"สิงห์บลู" เชลซี แรงฉุดไม่อยู่ ยกพลบุกอัด "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 4-2 เฮศึกลอนดอนดาร์บี้ พร้อมเก็บสามคะแนนครองจ่าฝูงต่อแบบสบายแฮ พร้อมกับยัดเหยียดการปราชัยคาบ้านเกมแรกให้กับ สเปอร์ส อีกด้วยในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 2555

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์  2-4  เชลซี

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

         ศึกลอนดอนดาร์บี้ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน ต้อนรับอริร่วมเมือง "สิงห์บลู" เชลซี โดยเกมนี้ เจ้าบ้านไม่มี แกเร็ธ เบล กับ มุสซ่า เดมเบเล่ ทั้งตัวจริงและสำรอง ซึ่งมีรายงานข่าวว่ามีอาการบาดเจ็บ โดยสามประสานเกมรุกใช้ อารอน เลนน่อน,กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน และ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ ส่วนกองหน้าทิ้ง เจอร์เมน เดโฟ ล่าตาข่าย ขณะที่ เชลซี ส่ง ออสการ์,ฆวน มาต้า และ เอแดน อาซาร์ เป็นตัวทำเกมเช่นเดิม กองหน้ายังไว้ใจ เฟร์นานโด ตอร์เรส ล่าตาข่าย



     เริ่มเกมมา3นาที เจ้าถิ่นสเปอร์ส มีเสียวก่อน เมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ40หลา ทอม ฮัดเดิลสโตน หยอดบอลมาที่หน้าประตูให้ วิลเลียม กัลลาส วิ่งมาวอลเลย์ยิงแบบไร้ตัวประกบ แต่ กัลลาส กับเตะวืดไปเสียเอง บอลจึงหลุดออกหลังไป


     นาทีที่10 เชลซี ได้จบสกอร์บ้าง เมื่อ ออสการ์ เก็บตกบอลได้ตรงบริเวณหัวกะโหลกเขตโทษ ก่อนหาจังหวะยิงเรียดด้วยขวาได้ แต่บอลหลุดออกเสาไปนิดเดียว


     นาที ที่17 เป็นสาวกสิงห์บลูส์ ได้เฮกันลั่นลอนดอนก่อน เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เตะโดย เอแดน อาซาร์ บอลโด่งยาวมาถึงเสาสอง วิลเลียม กัลลาส โหม่งสกัดไม่ดี กลายเป็นโหม่งตั้งให้ แกรี่ เคฮิลล์ วิ่งมาวอลเลย์เต็มเหนี่ยว บอลพุ่งแสกหน้า แบร็ด ฟรีเดล ตุงตาข่ายไปอย่างสวยงาม ให้ เชลซี บุกนำก่อน 1-0


     หลังเสียประตู2ประตู สเปอร์ส เกือบตีเสมอได้ เมื่อ เจอร์เมน เดโฟ พาบอลมากดยิงตรงเส้นกรอบเขตโทษ ปีเตอร์ เช็ก ต้องออกแรงเซฟ และก่อนที่ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ จะเข้าชาร์จ แอชลี่ย์ โคล ก็ได้ตามมาเคลียร์ทิ้งออกหลังได้ทัน


     นาที ที่25 เป็นเชลซี ที่รับใบเหลืองไปก่อน ในจังหวะแกล้งพุ่งล้มของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แม้จะอยู่กลางสนาม แต่ ไมค์ ดีน ก็โหดพอที่จะแจกใบเหลืองข้อหาตบตา


     5นาทีต่อมา สเปอร์ส พลาดประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อ อารอน เลนน่อน พาบอลแหวกขึ้นมาทางฝั่งขวาของสนาม ก่อนเปิดมาที่หน้าประตู แกรี่ เคฮิลล์ โหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลมาตกที่ กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน ดึงจังหวะกดยิงเรียดเสาแรกเหน่งๆ แต่บอลเฉียดเสาออกหลังไปนิดเดียว


     นาที ที่36 สเปอร์ส เป็นฝ่ายเสียใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ ทอม ฮัดเดิลสโตน ไปเล่นนอกเกมใส่นักเตะเชลซี ในจังหวะโต้กลับ ผู้ตัดสินไมค์ ดีน ตาไว จึงควักแจกให้อย่างไม่ลังเล


     นาทีที่39 เชลซี ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ รามิเรส พาบอลมาถึงกรอบเขตโทษ ก่อนไหลให้ ฆวน มาต้า วิ่งมาแปยิงด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด แบร็ด ฟรีเดล พุ่งเซฟได้ในจังหวะแรก ก่อน ฆวน มาต้า วิ่งมายิงซ้ำ แต่คราวนี้แปไม่ดี บอลโด่งออกหลังไปเยอะ


     นาทีต่อมา สเปอร์ส เสียใบเหลืองใบที่สอง จากจังหวะที่ วิลเลียม กัลลาส ไปเสียบหนักใส่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ผู้ตัดสินควักแจกอีกราย


