เข้าชมรูปภาพที่เกียวข้อง

ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

(นัดที่ 18 ฤดูกาล 2012-13)

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2556

เรอัล มาดริด 4   -   3 เรอัล โซเซียดาด

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด   ผู้ชม: 75,000 คน

        "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ไม่มี เซร์คิโอ รามอส และ เปเป้ สองเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งติดโทษแบนพร้อมกันทั้งคู่ หลังสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ โดยรายของ เปเป้ นั้น ยังบาดเจ็บหัวเข่า เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดต้องพักรักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ เลยทีเดียว ทำให้ต้องใช้งาน ราฟาแอล วาราน และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ยืนคู่กันโดยอัตโนมัติ

        ทางด้านตำแหน่งผู้รักษาประตูดร็อป อีเกร์ กาซียาส นายทวารยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2012 จากการจัดอันดับของสหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอฟเอชเอส) เป็นสำรองอีกครั้งแล้วให้ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารดาวรุ่งลงมาเฝ้าเสาแทน

        ส่วนแบ็คซ้ายขาด ฟาบิโอ โคเอนเตรา และ มาร์เซโล่ ที่บาดเจ็บเลยต้องให้ อัลบาโร่ อาร์เบลัว สลับมายืนแทน แล้วส่ง ไมเคิล เอสเซียง ลงยืนแบ็คขวา

        แนวรุกมี โฆเซ่ กาเยฆอน, เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยกันปั้นเกมให้กับ คาริม เบนเซม่า หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส เข้าปิดสกอร์

        ทาง เรอัล โซเซียดาด ผู้มาเยือนจากแคว้นบาสก์ ฟอร์มแกร่งมากไม่แพ้ใครในลีกมา 7 นัดติดแล้ว นัดนี้ต้องขาด มาร์เกล เบร์การ่า ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมไปถึง กาดามูโร่ กองหลังอีกรายที่บินไปร่วมฝึกซ้อมเตรียมลงแข่งขันแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2013 ให้กับทีมชาติแอลจีเรีย

        ตัวรุกได้ อ็องตวน กรีซมันน์ ดาวเตะฝรั่งเศสหายเจ็บต้นขากลับมาสร้างสรรค์เกมร่วมกับ ชาบี ปริเอโต้ และ คาร์ลอส เวล่า คอยป้อนบอลให้กับ ดีเอโก้ อีฟราน เข้าปิดสกอร์

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 2 นาที เจ้าบ้านขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ซามี เคดิร่า จ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า ซัดด้วยขวาบอลเรียดเสียบเสาสองอย่างแม่นยำให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0

        เจ็ดนาทีต่อมา ทีมเยือนมาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ อันโตนิโอ อาดาน นายทวารของเรอัล มาดริด เตะบอลสั้นๆคืนให้เพื่อนไม่ดีเลยโดน คาร์ลอส เวล่า ตัดได้แล้วลากจี้เข้าไปในเขตโทษแตะหลบ อาดาน นายทวารของชุดขาว แต่โดนรวบล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ พร้อมชักใบแดงไล่ อาดาน ออกทันที ทำให้เรอัล มาดริด เหลือแค่ 10 คน เลยต้องเปลี่ยน กาเยฆอน ออกแล้วให้ อีเกร์ กาซียาส ลงมาเฝ้าเสาแทน จากลูกจุดโทษ ชาบี ปริเอโต้ แปด้วยขวาเข้าไป โดย กาซียาส พุ่งไปคนละทาง ช่วยให้โซเซียดาด ตามมาเป็น 1-1 

        มาถึงนาทีที่ 11 อีเกร์ กาซียาส นายทวารของเรอัล มาดริด โดนผู้เล่นโซเซียดาดวิ่งกดดัน ทำให้เตะเปิดไม่ดี บอลไปติด ปริเอโต้ เยื้องฝั่งขวาเขตโทษ ยิงยัดเข้าข้างตาข่ายเสาแรกอย่างน่าใจหาย

        เรอัล บุกขึ้นมาทาง อาร์เบลัว จ่ายทะลุให้กับ ซามี เคดิร่า กดด้วยขวาเน้นๆ บอลไปโดน มิเกล กอนซาเลซ กองหลังโซเซียดาด ออกหลังไปในนาทีที่ 34 

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 35 ราชันชุดขาว ที่มีผู้เล่นน้อยกว่า สามารถทำประตูแซงนำจากจังหวะที่ เมซุต โอซิล เปิดมุมจากทางด้านขวาโค้งมาหน้าปากประตู กองหลังของโซเซียดาด โหม่งสกัดออกมาเข้าทางของ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ พักอกแล้วหวดด้วยขวาทันทีบอลพุ่งแหวกมาถึง ซามี เคดิร่า ดีดส้นต่อส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้ เรอัล มาดริด นำ 2-1

