"ฉลามชล" ชลบุรี ฟอร์มสุดโหดแบบเด็ดสะระตี่เปิดบ้านยำใหญ่ย้ำแค้น "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบกลับบ้านไม่ถูก 4-2 คาซูโตะ คูชิดะ เล่นบทพระเอกโซโลไป 2 ประตูให้ทีมยังอยู่ในสถานการณ์พอลุ้นแชมป์ได้อยู่

ชลบุรี 4 : 2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ประตู : 1-0 คาซูโตะ คูชิดะ น.11, 2-0 คาซูโตะ คูชิดะ น.29, 3-0 ติเอโก้ คุนญา น.56, 3-1 อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน น.70, 3-2 อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน น.80, 4-2 แจ็คกี้ ไดกิเต้ น.82

     ซูเปอร์บิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์นี้เป็นศึกของพระรอง "ฉลามชล" ชลบุรี ทีมอันดับ 2 เปิดบ้านพบ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เก่าที่หลุดไปอยู่อันดับ 3 เกมนี้ที่มีแต้มตามหลังจ่าฝูง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ 10 คะแนนจำเป็นต้องชนะเท่านั้นถึงจะยังมีลุ้นแชมป์ ส่วนทีมเยือนหากไม่ได้ 3 แต้มจะหมดลุ้นแชมป์หรืออันดับ 2 ทันที

     นัดนี้ชลบุรีไม่มี สุทธินันท์ พุกหอม ที่ติดโทษแบน โดย "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล สับผู้เล่นบางตำแหน่งเอา เจษฏากร เหมแดง มายืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ แจ็คกี้ ไดกิเต้ แล้วโยก ชลทิตย์ จันทคาม ออกไปเป็นแบ็กขวา ดัน นพนนท์ คชพลายุกต์ ขึ้นไปริมเส้น ส่วนตรงกลางมี อดุล หละโสะ กับ คาซูโตะ คูชิดะ คุมเกม ขณะที่ พิภพ อ่อนโม้ กับ ติเอโก้ คุนญา ยืนหน้า

     ด้าน "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม เฮดโค้ชทีมเยือนจัดทัพใหญ่เต็มอัตรา กองหลังมี อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน บัญชาการ แดนกลางส่ง จักรพันธ์ แก้วพรม ทำเกมกับ จิรวัฒน์ มัครมย์ แนวรุกมี สุเชาว์ นุชนุ่ม และ แฟรงค์ อาเชอัมปง ลุยด้านข้าง โดยมี แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงค์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สหรัฐอเมริกาที่กำลังฟอร์มฮอตจนถูกเรียกไปติดทีมชาติเป็น ทีเด็ด

     เกมนัดแรกที่เจอกัน "ฉลามชล" บุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ "ปราสาทสายฟ้า" แพ้ในเกมลีกคาไอโมบาย สเตเดี้ยมเป็นนัดแรกในประวัติศาสตร์ 4-3 ส่วนผู้ตัดสินในเกมนี้เป็นทีมงานจากอุซเบกิสถาน

ครึ่งแรก

     ผู้ตัดสินเป่านกหวีดปรี๊ดเริ่มเกมเล่นมาเป็น "ฉลามชล" ที่ได้เสียงเชียร์แฟนบอลรอบสนามเดินเกมลุยเข้าใส่ทันที และเพียงแค่ 11 นาทีก็ได้ประตูออกนำเมื่อ ดิอาโก คุนญา ผ่านบอลให้ คาซูโตะ คูชิดะ หลุดเข้าไปยิงจ่อๆซัดบอลสวนทาง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายประตูทีมเยือนเข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูให้ชลบุรีออกนำ 1-0 แบบกองเชียร์เจ้าถิ่นเฮกันสนามแทบแตก

     เอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่ "ปราสาทสายฟ้า" พยายามตั้งเกมบุกแต่รูปเกมยังไม่ดีขึ้น นาที 21 ชลบุรีพลาดเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษ แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงค์ ฉกบอลได้แล้วดึดต่อให้ แฟรงค์ อาเชอัมปง หลุดเข้าไปซัดในเขตโทษแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดายทีมเยือนเลย พลาดได้ประตูตีเสมอ

     เกมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเริ่่มดีขึ้นครองบอลบุกเข้ากดดันเจ้าบ้านได้อย่างต่อเนื่องแบบแทบ พักสนามบุก แต่เล่นมานาที 29 คาซูโตะ คูชิดะ ได้จังหวะตั้งป้อมปั่นโค้งจากระยะ 22 หลาส่งบอลพุ่งเข้าเสียบตาข่ายแบบสุดสวยทำประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้พร้อมบวกสกอร์ให้ "ฉลามชล" ขยับหนีห่างเป็น 2-0

     พอโดนนำห่าง "แชมป์เก่า" เกิดอาการอยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เอกชัย สำเร ลงไปแทน แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงค์ ที่นัดนี้เล่นไม่ออกในนาที 38 แต่ช่วงเวลาที่เหลือเกมรับของชลบุรียังทำหน้าที่ได้ดี จบ 45 นาทีแรก "ฉลามชล" นำอยู่ 2-0

