"เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ กลายเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีกทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หลังเปิดบ้านอัด "ยูงทอง" ลีดส์ ที่ตอนนี้อยู่ลีกแชมเปี้ยนชิพไปสบาย 4-0 เซร์คิโอ อเกวโร่ เหมาสองประตู ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ ห้า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เอฟเอ คัพ รอบ ห้า

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้  4-0 ลีดส์ (แชมเปี้ยนชิพ)

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

         เรือใบสีฟ้า ปรับทัพเล็กน้อยส่งประตูมือ 2 คอสเทล ปันติลิมอน ลงเฝ้าเสาเหมือนรอบที่แล้ว, มาติย่า นาสตาซิช หายเจ็บลงคุมแนวรับ ที่เหลือมี คาร์ลอส เตเวซ, เจมส์ มิลเนอร์ และ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ คืนตัวจริง

         ทางฝั่ง ยูงทอง ทีมดังลีกแชมเปี้ยนชิพ ก็ปรับทัพส่ง เจมี่ แอชดาวน์ ลงเฝ้าเสาบ้าง สตีเฟ่น วอร์น็อค แบ็กซ้ายตัวใหม่ก็ลงตัวจริง เช่นเดียวกับ เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ กับ รูดี้ ออสติน ที่คืนทัพด้วย

         เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะชิ่งสวยๆ ดาบิด ซิลบา ให้ ยาย่า ตูเร่ ให้ คาร์ลอส เตเวซ แล้วงัดอย่างเหนือชั้นคืนให้ ยาย่า หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะหนี เจมี่ แอชดาวน์ แล้วยิงโล่งๆ ไม่เหลือ

         นาทีที่ 14 เป็นโอกาสที่เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูที่สองเพิ่ม เป็นจังหวะประสานงานของ อเกวโร่ ที่หลุดขึ้นทางขวาแล้วผ่านเข้ากลางให้ เตเวซ แปด้วยขวาเน้นๆ ไปเข้าข้างตาข่าย

         จากนั้น เรือใบสีฟ้า มาได้จุดโทษในนาทีที่ 15 อเกวโร่ แตะบอลหนี ทอม ลีส์ ในเขตโทษฝั่งซ้ายโดนแตะนิดเดียวแล้วหัวหอกอาร์เจนไตน์หยุดเล่นทันที ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่ อเกวโร่ จะสังหารไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ นำ 2-0

         แผงหลัง ลีดส์ ยังอ่อนยวบ เกือบโดนลูกสามอีกในนาทีที่ 29 จากฟรีคิกที่เปิดเข้าไปหน้าประตู แซม ไบรัม เตะสกัดผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเอง

         นาทีที่ 32 เจ้าถิ่นมีลุ้นประตูอีกหน จังหวะที่บอลทะลักออกมานอกเขตโทษ ยาย่า ตูเร่ จับได้แล้วกระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งจะเสียบคานอยู่แล้ว แต่ แอชดาวน์ เหินปัดข้ามคานไปได้

         4 นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นจากลูกเตะมุมด้านขวา ดาบิด ซิลบา เปิดไปให้ ฆาบี การ์เซีย โฉบเข้ามาที่เสาแรก แต่โหม่งเช็ดหลุดเสาสอง จบครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำ 2-0

         ครึ่งหลัง ยูงทอง ต้องแก้เกมเปลี่ยนตัวทีเดียวสองคนรวด ส่ง สตีฟ มอริสัน กับ เดวิด นอร์ริส ลงแทน รอสส์ แม็คคอร์แม็ค กับ ไมเคิ่ล บราวน์

         เรือใบสีฟ้า มายิงประตูเพิ่มเป็น 3-0 ในนาทีที่ 52 จากจังหวะประสานงานของสามแนวรุก อเกวโร่ ทำชิ่งกับ ดาบิด ซิลบา หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่ อเกวโร่ จะชิพผ่าน แอชดาวน์ ไปหน้าประตูให้ เตเวซ เอาตัวชนบอลเข้าไปจากระยะหลาเดียว

         พอได้ลูกสาม เจ้าถิ่นทะยอยเปลี่ยนตัวสำรองลง นาทีที่ 60 ส่ง แจ็ค ร็อดเวลล์ แทน ฆาบี การ์เซีย และนาที 64 ส่ง ไมค่อน ลงแทน คาร์ลอส เตเวซ

         นาทีที่ 66 แมนฯ ซิตี้ น่าได้ประตูที่สี่สุดๆ ยาย่า ตูเร่ ได้แปเหน่งๆ ระยะ 10 หลาไปติดเซฟ แอชดาวน์ บอลลอยโด่ง แจ็ค ร็อดเวลล์ ตัวสำรองปรี่เข้าโหม่งซ้ำไปชนคานกระดอนลงพื้น ยังไม่ข้ามเส้น

         เกมวันเวย์ต่อเนื่อง จนนาทีที่ 74 เจ้าบ้านก็มายิงปิดท้าย 4-0 จนได้ ดาบิด ซิลบา ผ่านเข้ากลางให้ อเกวโร่ ดวลเดี่ยวกับ แอชดาวน์ แล้วแปด้วยขวาสะกิดเสาเข้าไป เป็นประตูที่ 2 ของ กุน ในเกมนี้

         จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม ลีดส์ ยับเยิน 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 6 หรือรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีกทีมแรกที่ผ่านเข้าสู่รอบนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : คอสเทล ปันติลิมอน, ปาโบล ซาบาเลต้า, โคโล่ ตูเร่, มาติย่า นาสตาซิช, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, ฆาบี การ์เซีย (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.60), เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ (ไมค่อน น.64), เซร์คิโอ อเกวโร่ (เอดิน เชโก้ น.81)

สำรองไม่ได้ใช้ : โจ ฮาร์ท, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่, ซามีร์ นาสรี่

ลีดส์ : เจมี่ แอชดาวน์, แซม ไบรัม, ทอม ลีส์, ลี เพลเทียร์, สตีเว่น วอร์น็อค, ไอแดน ไวท์, ไมเคิ่ล บราวน์ (เดวิด นอร์ริส น.46), รูดี้ ออสติน (ไมเคิ่ล ทังก์ น.77), ลุค วาร์นี่ย์, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, รอสส์ แม็คคอร์แม็ค (สตีฟ มอริสัน น.46)

สำรองไม่ได้ใช้ : แพดดี้ เคนนี่, เจสัน เพียร์ซ, ไรอัน ฮอลล์, ฮาบิ๊บ ฮาบิบู

ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเทนเบิร์ก