เอดิน เชโก้ ซัดคนเดียวสองตุงช่วย "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ที่เหลือผู้เล่น 10คน บุกเอาชนะ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช แบบสุดมัน 4-3 เก็บสามคะแนน ตามหลังจ่าฝูง แมนฯยูฯ 7 คะแนนเท่าเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2555

นอริช ซิตี้ 3   -   4 แมนฯ ซิตี้

สนาม : แคร์โรว์ โร้ด

         "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" เปิดรังรับมือแมนฯ ซิตี้ โดยเกมนี้ไม่มีการปรับทัพมานัก แบ็กขวาส่ง รัสเซลล์ มาร์ติน ลงทำหน้าที่เหมือเดิม เนื่องจาก สตีเว่น วิทเทเกอร์ ยังเดี้ยงไม่หาย ขณะที่ แบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน ยังเป็นตัวจิรงต่อ แดนหน้า แกรนท์ โฮลท์ ดาวยิงกัปตันทีมถูกถอดจากทีม

          ฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" ได้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาเช่นเดียวกับ กาแอล กลิชี่ รวมถึง ซามีร์ นาสรี่ ที่หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แนวรุกวาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ล่าตาข่ายร่วมกับ เอดิน เชโก้ โดยมี ดาบิด ซิลบา ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลัง

          เปิดฉากมาแค่นาทีเศษ ซิตี้ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ซาบาเลต้า วางยาวจากทางขวาให้ อเกวโร่ พาบอลลุยขึ้นหน้า ก่อนโยนข้ามทางซ้าย ดาบิด ซิลบา เคาะคืนกลับมาตรงกลางให้ เชโก้ ตวัดด้วยซ้ายตุงตาข่าย 1-0

          ยังไม่ทันตั้งตัว นาที 4 ซิตี้หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ แว็งซองต์ กองปานี ปั๊มบอลแย่งผู้เล่นเจ้าถิ่นตรงกลาง ก่อนพาบอลเลี้ยงขึ้นมาเอง แล้วแทงให้ กุน หลุดเข้าไปดวลบันน์เดี่ยวๆ แต่มุมแคบ ต้องม้วนกลับมา ก่อนแตะคืนหลัง เอดิน เชโก้ แปง่ายๆ เข้าไป

          อย่างไรก็ดี นาที 15 นอริชไล่เป็น 1-2 จนได้ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ โดนฟาวล์ระยะ 20 หลา แอนโธนี่ พิลคิงตัน ตะบันเรียดแฉลบขา กาแอล กลิชี่ เปลี่ยนทางเสียบตาข่าย

          สู้กันสนุก นาที 23 ฆาเบียร์ การ์ริโด้ ของเจ้าถิ่น ตวัดบอลโด่งคืนหลังไม่ดี แต่บันน์ไม่หลับ ขยับตัวตัวปัดได้ทัน นาที 41 ซิตี้ชิ่งกันสวย ซามีร์ นาสรี่ จ่ายน้ำหนักพอดีให้ ยาย่า ตูเร่ วิ่งมากดด้วยขวาบอลถากเสาหวุดหวิด

          กระนั้น ท้ายครึ่งแรก นาที 43 เกิดจังหวะปัญหา หลัง เซบาสเตียง บาสซง พุ่งเสียบ นาสรี่ อย่างรุนแรง ทั้งคู่กรูเข้าหาเรื่องกัน ก่อนใช้หัวดันกันไปมา แต่ผู้ตัดสินมาแจกใบแดงให้นาสรี่หน้าตาเฉย ทำให้เรือใบเหลือแค่ 10 คน ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

        นาทีที่50 แต่คนน้อยกว่าของ ซิตี้ ในครึ่งหลังกลับมาหนี 3-1 จากบอลยาวของ ยาย่า แล้ว บาสซง เก็บบอลพลาดเด้งเข้าเขตโทษโดน กุน ฉกไปตักข้ามตัวมาร์ค บันน์ เข้าไปนิ่มๆ

         เกมเข้าสู่นาทีที่ 62 อย่างไรก็ตามทีมนกขมิ้นก็ขยับเข้าใกล้ได้อีกเช่นกัน เตะมุมทางขวาของ สน็อดกราสส์ ยาวไปเสาสอง บาสซง โหม่งชงมาหน้าปากประตูให้ รัสเซลล์ มาร์ติน ขวิดซ้ำเสียบใต้คาน 2-3

         อีกห้านาทีต่อมากลายเป็น ซิตี้ หนีออกไปอีกเฮือก จากบอลยาวแดนหลังอีกแล้วให้ เอดิน เชโก้ หลุดกับดักล้ำหน้าไปทางขวาแล้วยิงยัดเสาแรกทันที บันน์ ปัดไม่ออกทะลักเข้าประตูไป 4-2 แฮททริกของ เชโก้

         นาทีที่75 นอริช ไม่ท้อจริงๆ กลายเป็น 3-4 ได้อีก จากลูกนิ่งแล้วมีตัวตวัดยิงจากแถวเส้น 18 หลามาหน้าปากประตู รัสเซลล์ มาร์ติน แปเปลี่ยนทางเสยตาข่าย

        
 ช่วงที่เหลือ นอริช พยายามอาศัยคนเยอะกว่าลุยต่อเนื่องแต่ก็ตีเสมอไม่สำเร็จ จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกมาเบียดชนะสุดมัน 4-3

