ประสาร พันธ์สำลี นักเตะ ระยอง ยูไนเต็ด โดนลงดาบสถานหนัก ฝ่ายจัดการแข่งขัน มีมติลงโทษ ห้ามเจ้าตัวยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดชีวิต พร้อมปรับอีก 6 หมื่นบาท ทางฝั่ง วิมล กาญจนะ กร้าว ไม่รับหนังสืออุทธรณ์เด็ดขาด กรณี ''ประสาร'' ด้าน บอร์ดระยอง ยูไนเต็ด หลังจากที่ทราบผลการลงโทษ โอด โทษรุนแรงเกินไป เตรียมยื่นอุทธรณ์ทุกกรณี ขณะที่ คู่ของ พิจิตร, พิษณุโลกที่วุ่นไม่แพ้กัน นักเตะทั้งสองทีมโดนปรับคนละ 20,000 แบนอีกคนละ 6 นัด

         จากกรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเกมการแข่งขันฟุตบอลในศึก เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล คู่ระหว่าง ระยอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ อาร์แบค บีอีซี เทโรศาสน  ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งในเกมการแข่งขันนัดดังกล่าวได้มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในช่วง นาทีที่ 78
 
         จากจังหวะที่ อดิเรก มณีเขียว ผู้รักษาประตูปะทะกับ ขวัญทนง พันธ์ยก แล้วเจ้าตัวระงับอารมณ์ไม่อยู่ไปสาวหมัดใส่ทางด้าน  ขวัญทนง พันธ์ยก ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ทีมระยอง  เหลือผู้เล่น 9 คน
 
         และจากจังหวะนี้เองที่ ประสาร พันธ์สำลี นักเตะตัวสำรอง ของ ระยอง ยูไนเต็ด ซึ่งคาดว่าไม่พอใจการทำหน้าที่ของ สุเปรม นนทะวงศ์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ โดยปรี่เข้าไปจะเอาเรื่อง ซึ่งทางผู้ควบคุมการแข่งขันในเกมดังกล่าวได้เขียนรายงาน ฝ่ายพิจารณาโทษได้พิจารณา
 
         ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย วิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันดิวิชั่น 2 และ อ.ปัญญา หาญลำยวง ประธานอนุกรรมการพิจารณามารยาทดิวิชั่น 2 ร่วมกันประชุมหารือจากใบรายงานผู้ตัดสินและภาพการแข่งขันกรณีนี้
  
         ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายพิจารณาโทษ มีมติลงโทษ ระยอง ยูไนเต็ด โดยการ แบน ประสาร พันธ์สำลี โดยแบ่งเป็นความผิดหลายกระทง แบ่งเป็นเจตนาทำร้ายร่างกายผู้ตัดสิน แบน 2 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท, ดูหมิ่นผู้ตัดสิน แบน 2 นัด ปรับ 5 พันบาท, แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน แบน 1 นัด ปรับ 5 พันบาท 
 
         แต่ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวของประสาร ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทย ทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขัน มีมิติลงโทษประสารห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลตลอดชีวิต พร้อมปรับเงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้น  6 หมื่นบาท
 
         ขณะที่ อดิเรก มณีเขียว ผู้รักษาประตู ระยอง ยูไนเต็ด ที่เจตนาทำร้ายนักเตะอาร์แบค ถูกตัดสินลงโทษแบน 1 นัด หัก 6 คะแนน (จากโทษใบแดง), เจตนาทำร้ายคู่ต่อสู้ แบน 6 นัด ปรับ 2 หมื่นบาท, พยายามทำร้ายผู้ตัดสิน แบน 2 นัด ปรับ 1 หมื่นบาท
  
         โดยทางด้าน วิมล กาญจนะ ในฐานะประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอล เอไอเอสลีก ดิวิชั่น 2 ได้ เปิดเผยว่าสโมสรที่ถูกลงโทษมีสิทธิ์อุทธรณ์ ทว่าตราบใดที่ผมเองยังเป็นประธานจัดการแข่งขันดิวิชั่น 2 จะไม่รับหนังสืออุทธรณ์เด็ดขาด เพราะการกระทำของนักเตะระยอง ยูไนเต็ด เป็นการกระทำที่ร้ายแรง
 
