แชมป์นี้ที่รอ คอย...แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก๋า "สิงห์บลูส์" สุดปลื้มได้ชูถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก สมใจนึกซะที หลังไล่ล่ามานานหลายปีแล้ว ชมเปาะ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ฮีโร่ตัวจริง รับน่าจะแพ้ไปแล้วในเกมด้วยซ้ำ เหตุ "เสือใต้" มีโอกาสพังตาข่ายมากมายเหลือเกิน แต่ทีมของตนพกโชคมาเพียบเลยได้ชัยในบั้นปลาย

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลาง เชลซี ยอมรับว่า การประเดิมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คือทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสรจริงๆ หลังสวมปลอกแขนนำทัพ แทนที่ จอห์น เทอร์รี่ ที่ติดโทษแบน ลงสนามเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค
ไปด้วยการดวลจุด โทษ 4-3 เนื่องจากต่อเวลาพิเศษครบ 120 นาทีไปแล้ว ยังคงเสมอกันอยู่ 1-1 ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า

มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ วัย 33 ปี กล่าวว่า "มันหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง เราพยายามทำสิ่งนี้กันมาตั้งนานหลายปีแล้ว นี่คือถ้วยใบที่เราต้องการจริงๆ และเราก็ได้มันมาครอบครองจนได้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ความมุ่งมั่นที่เราได้แสดงออกมานั้น ช่างเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริงๆ"

 "เราไม่ได้เล่นดีเด่นอะไรนักเลย แต่ขุนพลตัวหลักอย่าง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็นำพาเราออกมาจากความยุ่งยากจนได้ เขาเป็นฮีโร่ และถ้าไม่มีเขา เราอาจจะไม่ได้มาอยู่ที่นี่แล้วก็ได้ เขายิงประตูได้มากมายในเกมสำคัญๆ ผมอยากจะให้เขาอยู่กับเราต่อไป สิ่งที่เขาทำได้ในคืนนี้ก็คือสิ่งที่เขาทำมาตลอดอาชีพของเขาอยู่แล้วนั่น แหละ"

 ส่วนกรณีอนาคตของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ผู้จัดการทีมชั่วคราว ที่ยังคงไม่แจ่มชัด แม้จะพาทีม "สิงห์บลูส์" ครอง "ดับเบิ้ลแชมป์" หลังได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ไปก่อนแล้วนั้น "แลมพ์ส" เผยว่า "มันไม่ใช่คำถามในตอนนี้ เขาปลุกปั้นพวกเราจากทีมที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนัก จนกระทั่งอาจจะตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่รอมร่อ ให้กลายมาเป็นแชมป์ในตอนนี้ได้ ดังนั้น มันก็คงต้องรอดูกันต่อไป"

"ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ เราน่าจะแพ้ไปแล้วในนัดนี้ด้วยโอกาสมากมายที่พวกเขามีอยู่ เรามากับดวงจริงๆ แต่คุณก็จำเป็นต้องมีโชคในการแข่งขันรายการนี้ด้วยเหมือนกัน ถ้าคุณหวังจะเป็นผู้ชนะ วันนี้เรามากับโชคก็จริง แต่เราก็สมควรแก่การเป็นผู้ชนะเช่นกัน" รองกัปตันทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" ทิ้งท้าย