ชลบุรีงานเข้า! สตง. เตรียมรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อเรียกเงินคืน หลังพบการใช้เงินอุดหนุนกีฬาสูงลิ่วถึงปีละ 10 ล้านบาท ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทยชัดเจน ก่อนหน้านี้ ฉะเชิงเทรา และ ระยอง โดนเชือดไก่ให้ลิงดูมาแล้ว เผยจ่อเล่นงานอีกหลายจังหวัดที่ระบุว่าเบิกจ่ายเงินให้สมาคมกีฬาจังหวัด แต่กลับไปเบิกจ่ายในนามบริษัทหน้าตาเฉย  
  
 

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา 2 พล.อ.เกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา (กมธ.กีฬา ส.ว.) เป็นประธานการประชุม กมธ.กีฬา โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนการ แข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมีตัวแทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยที่ประชุมสนใจในเรื่องการบริหารจัดการเงินสนับสนุนของทีมสโมสรระดับท้องถิ่น ว่าเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ใดๆ ของสตง.หรือไม่

โดยนายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง รองประธาน กมธ. กล่าวว่า ต้นเหตุของปัญหาเกิดขึ้นหลังจากตนได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้งบของอปท.อุดหนุนสโมสรฟุตบอลว่า ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนสามารถทำได้ เนื่องจากสตง.ระบุว่า ผิดระเบียบ หากไม่มีการแก้ปัญหาจุดนี้ สโมสรที่ไม่มีผู้สนับสนุนจะแย่ เพราะทุกทีมต้องใช้เงิน น่าเสียดายโอกาส เพราะฟุตบอลลีกกำลังได้รับความนิยม

ขณะที่นางกฤติยากรณ์ เพ็ชรช่วย นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 ชี้แจงว่า ขณะนี้เงินอุดหนุนของท้องถิ่นอยู่ในเกณฑ์ที่สูง และอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นมีอยู่ 1 ข้อ สามารถเบิกจ่ายเงินได้ในส่วนของ “ส่งเสริมการกีฬา” ซึ่งปัจจุบันบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ขณะเดียวกัน การบริหารจัดการเข้าข่ายเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัว ซึ่งหากนำเงินไปอุดหนุนด้านกีฬา อย่างฟุตบอลลีกต่างๆ ไม่สามารถทำได้ เพราะขัดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย

“ในท้องถิ่นส่วนใหญ่มักจะแจ้งต่อสตง.ว่า เป็นการเบิกจ่ายให้กับสมาคมกีฬาจังหวัด แต่เอกสารกลับไปเบิกจ่ายในนามของบริษัท ซึ่งตามระเบียบของสตง. ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ขณะเดียวกัน หากหน่วยงานใดตั้งงบไปแล้ว อยากให้มีการพิจารณาเบิกจ่ายกันใหม่อีกครั้ง” นางกฤติยากรณ์ กล่าว

ส่วนนางดุษฏี จรดล นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาได้มีการเรียกเก็บเงินคืนแผ่นดินแล้ว 2 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา กับ ระยอง ซึ่งจากนี้ไป สตง.กำลังรวบรวมเอกสารเรียกเงินคืนกับ จ.ชลบุรี หลังมีการใช้เงินอุดหนุนในด้านกีฬาสูงปีละ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยตรวจสอบในปี 2553 ทั้งนี้ สตง.มองว่าเป็นการใช้เงินมหาศาล ซึ่งหากนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ น่าจะเป็นไปในทางที่ดีกว่า

ภายหลังการประชุม พล.อ.เกษมศักดิ์ เผยว่า จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม และปรึกษากับคณะกรรมการกระจายอำนาจอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้นำเงินท้องถิ่นไปใช้ได้ถูกต้องได้อย่างไร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาฟุตบอลในระดับท้องถิ่นต่อไป

จากกรณีปัญหาที่สตง.จ่อเรียกคืนงบอุดหนุนกีฬาจากสมาคมกีฬาจังหวัดดังกล่าว คาดว่าส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทีมสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะในศึกเอไอเอสลีก ภูมิภาค “ดิวิชั่น 2” ที่มีหลายทีม หรือกว่าครึ่งใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาทำทีมในแต่ละปี ซึ่งหากงบประมาณส่วนนี้ถูกตัดไป ก็จะมีหลายสโมสรถึงขั้นต้องยุบหรือถอนทีมออกจากการแข่งขันฤดูกาลหน้ากันระนาว