จบปี 2012 เรียบร้อยแล้ว ถึงตอนนี้ปี 2013 ได้คืบคลานมาแล้ว แต่แฟนๆ กีฬาต่างประเทศ ยังคงมีการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภทให้ติดตามชมกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ เรียกว่ามีให้ลุ้นกันทุกสัปดาห์ ใครชอบกีฬาประเภทไหน ก็สามารถเลือกชมเลือกเชียร์ตามอัธยาศัย ขอบอกเลยว่าพลาดไม่ได้จริงๆ...

ฟุตบอล

เกมลูกหนังถือเป็นกีฬายอดนิยมของแฟนกีฬาทั่วโลก ซึ่งในปี 2013 มีการแข่งขันสำคัญๆ หลายรายการให้ติดตาม เริ่มกันที่ ฟุตบอลยูโปา ลีก 2012-13 นัดชิงชนะเลิศ จะมีขึ้นที่สนามอัมสเตอร์ดัม อารีนา ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์ วันที่ 15 พฤษภาคม จากนั้นอีก 10 วันต่อมา คือในวันที่ 25 พฤษภาคม จะมีเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2012-13 ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คงต้องมาลุ้นกันว่าถึงวันนั้นคู่ชิงชนะเลิศของทั้ง 2 รายการจะเป็นทีมใดกันบ้าง

สนามอัมสเตอร์ดัม อารีนา

สนามเวมบลีย์

ต่อมาเป็นศึกคอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันครั้งที่ 9 แล้ว โดย 8 ครั้งที่ผ่านมา บราซิลได้แชมป์ 3 ครั้ง ฝรั่งเศสได้แชมป์ 2 ครั้ง อาร์เจนตินา, เม็กซิโก และเดนมาร์ก ได้แชมป์ทีมละครั้ง

สำหรับในปี 2013 ประเทศบราซิล รับเป็นเจ้าภาพ จัดระหว่างวันที่ 15-30 มิถุนายน ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2001 ที่ชาติใดจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จะต้องจัดคอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ ก่อนหน้านั้น 1 ปี ซึ่งในปีนี้ นอกจากบราซิลแล้ว ยังมีอีก 7 ชาติเข้าร่วมคือ สเปน แชมป์โลก 2010 และแชมป์ยุโรป 2012, ญี่ปุ่น แชมป์เอเชีย 2011, เม็กซิโก แชมป์คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ 2011, อุรุกวัย แชมป์โคปา อเมริกา 2011, ตาฮิติ แชมป์โอเชียเนีย เนชันส์ คัพ 2012 และอิตาลี รองแชมป์ยุโรป 2012 ส่วนอีก 1 ทีมจากทวีปแอฟริกา ยังต้องรอผลการแข่งขันศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ 2013 ซึ่งจะแข่งในเดือนกุมภาพันธ์ เสร็จสิ้นเสียก่อน

ในส่วนของระบบการแข่งขัน เริ่มที่รอบแรก แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม โดยกลุ่มเอ มีบราซิล, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และ อิตาลี กลุ่มบี มี สเปน, อุรุกวัย, ตาฮิติ และแอฟริกัน เนชันส์ คัพ จากนั้นหา 2 ทีม อันดับ 1 และอันดับ 2 ของทั้ง 2 กลุ่มเข้าไปไขว้เจอกันในรอบรองชนะเลิศ ผู้ชนะในรอบนี้จะเข้าไปชิงชนะเลิศ

 
เทนนิส

แฟนลูกสักหลาดทั่วโลกเต็มอิ่มกับการแข่งขันแทบทั้งปี แต่รายการสำคัญที่พลาดไม่ได้คือแกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ ซึ่งแข่งกันมายาวนาน โดยเริ่มที่ออสเตรเลียน โอเพน แกรนด์สแลมแรกที่ออสเตรเลีย 14-27 มกราคม ต่อด้วยเฟรนช์ โอเพน แกรนด์สแลมที่ 2 ที่ฝรั่งเศส 26 พฤษภาคม-9 มิถุนายน จากนั้นเป็นศึกวิมเบิลดัน แกรนด์สแลมที่ 3 ที่อังกฤษ 24 มิถุนายน-7 กรกฎาคม และแกรนด์สแลมที่ 4 ยูเอส โอเพน ที่สหรัฐอเมริกา 26 สิงหาคม-9 กันยายน

มอเตอร์สปอร์ต

แฟนกีฬาที่ชื่นชอบความเร็ว ต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อถึงการแข่งขันรถเอฟวัน, รถสูตร 1 หรือฟอร์มูลา วัน แล้วแต่ว่าใครจะเรียกยังไง ซึ่งกีฬาท้าความเร็วนี้จะแข่งในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี โดยในปี 2013 มีแข่งทั้งหมด 20 สนาม 20 ประเทศเหมือนเดิม