     ช่วง ท้ายครึ่งแรก สเปอร์ส พยายามเปิดเกมบุกเพื่อตีเสมอ แต่ก็ยังเจาะแนวรับ เชลซี ไม่ได้ แถม ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องมาเสียใบเหลืองจากการไปเตะ รามิเรส อีก อย่างไรก็ตาม รามิเรส ก็รับไปบ้าง เมื่อไปเตะ เลนน่อน หมดครึ่งแรก เชลซี จึงบุกมานำ สเปอร์ส อยู่ 1-0


     เริ่ม ครึ่งหลังมาเพียง2นาที เจ้าบ้านก็ได้เฮกันลั่นทุ่งบ้าง เมื่อได้ฟรีคิก ทอม ฮัดเดิลสโตน เปิดยาวมาที่ทางมุมซ้าย ยาน แฟร์ทองเก้น ตวัดเข้ากลางให้ วิลเลียม กัลลาส โหม่งจ่อๆคนเดียว ให้ สเปอร์ส ตามตีเสมอ 1-1


     นาที ที่54 แฟนไก่เดือยทอง ได้กรี๊ดกันลั่นสนามอีกครั้ง เมื่อ อารอน เลนน่อน เลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านมาที่หน้าประตู เข้าทาง เจอร์เมน เดโฟ ตวัดยิงตามน้ำด้วยขวา ส่งบอลตุงตาข่าย ให้สเปอร์ส พลิกแซง 2-1


     อย่าง ไรก็ตามนาทีที่66 เชลซี ก็ตีเสมอได้ เมื่อ ออสการ์ เปิดจากริมสนามฝั่งขวามาที่หน้าประตู วิลเลียม กัลลาส เคลียร์บอลแย่ มาเข้าทางปืนของ ฆวน มาต้า กดยิงด้วยซ้ายบอลเสียบเสาอย่างสวย เชลซี ตามมาเป็น 2-2


     นาทีต่อมา สเปอร์ส เปลี่ยนตัวก่อน โดยเปลี่ยน เจค ลิเวอร์มอร์ ลงมาแทน ทอม ฮัดเดิลสโตน


     แต่ แล้วนาทีที่69 แฟนสเปอร์ส ก็ต้องเงียบกริบ เมื่อ จอห์น โอบี มิเกล จ่ายให้ เอแดน อาซาร์ ตวัดเปิดจังหวะเดียวให้ ฆวน มาต้า วิ่งทะลุแนวรับเจ้าถิ่น ยิงสวน แบร็ด ฟรีเดล ส่งบอลตุงตาข่ายอีกครั้ง ให้ สิงห์บลู พลิกแซงนำ 3-2 อย่างรวดเร็ว


     นาทีที่73 มาต้า เกือบได้ทำแฮตทริก เมื่อได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะพลาดของ วิลเลียม กัลลาส อีกครั้ง ดีที่ยิงเบา บอลจึงเข้ามือ แบร็ด ฟรีเดล ไป


     นาทีต่อมา สเปอร์ส เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงสนามมาแทน คลินท์ เดมพ์ซี่ย์


     นาที ที่82 สเปอร์ส มีลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิก แต่ กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน ยิงข้ามคานแบบไม่ลุ้น ส่วน เชลซี เปลี่ยนตัวบ้าง โดยส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงมาแทน ออสการ์


     3นาทีต่อมา เชลซี เกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ มาต้า แทงทะลุช่องให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดไปปั่นไซด์โป้ง แต่บอลโค้งไม่พอ หลุดออกเสาสองแบบมีลุ้น


     นาทีที่89 เชลซี เปลี่ยนตัวอีก โดยส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงมาแทน เอแดน อาซาร์


     นาที สุดท้าย เชลซี ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ มาต้า ไปฉกบอลจาก ไคล์ วอล์คเกอร์ ก่อนเลี้ยงไปจ่ายให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แปโล่งๆ ให้ เชลซี นำห่าง 4-2


     ช่วงเวลที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลา เชลซี บุกเก็บชัยจาก สเปอร์ส 4-2 เก็บเพิ่มสามคะแนน พร้อมยัดเหยียดการปราชัยคาบ้านเกมแรกให้กับ สเปอร์ส อีก

 

11นักเตะของทั้งสองทีม

สเปอร์ส (4-2-3-1) : แบร็ด ฟรีเดล,ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลียม กัลลาส, สตีเว่น คอลเกอร์, ยาน แฟร์ทองเก้น, ซานโดร,ทอม ฮัดเดิลสโตน,อารอน เลนน่อน,กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์,เจอร์เมน เดโฟ

สำรอง : ฮูโก้ โยริส,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,ไคล์ นอห์ตัน,ยาโก้ ฟาลเก้,เจค ลิเวอร์มอร์,อันดรอส ทาวน์เซนด์,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, แอชลี่ย์ โคล,จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, ออสการ์,ฆวน มาต้า,เอแดน อาซาร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส

สำรอง :รอสส์ เทิร์นบูลล์,ออริออล โรเมอู,แฟร้งค์ แลมพาร์ด,วิคเตอร์ โมเซส,ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์,เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,ไรอัน เบอร์ทรานด์

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน