เผยสมาคมฟุตบอลฯส่ง ชื่อ “บุรีรัมย์ พีอีเอ” แชมป์ลูกหนังสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก เป็นตัวแทนประเทศไทยลุยแข้งในศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2012 รอบแบ่งกลุ่ม ไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังรอดูรายละเอียดว่า หากจะเปลี่ยนชื่อเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ในภายหลังแล้วจะเป็นอย่างไร 
 
  
ขณะเดียวกันก็ยังไม่รู้ถึงวิธีการแยกตัวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ “พีอีเอ” ไปรวมกับทีมน้อง บุรีรัมย์ เอฟซี ว่าจะเป็นรูปไหน เพราะทางบุรีรัมย์ยังไม่ได้แจ้งเรื่องมาให้ทราบอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ทุกอย่างจึงยังเป็น “สุญญากาศ” สรุปชี้ขาดอะไรไม่ได้ แต่ในวันที่ 9 ม.ค.นี้

ทีมปราสาทสายฟ้าจะต้องส่งตัวแทนไปประชุมเวิร์กช็อปกับทางเอเอฟซี พร้อมส่งเอกสารความพร้อมเรื่องของสนามแข่ง โรงแรมที่พัก และการคมนาคม ว่าได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่สมาพันธ์ลูกหนังเอเชียกำหนดไว้หรือไม่ ขณะเดียวกันหลายฝ่ายกังวลหากส่งไปแข่งในนาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจมีปัญหาตามมาภายหลัง หากมีผู้ขุดคุ้ยที่มาที่ไปแล้วฟ้องไปถึงเอเอฟซี-ฟีฟ่า ซึ่งสมาคมลูกหนังไทย อาจโดนหางเลขไปด้วย

จากกรณีการควบรวมทีมของบุรีรัมย์ เข้าเป็นหนึ่งเดียว โดยทีม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ พีอีเอ แชมป์ฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ประกาศคืนทีมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ “พีพีเอ” แล้วไปรวมทีมกับ “นักลบลาวาเพลิง” บุรีรัมย์ เอฟซี แชมป์ ดิวิชั่น 1 พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ทำให้เกิดคำถามว่าจะมีปัญหาหรือไม่กับโควตาของการ ไปลุยศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2012 หากไปเล่นในชื่อใหม่

เรื่องนี้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนสรุปอะไรที่ชัดเจนไม่ได้มากนัก เพราะที่ผ่านมา บุรีรัมย์เองยังไม่เคยแจ้งเรื่องของการแยกทางกับการไฟฟ้าฯ หรือการเปลี่ยนชื่อเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาให้ทีพีแอล ได้รับทราบอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ทุกอย่างมีแต่เพียงการออกข่าวเท่านั้น เหมือนกับเป็นการโยนก้อนหินถามทางเสียมากกว่า แต่สุดท้ายแล้วเราต้องพิจารณารายละเอียดว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรกับเรื่อง ทั้งหมด และเมื่อแยกทางกับพีพีเอแล้วจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องของการส่งทีมเล่นในแชมเปียนส์ลีกที่ต้องดูว่าทางไฟฟ้าจะ ว่าอย่างไรด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรทุกอย่างเป็น สุญญากาศชี้ชัดอะไรลงไปไม่ได้ทั้งนั้น

ขณะที่ “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า เรื่องของการส่งทีมไปเล่นแชมเปียนส์ลีก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี เขาให้เป็นสิทธิขาดของสมาคมฟุตบอลฯแต่ละประเทศ ไม่มีการเข้ามาก้าวก่าย ซึ่งของไทยเราก็ได้ส่งชื่อบุรีรัมย์ พีอีเอ ในฐานะแชมป์ไทยลีกไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่ว่าบุรีรัมย์จะมาเปลี่ยนชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดภายหลังก็ต้องมาพิจารณากันว่าจะขัดต่อกฎ– เกณฑ์ของเอเอฟซี หรือไม่อย่างไร แต่ตอนนี้สิทธิ์ไปลุยถ้วยเอเชียเป็นของบุรีรัมย์ชัดเจน โดยในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ทีมปราสาทสายฟ้าจะส่งตัวแทนไปร่วมประชุมเวิร์กช็อปกับ เอเอฟซี ที่มาเลเซีย ซึ่งจะมีการแจ้งกฎระเบียบต่างๆ ให้ทราบอย่างละเอียด ขณะเดียวกันทางบุรีรัมย์ก็จะนำข้อ มูลความพร้อมของสนามแข่งขัน โรงแรมที่พัก รวมถึงการคมนาคมต่างๆ ไปรายงานต่อเอเอฟซีด้วย

เกี่ยวกับปัญหาคาใจของบุรีรัมย์ มีผู้สันทัดกรณีมองว่า หากไปเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างที่วางแผนไว้ บางทีอาจจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาภายหลังหากมีคนไปขุดคุ้ยถึงที่มาที่ไปของทีม บุรีรัมย์ และนำเรื่องไปร้องเรียนต่อ เอเอฟซี และฟีฟ่า ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาบานปลาย ส่งผลกระทบมาถึง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย รวมถึงวงการบอลไทยในวงกว้าง.