''เปิ้ล-นาคร'' ย้ำชัดไม่ได้เขียนว่า ''ตูน บอดี้สแลม'' เป็นขี้ยา ยืนยันชื่นชมนักร้องหนุ่มในฐานะนักกีฬาระดับประเทศ พร้อมวอนสื่ออย่าเขี่ยประเด็น ส่วนความคืบหน้าคดีโดนคนงัดร้านโคขุน ตำรวจเริ่มได้เบาะแสคนร้ายแล้ว ประกาศท้าโจรมาเจอกล้องวงจรปิด บอกถ้ามาอีกให้แต่งตัวดีๆ หน่อย เดี๋ยวอายพ่อแม่

    หลังจากที่ถูกตั้งประเด็นว่าเขียนแซว  ''ตูน บอดี้สแลม'' ในหนังสือ The Toilet ของตัวเองว่าตีปิงปองยังไงทำไมผอมเอ้าผอมเอา จนมีคนไปตีความว่าเปิ้ลว่าตูนเหมือนขี้ยา ล่าสุด ''เปิ้ล'' นาคร ศิลาชัย  ซึ่งเพิ่งไปร่วมเปิดตัวหนังเรื่อง  ''สูบคู่กู้โลก''  รอบสื่อมวลชน เมื่อค่ำวันที่  7  พ.ย. 55  ที่ผ่านมา ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าไม่เคยว่านักร้องหนุ่มติดยา ตรงกันข้ามตนกลับชื่นชมตูนในฐานะนักกีฬาที่มีความสามารถระดับประเทศอีกด้วย
    

    ''คือพี่เปิ้ลไม่รู้ว่าใครเป็นคนจั่วคนแรกว่าเปิ้ลไปบอกว่าตูนหุ่นขี้ยา  พี่เปิ้ลไปว่าตอนไหนว่า อ่านหรือยัง ไม่ได้โปรโมตให้ไปอ่านหนังสือ The Toilet นะ แต่ถ้าจะพูดต่อหรือจะมาคุยเนี่ย ไปอ่านก่อนว่าตูนขี้ยาหรือเปล่า ตรงนี้เพราะว่าเราเป็นนักกีฬาเหมือนกัน พี่เปิ้ลชื่นชมตูน เป็นแฟนคลับตูนเหมือนกัน แล้วยิ่งเขามาเป็นนักกีฬาระดับชิงแชมป์ประเทศไทย อันนี้สมมตินะว่าถ้าตูนติดยาจริง แล้วถ้าพี่เปิ้ลรู้ว่าเขาติดยาหรือเสพแล้วเอามาเขียนมาล้อแบบที่เค้าตีความอย่างนี้ พี่เปิ้ลจะกล้าทำอย่างนั้นเหรอ มันไม่ใช่ไง ฉะนั้นที่เราพูดถึงใครมันก็ประเด็นที่เราชื่นชม แต่เราก็จะเล่าในแบบของเราไปอ่านในหนังสือดีกว่า ว่าเราหมายความว่าอย่างนั้นหรือเปล่า'' เปิ้ลกล่าว
    

    เมื่อถามว่ากลัวจะบาดหมางกับ  ''ตูน บอดี้สแลม''  เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า  ''เปิ้ล-นาคร''  ก็กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า  ''ไม่กลัว เพราะว่านักกีฬาเข้าใจกัน แต่ไอ้คนจั่วนี่สิ อยากจะบอกอยากจะถามนะครับว่าชาติที่แล้วน้องเป็นบ่างหรือเปล่า เกิดมาชาตินี้ช่างยุเหลือเกินเขี่ยไปซะทุกเรื่อง แล้วเดี๋ยวนี้ก็ประเด็นเยอะอยู่แล้วก็ไม่อยากให้มันเยอะมากมาย คืออยากจะบอกน้องว่าเขี่ยไปเถอะครับ พี่เปิ้ลไม่ช็อต''
    

    เคลียร์เรื่อง ''ตูน บอดี้สแลม'' ไปเรียบร้อยแล้ว ก็มาที่ความคืบหน้าของคดีถูกโจรงัดร้านโคขุน ย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งหนุ่มเปิ้ลได้เผยว่า  ''เรื่องโจรที่ปล้นร้านตอนนี้ตำรวจเขาก็มีข้อมูลแล้ว คิดว่าอีกไม่นาน แต่พี่ตำรวจเขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งพูดเยอะนะ เดี๋ยวจับยาก คือถ้าตำรวจจับได้จริงๆ แล้ววัตถุประสงค์ของเราไม่ได้คิดแก้แค้นล้างแค้นหรือเอาคืนอะไร คือครั้งแรกที่เราไม่ไปแจ้งเพราะไม่อยากให้มันอึกทึกครึกโครมไม่อยากให้เป็นข่าวเดี๋ยวหาว่าโปรโมตหนัง แต่ดันมาขึ้นครั้งที่สองนี่สิก็เลยต้องซัดมันแล้วละ เป็นข่าวก็ต้องเป็นข่าว อย่างน้อยก็ทำให้คนแถวศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ แถวนั้นระมัดระวังตัวมากขึ้น และติดกล้องวงจรปิดได้ก็ติดซะ จอดรถในที่ไฟสว่าง ระวังตัวมากขึ้นพี่ตำรวจเขาจะได้ไม่เหนื่อยมาก
    

    เท่าที่รู้ว่าโจรก็เป็นกลุ่มๆ  เดียวกันในแถบนั้น ความเสียหายเราก็ร้านละแสนกว่าๆ  ตอนนี้ก็ติดกล้องวงจรปิดทั่วทุกที่เลยไม่ว่าจะเป็นบ้านตัวเอง ร้านอาหาร หรือบริษัทของตัวเอง จนตอนนี้ก็ว่าจะติดบนหัวตัวเองแล้ว (หัวเราะ) ก็อยากจะบอกน้องโจรนะครับว่า ถ้าอยากจะเข้ามาขโมยของบ้านพี่เปิ้ลหรือที่ไหนก็ตามตอนนี้มีกล้องวงจรปิดติดไว้หมดแล้ว วันหลังถ้าจะมาก็กรุณาแต่งตัวให้มันดีๆ  หน่อยเดี๋ยวอายคุณพ่อคุณแม่ตัวเอง เดี๋ยวออกทีวีแล้วแต่งตัวไม่ดี''