        ผ่านมา 40 นาที ทีมเยือนไล่ตามตีเสมอ 2-2 จนได้จากจังหวะที่ คาร์ลอส เวล่า ปั่นด้วยซ้ายบอลแฉลบตัวของ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางเจ้าถิ่นมาเข้าทาง ชาบี ปริเอโต้ แปด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ มีลุ้นทำแฮตทริคแล้ว

        นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูขึ้นนำจริงๆ เมื่อเล่นโต้กลับเร็วขึ้นมา เมซุต โอซิล จ่ายให้กับ คาริม เบนเซม่า ปั่นโค้งด้วยขวาบอลไปชนเสาสองกระดอนออกมาเข้าทาง ซามี เคดิร่า ซ้ำด้วยซ้ายโดนไม่เต็มบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 2-2

        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 9 นาที ชุดขาวได้ลุ้นก่อน ซามี เคดิร่า โยนให้กับ คริสเตียน โรนัลโด้ หวดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่โดน เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารชาวชิลีของโซเซียดาด เซฟไว้ได้

        กระเถิบมานาทีที่ 56 เรอัล มาดริด ได้โอกาสอีก โอซิล จ่ายให้กับ คริสเตียน โรนัลโด้ กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

        นาทีต่อมาทีมเยือนโต้ขึ้นมาบ้างได้เตะมุม รูเบน ปาร์โด้ ครอสให้กับ อ็องตวน กรีซมันน์ โหม่งบอลถากเสาขวาออกไป

        เรอัล แม้ตัวน้อยกว่า แต่พยายามบุก เมซุต โอซิล เปิดบอลให้กับ โรนัลโด้ ส่องด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปในนาทีที่ 64

        ถัดมา 4 นาที เรอัล มาดริด พลิกนำ 3-2 เมื่อเล่นโต้กลับเร็วขึ้นมาทางด้านขวา คาริม เบนเซม่า ตักข้ามมาเสาสองให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตวัดยิงด้วยซ้ายเล่นทางบอลผ่าน เคลาดิโอ บราโว่ นายทวารทีมเยือนเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

        ท้ายเกมนาทีที่ 70 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮดังๆกันอีกครั้ง เมื่อได้ฟรีคิกริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่ซัดด้วยขวาบอลโค้งฮุคเช็ดใต้คานเข้าประตูไปอย่างสุดคลาสสิคช่วยให้ เรอัล มาดริด นำ 4-2 เป็นประตูที่สองของโรนัลโด้ในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 16 ของโรนัลโด้ ในลา ลีกา ซีซั่นนี้ด้วย

        ถัดมา 6 นาที ทีมเยือนได้ประตูไลช่ขึ้นมาเป็น 3-4 เมื่อ กอนซาโล่ กาสโตร จ่ายขึ้นหน้าให้กับ ชาบี ปริเอโต้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา จับบอลด้วยซ้ายแล้วซัดด้วยขวาเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นแฮตทริคของ ปริเอโต้ ในเกมนี้ด้วย

        นาทีที่ 85 ชุดขาวเปลี่ยน เมซุต โอซิล หวังทำเกมบุกและทำประตูเพิ่ม

        เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เปิดบ้านเอาชนะ โซเซียดาด ไปได้อย่างสนุก 4-3 เก็บสามแต้มได้อย่างยอดเยี่ยม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        เรอัล มาดริด: อันโตนิโอ อาดาน - ไมเคิล เอสเซียง, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, ราฟาแอล วาราน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - โฆเซ่ กาเยฆอน (อีเกร์ กาซียาส น.8), เมซุต โอซิล(ลูก้า โมดริช น.85), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอีน น.74)

        สำรอง: นาโช่ เฟร์นานเดซ, ดีเอโก้ ฆาเบียร์ ยอเรนเต้, กาก้า, อังเคล ดิ มาเรีย

        ใบแดง: อันโตนิโอ อาดาน น.6

        เรอัล โซเซียดาด: เคลาดิโอ บราโว่ - ดาเนี่ยล เอสตราด้า, มิเกล กอนซาเลซ, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, อัลเบร์โต้ เด ลา เบย่า - รูเบน ปาร์โด้, ดาบิด ซูรูตูซ่า (กอร์ก้า เอลุสตอนโด้ น.73) - ชาบี ปริเอโต้ (กัปตันทีม), อ็องตวน กรีซมันน์, คาร์ลอส เวล่า - ดีเอโก้ อิฟราน (กอนซาโล่ กาสโตร น.58)

        สำรอง: เอนญาอุต ซูบิกาไร (ผู้รักษาประตู) - จอน อันโซเตกี, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, โฆเซ่ อังเคล, ฆาเบียร์ อาเรียล โรซาด้า

        ใบแดง : ดาเนี่ยล เอสตราด้า น.79

        ผู้ตัดสิน: อิ๊กนาซิโอ อิเกลเซียส บียานวยบา