โดยเริ่มประเดิมสนามแรกที่ออสเตรเลีย 15-17 มีนาคม, สนาม 2 ที่มาเลเซีย 22-24 มีนาคม, สนาม 3 ที่จีน 12-14 เมษายน, สนาม 4 ที่บาห์เรน 19-21 เมษายน, สนาม 5 ที่สเปน 10-12 พฤษภาคม, สนาม 6 ที่โมนาโก 24-26 พฤษภาคม, สนาม 7 ที่แคนาดา 7-9 มิถุนายน, สนาม 8 ที่อังกฤษ 28-30 มิถุนายน, สนาม 9 ที่เยอรมัน 5-7 กรกฎาคม, สนาม 10 ยังไม่ประกาศเจ้าภาพ 19-21 กรกฎาคม, สนาม 11 ที่ฮังการี 26-28 กรกฎาคม, สนาม 12 ที่เบลเยียม 23-25 สิงหาคม, สนาม 13 ที่อิตาลี 6-8 กันยายน, สนาม 14 ที่สิงคโปร์ 20-22 กันยายน, สนาม 15 ที่เกาหลีใต้ 4-6 ตุลาคม, สนาม 16 ที่ญี่ปุ่น 11-13 ตุลาคม, สนาม 17 ที่อินเดีย 25-27 ตุลาคม, สนาม 18 ที่เอมิเรตส์ 1-3 พฤศจิกายน, สนาม 19 ที่สหรัฐอเมริกา 15-17 พฤศจิกายน และสนาม 20 ที่บราซิล 22-24 พฤศจิกายน

กอล์ฟ

กีฬากอล์ฟมีการแข่งขันกันทุกปี โดยเริ่มตั้งเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน โดยจัดแข่งกันทุกสัปดาห์ ใครเป็นแฟนกีฬาประเภทนี้มีให้ชมให้ลุ้นกันเต็มอิ่ม แต่รายการสำคัญที่มีแข่งกันปีละครั้ง มักได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งหนีไม่พ้นศึกเดอะ มาสเตอร์ส ที่ สหรัฐอเมริกา 11-14 เมษายน จากนั้นจะเป็นรายการดิ โอเพน แชมเปียนชิพ ที่สกอตแลนด์ 18-21 กรกฎาคม ต่อด้วย โซลไฮม์ คัพ เป็นการพบกันระหว่างทีมสหรัฐฯ กับทีมยุโรป ที่สหรัฐอเมริกา 16-18 สิงหาคม

อเมริกันฟุตบอล

อเมริกันฟุตบอล ฤดูกาล 2012-13 จะทำการชิงชนะเลิศ หรือซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 47 ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซุปเปอร์โดม เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนา งานนี้ใครเป็นแฟนศึกคนชนคน คงต้องอดใจรออีกนิด ก็จะได้รู้คู่ชิงชนะเลิศกันแล้ว

บาสเกตบอล

หลังจากการแข่งขันในฤดูกาล 2012-13 จบลงในช่วงเดือนมีนาคม รอบเพลย์ออฟจะเริ่มต้นราวปลายเดือนเมษายน โดยแต่ละคอนเฟอเรนซ์จะคัดทีมเข้าแข่งคอนเฟอเรนซ์ละ 8 ทีม ทีมอันดับดีที่สุดในสายทั้ง 3 และอีกทีมที่ได้สถิติดีที่สุดรองลงมา จะถูกวางอันดับที่ 1-4 ตามสถิติของฤดูกาลปกติ ซึ่ง 3 อันดับแรกไม่จำเป็นต้องเป็นแชมป์สายเสมอไป ส่วนทีมอันดับที่ 5-8 ได้จากทีมที่มีสถิติดีถัดไปอีก 4 ทีม รวมเป็น 8 ทีมต่อคอนเฟอเรนซ์

ส่วนทีมที่อยู่อันดับต้นๆ จะได้เปรียบโดยทีมอันดับแรกจะประกบกับทีมอันดับสุดท้าย ทีมอันดับ 2 ประกบกับทีมอันดับ 7 ฯลฯ ทีมที่มีสถิติดีกว่าจะได้แข่งที่บ้านตนเองก่อน ทีมในคอนเฟอเรนซ์จะแข่งแบบชนะ 4 ใน 7 เกม ทีมที่ชนะ 4 เกม ก่อนจะได้ผ่านเข้าในรอบถัดไป จนได้แชมป์คอนเฟอเรนซ์ตะวันออกและตะวันตก จากนั้นทั้ง 2 ทีม จะมาพบกันในรอบไฟนอล ทีมที่ชนะจะเป็นแชมป์เอ็นบีเอ จะได้ถ้วยแลร์รี โอไบรอัน ส่วนผู้เล่นและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น โค้ช ผู้จัดการทีมทั่วไป จะได้แหวนแชมป์ลีก ยังมีรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอรอบไฟนอลให้อีกด้วย โดยรอบไฟนอลจะแข่งในเดือนมิถุนายน

ซีเกมส์

ในช่วงวันที่ 11-21 ธันวาคม ประเทศเมียนมาร์ รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 โดยใช้สนามใน 3 เมือหลักๆ คือ "เนปิดอว์" เมืองหลวงแห่งใหม่ "ย่างกุ้ง" เมืองหลวงเก่า และมัณฑะเลย์ ซึ่งในขณะนี้ เมียนมาร์เสนอจัด 28 ชนิดกีฬา แต่จะมีการสรุปกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการแข่งขันกี่ชนิดกีฬา งานนี้คงต้องลุ้นกันว่าทัพนักกีฬาไทยจะได้กี่เหรียญทอง และจะแย่งชิงความเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์คืนจากอินโดนีเซียได้หรือไม่