แฟนคลับกูปรีอันตราย รวมตัวหน้าบ้านพัก "เฮียฮวด" เผาโลงศพประท้วงกดดันให้คืนสิทธิ์การทำทีมฟุตบอลแข่งศึกไทยพรีเมียร์ลีกของทีม "อีสาน ยูไนเต็ด" กลับมาให้ทีม "ศรีสะเกษ เอฟซี" ลั่นวันที่ 19 ก.พ.หากผลการตัดสินไม่ได้อย่างหวัง  เตรียมยกระดับการประท้วง…

เวลา 17.15 น. วันที่ 7 ก.พ.56 ที่ผ่านมา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าบริษัทกิจเจริญการ์เมนท์1993 จำกัด ถนนสายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ ตำบลโพนข่า อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งบ้านพักและบริษัทของนายสมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรฟุตบอล อีสานยูไนเต็ด  ได้มีกลุ่มแฟนบอลทีมศรีสะเกษ เอฟซี นำโดยนายวิทยา อินทวี ประธานแฟนคลับกูปรีท้องถิ่น หรือประธานกองเชียงกูรีอันตรายศรีสะเกษ เอฟซี  นำเหล่าแฟนบอล และเหล่ากองเชียร์ที่ยังรักในทีมศรีสะเกษ เอฟซี รวมตัวกันเพื่อทวนสิทธิและกดดันให้ทีมอีสาน ยูไนเต็ด กลับมาเป็นของศรีสะเกษ เอฟซี และย้ายทีมาที่จังหวัดศรีสะเกษ เหมือนเดิม

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผาโลงศพสีดำ ด้านข้างโลงมีข้อความว่า "แด่ไอ้คนขโมย (ทีม) … (ไอ้เ_ี้ยฮวด)"

สำหรับกรณีงดังกล่าว เกิดจากนายสมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรฟุตบอล อีสานยูไนเต็ด ซึ่งเดิมเคยเป็นประธานทีมศรีสะเกษ เอฟซี  ได้ย้ายสิทธิ์ของทีมทีมศรีสะเกษ เอฟซีไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราธานี และเปลี่ยนเป็นชื่อทีมอีสาน ยูไนเต็ด  สร้างความไม่พอใจให้แก่แฟนคลับชาวศรีสะเกษเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้า บรรดาแฟนคลับได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกในการทวงสิทธิการทำทีมคืนจากทีมอีสาน ยูไนเต็ดใน แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้  ขณะที่คณะกรรมการที่รับเรื่องนี้ได้มีคำสั่งให้เลื่อนการตัดสินไปเป็นวัน ที่19 กุมภาพันธ์ 2556 นี้

นายวิทยา อินทวี ประธานแฟนคลับกูปรีท้องถิ่น  เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่มาวันนี้ไม่มาก่อกวน บริษัท กิจเจริญการ์เมนท์ 1993 จำกัด เพียงแต่มาเรียกร้องสิทธิ และกดดันนายสมบัติ หรือที่เรียกกันว่า "เฮียฮวด"  หลังจากย้ายทีมศรีสะเกษ เอฟซี ไปอยู่ที่อุบลราชธานี และเปลี่ยนชื่อเป็น อีสาน ยูไนเต็ดซึ่งกรณีนี้วุ่นวายยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี  คณะกรรมการได้เรียกให้นายสมบัติ เข้าไปชี้เเจงแล้วถึง 3 ครั้ง แต่นายสมบัติหลีกเลี่ยงมาตลอด  ไม่เคยเข้าชี้แจง  โดยอ้างว่าเอกสารยังไม่พร้อม ทำให้กลุ่มแฟนคลับกูปรีท้องถิ่นและกลุ่มกองเชียงกูรีอันตราย ศรีสะเกษ เอฟซี สงสัยว่าทำไมนายสมบัติ จึงไม่เข้าพบคณะกรรมการ  และกลัวเรื่องนี้อาจจะมีนอกมีในกัน หรืออาจจะมีการล้มเรื่องดังกล่าว  ทั้งนี้หากในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556 ซึ่งเป็นวันที่ตัดสิน ผลการตัดสินไม่เป็นไปตามที่กลุ่มแฟนคลับตั้งไว้  จะมีการเคลื่อนพลชุมนุมประท้วงที่ใหญ่และมากกว่านี้อีก.