         โดยเฉพาะภาพที่ออกมาสู่สาธารณชนนั้นเป็นภาพที่ทำลายภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอล ไทย แม้จะมีสิทธิ์อุทธรณ์แต่ผมยืนยันว่าบทลงโทษนี้เป็นบทลงโทษที่เด็ดขาดและจะ ไม่นำเรื่องนี้มาพิจารณาใหม่แน่นอน ส่วน สโมสร ระยอง ยูไนเต็ดไม่มีความผิดถึงขนาดต้องถูกโทษแบนห้ามเตะในสนามของตัวเอง เพราะกระทำครั้งนี้เป็นความผิดส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามอยากฝากทุกสโมสรให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อภาพที่ดี ของวงการฟุตบอลไทยต่อไปในอนาคต

   

บอร์ดระยองโอดโทษรุนแรงเกินไป
 
 
         ขณะเดียวกันหลังจากที่ทางบอร์ดบริหารของทีม ระยอง ยูไนเต็ด ได้ทราบผลการลงโทษในครั้งนี้ของทางฝ่ายจัดการแข่งขัน ผู้สื่อข่าวได้ต่อสายตรงไปยังทางด้าน "เสี่ยจิ๊บ" รัตนะ สุขสวัสดิ์ ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีม ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยว่า
 
         "บทลงโทษที่ทางฝ่ายจัดพิจารณาออกมานั้นเรามองว่ามันค่อนข้างที่จะรุนแรงเกิน ไป ซึ่งในกรณีของ ประสาร พันธ์สำลี นั้นยอมรับว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมจริง  แต่ในส่วนของ อดิเรก มณีเขียว ผู้รักษาประตูนั้นมองว่าโทษที่ออกมามันรุนแรงเกินกว่าเหตุทั้งโทษห้ามลงสนาม และปรับเงิน
 
         ซึ่งอยากให้ทางฝ่ายจัดมาเห็นภาพรวมทั้งเกมในวันนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และอยากให้พิจารณาถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราจะดำเนินการ ยื่นอุทธรณ์ทุกกรณีแน่นอน"

   

แข้ง พิษณุโลก,พิจิตร โดน 20,000 แบน 6 นัด
 
 
         ขณะที่คู่ระหว่างพิจิตรกับพิษณุโลกที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในระหว่างการแข่ง ขันฟุตบอลดิวิชั่น 2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายอนุกรรมการพิจารณามารยาท มีมติลงโทษนักเตะพิจิตรประกอบไปด้วย สถาพร ศรีอ่อน,อำนาจ รักประเสริฐ,ซาโก้ เซย์ดู,วันชัย สุวรรณอินทร์ แบนคนละ 6 นัดปรับคนละ 2 หมื่นบาท นอกจากนั้นยังปรับพิจิตร 5 พันบาทกรณีแฟนบอลขว้างปาสิ่งของลงสนาม
 
         ส่วนนักเตะพิษณุโลกประกอบไปด้วย ไพศาล แสงอรุณ, สราวุฒิ อิ่มอรชร, ศรวุฒิ คำศรี แบนคนละ 6 นัดปรับคนละ 2 หมื่นบาท นอกจากนั้นยังปรับพิษณุโลก 5 พันบาทกรณีแฟนบอลขว้างปาสิ่งของลงสนาม

   

พิษณุโลก เตรียมยื่นอุทธรณ์โทษนักเตะ

 
         จากกรณีดังกล่าวที่ทางผู้เล่น พิษณุโลก เอฟซี โดนแบนพร้อมปรับเงินนั้นทางด้าน  เทเวศน์ กมลศิลป์ เฮดโค้ช พิษณุโลก เอฟซี กล่าวว่า "จากผลการลงโทษที่ออกมาดังกล่าวผมมีความคิดเห็นว่ามันเป็นโทษที่หนักเกินไป ดังนั้นจึงมีมีทางเลือกอื่นเราจะต้องยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน ซึ่งมันเป็นสิทธิ์ที่ทางสโมสรสามารถทำได้ ส่วนผลหลังจากการยื่นอุทธรณ์จะเป็นอย่างไรเราพร้อมจะน้อมรับ"
 
         ในส่วนของผลกระทบต่อทีมในการขาดนักเตะทั้ง 3 คน เทเวศน์ กมลศิลป์ กล่าวว่า "แน่นอนว่าการขาดนักเตะทีเดียวถึง 3 คนย่อมส่งผลกระทบต่อทีมอย่างแน่นอน แต่จากการที่ทีมเรามีนักเตะที่สามารถเล่นทดแทนตำแหน่งกันได้ผลเสียหายที่จะ เกิดขึ้นก็อาจจะไม่มากนัก ซึ่งตัวผมเองก็ได้เตรียมการแก้ไขไว้แล้ว"