านประตู 100 บาท ซึ่งจะนำไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

ส่วนโปรแกรมการแข่งขันของ ทีมชาติไทย ในซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมชาติไทย อยู่สาย เอ ร่วมกับ “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย, “แชมป์เก่า” มาเลเซีย, สิงคโปร์  และกัมพูชา  โดยจะประเดิมนัดแรกวันที่ 9 พ.ย. พบ มาเลเซีย, นัด 2 วันที่ 11 พ.ย. พบ กัมพูชา, นัด 3  วันที่ 13 พ.ย. พบ อินโดนีเซีย  และนัดสุดท้าย วันที่ 17 พ.ย. พบ สิงคโปร์ ซึ่งทุกเกมของไทยแข่งขันที่สนามเสนายันทั้งหมด