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 นอริช : มาร์ค บันน์, รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียง บาสซง, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, อเล็กซานเดอร์ เทตเตย์, แบร๊ดลี่ย์ จอห์นสัน, เวส ฮูลาแฮน, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, สตีฟ โมริสัน
 
สำรอง: ดีแคลน รัดด์, จอนนี่ ฮาวสัน, ซิเมียน แจ็คสัน, เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, ลีออน บาร์เน็ตต์, ไรอัน เบนเน็ตต์, แฮร์รี่ เคน

 แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้

 สำรอง: คอสเทล พันติลิมอน, โจลีออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์, สกอตต์ ซินแคลร์, ฆาบี การ์เซีย, โคโล่ ตูเร่, คาร์ลอส เตเวซ

 ผู้ตัดสิน: ไมค์ โจนส์      

        แมน ออฟ เดอะ แมตช์: เอดิน เชโก้ (แมนฯ ซิตี้) เอาเข้าจริงแล้ว ถ้าพรีเมียร์ลีกจะใจป้ำสักหน่อยมันก็ควรเป็นแฮตทริกของ เชโก้ ไปในนัดนี้ ไม่ใช่การทำเข้าประตูตัวเองของนายด่านนอริช การยืนค้ำหัวหอกของ เชโก้ วันนี้ออกมาดีเยี่ยม และใช้โอกาสไม่เปลือง ซึ่งนี่คือสิ่งที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ และสาวกเรือใบสีฟ้า ต้องการเห็นมาตลอด 

         
        โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พอใจกับผลการแข่งขันที่ทีมบุกชนะ นอริช 4-3 คว้าชัยชนะสำคัญทั้งที่ต้องเล่น 10 คนตลอดครึ่งหลัง ทำให้เก็บ 3 แต้มไล่ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7 คะแนนเท่าเดิม


        "เราเล่นดีมาก และเล่นเกมฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมตลอด 20 นาที และน่าจะยิงได้ 3 หรือ 4 ประตูด้วย เชโก้ ยิงสองประตูสำคัญและผมก็มีความสุขมาก หลังเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่เราเล่นดีแต่ขาดเพียงประตู คาร์ลอส (เตเวซ) เล่นดี เซร์คิโอ (อเกวโร่) เล่นดี และแน่นอนว่าเมื่อกองหน้ายิงประตูได้ มันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเรา"


        "ในเกมที่ ซันเดอร์แลนด์ (นัดก่อน) เราเล่นได้ดี เราสมควรเป็นฝ่ายชนะ เราขาดเพียงประตู เรามีโอกาสจบสกอร์ 23-24 ครั้ง เรายิงไม่ได้เลย ในที่สุดเราก็แพ้ แต่นั่นเป็นอดีตไปแล้ว เราชนะเกมนี้ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก"


        "การเล่น 10 คนเป็นงานยาก เพราะ นอริช เป็นทีมที่ดี การเล่น 11 ต่อ 10 ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่วันนี้เราแสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมเราถึงเป็นแชมป์ เพราะเราไม่ได้คว้าแชมป์มาอย่างง่ายดาย เราจะสู้ทุกนัด การเล่น 10 คนในเกมนี้เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมมาก"


        "สำหรับเรา ตอนนี้มันไม่สำคัญที่จะมองไปที่ตารางคะแนน เพราะเราขอแค่ทำงานหนักต่อไป คว้าชัยชนะให้ได้มากๆ แล้วบางทีเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ เราค่อยมองไปดูตารางคะแนนในตอนนั้น"        

        ขณะเดียวกัน มันชินี่ กล่าวตำหนิการทำหน้าที่ของ ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินที่แจกใบแดงไล่ ซามีร์ นาสรี่ ออกจากสนามในช่วงท้ายครึ่งแรก หลังจากได้รับการบอกกล่าวจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ไลน์สแมน)

        "มันเป็นจุดเปลี่ยนของเกม (ใบแดง) ไม่งั้นเราก็น่าชนะเกมนี้แบบไม่มีปัญหาไปแล้ว"

        "มันไม่ใช่ใบแดง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไลน์สแมนถึงพูดกับผู้ตัดสินว่ามันเป็นใบแดง ผมไม่รู้ว่าเขามองเห็นอะไร เราจะไปดูภาพช้าจังหวะที่ทั้งคู่เอาศีรษะชนกันอีกครั้ง เพราะผมก็ยืนอยู่ตรงนั้น ซามีร์ ไม่ได้ทำอะไร"


        "ถ้าคุณไล่คนนึงออก ก็ต้องไล่อีกคนด้วย ไม่ใช่แค่ ซามีร์ คนเดียว ซามีร์ บอกว่าเขาเอาศีรษะไปแตะ โอเค แต่นักเตะอีกคนก็ทำแบบเดียวกัน ไลน์สแมน ต้องรับผิดชอบครั้งใหญ่ เพราะมันไม่ใช่การตัดสินที่ดีเลย"


        "คุณต้องการไล่นักเตะทั้งคู่ออกเหรอ? โอเค ผู้ตัดสินยืนอยู่ตรงนั้น เขามองเห็นทุกอย่าง แต่ไลน์สแมนยืนอยู่ด้านหลัง (นักเตะ) เขาอาจมองไม่เห็นอะไรนัก เราจะยื่นอุทธรณ์แน่นอน"