ครึ่งหลัง

     พักให้น้ำแก้เกมลงมาสู้กันใหม่ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นเพิ่มเติม นาที 56 แจ็คกี้ ไดกิเต้ วางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ ติเอโก้ คุนญา พักบอลด้วยอกแล้ววอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายส่งบอลพุ่งชนเสาไกลกระเด้งเข้าตุง ตาข่ายเป็นประตูให้ "ฉลามชล" หนีห่างสุดกู่ 3-0

     แม้สกอร์จะนำห่างแต่ "ฉลามชล" ที่ได้เสียปลุกเร้าจากแฟนบอลรอบสนามยังไม่ผ่อนเกม นาที 63 อนุชา กิจพงษ์ศรี พาบอลเข้าไปหลอกล่อแล้วซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ไม่ยอมพลาดอีกพุ่งปัดบอลกลิ้งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว ถัดไปนาที 70 "ปราสาทสายฟ้า" เริ่มมีฮึด จิรวัฒน์ มัครมย์ เปิดฟรีคิกไปให้ อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน โหม่งที่เสาสองตีไข่แตกให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไล่มา 1-3

     หลังเสียประตู "ฉลามชล" เปลี่ยนผู้เล่น 2 คนรวดใน 2 นาทีเอา สุกรี อีแต ลงไปแทน นพนนท์ คชพลายุกต์ ในนาที 71 แล้วส่ง นูรูล ศรียาเก็ม ลงไปแทน อนุชา กิจพงษ์ศรี นาที 72 จากนั้นนาที 76 ทีมเยือนเปลี่ยนผู้เล่นคนที่ 2 เอา สุริยา ดอมไธสง ลงไปแทน เอกชัย สำเร ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงไปในครึ่งแรก ก่อนที่นาที 79 ชลบุรีจะเปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง เจฟฟรี ดูแมงค์ ลงไปแทน พิภพ อ่อนโม้

     เกมเล่นมาถึงนาที 80 แฟนบอลเจ้าบ้านต้องเสียวกันอีกเมื่อ ธีราทร บุญมาทัน เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาไปให้ อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน โหม่งทำประตูให้ "ปราสาทสายฟ้า" จี้เข้ามาเป็น 2-3 จุดประกายความหวังให้บุกมาแบ่งแต้มกลับบ้าน

     เอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่นาที 82 ธีราทร บุญมาทัน ไปตัดเกมฟลาว์ นูรูล ศรียาเก็ม ตรงหน้าเขตโทษโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม และจากฟรีคิกระยะ 25 หลาลูกนี้ แจ็คกี้ ไดกิเต้ รับหน้าที่ซัดด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบหน้าต่างสุดปัญญาที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายประตูทีมเยือนจะป้องกันได้ สกอร์ขยับเป็น "ฉลามชล" หนีห่างอีกครั้ง 4-2

     เกมยังไม่หมดความมันเพียงแค่นั้นนาที 87 สุรัตน์ สุขะ ไปฟลาว์ ติเอโก้ คุนญา ในจังหวะหลุดเดี่ยวเลนโดนผู้ตัดสินอุซเบกิสถานให้ใบแดงไล่ออกจากสนามทันที แต่ฟรีคิกลูกนี้ แจ็คกี้ ไดกิเต้ ยิงไปติดกำแพงแฉลบออกหลังประตูไป

     ช่วงเวลาที่เหลือ "ฉลามชล" ยังได้ใจกระหน่ำใส่ นาที 89 ติเอโก้ คุนญา หลุดไปซัดเหน่งๆแต่บอลถากออกทางเสาไกล หลังจากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่มครบ 90 นาที ชลบุรีย้ำแค้นเอาชนะไป 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนนเหลือไล่ตามหลัง "จ่าฝูง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 7 แต้ม ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไปค่อนข้างแน่นอนแล้วนอกจากหวังปาฏิหาริย์เท่านั้น



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ชลบุรี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK), แจ็คกี้ ไดกิเต้, ชลทิตย์ จันทคาม, อนุชา กิจพงษ์ศรี (นูรูล ศรียาเก็ม น.72), ณัฐพงษ์ สมณะ, คาซูโตะ คูชิดะ, อดุล หละโสะ, เจษฏากร เหมแดง, นพนนท์ คชพลายุกต์ (สุกรี อีแต น.70), ติเอโก คุนญา, พิภพ อ่อนโม้ (เจฟฟรี ดูแมงค์ น.79)


บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวิรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), อีฟ เอควาลา เฮอร์แมน, ประทุม ชูทอง, ธีราทร บุญมาทัน, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, จักรพันธ์ แก้วพรม (ซารีฟ สายนุ้ย น.82), แอนโทนี อำไพพิทักษ์วงศ์ (เอกชัย สำเร น.38 (สุริยา ดอมไธสง น.76), จิรวัฒน์ มัครมย์, สุรัตน์ สุขะ, สุเชาว์ นุชนุ่ม, แฟรงค์ อาเชอัมปง