ภาพการแถลงข่าวของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนลงแข่งขัน ACL รอบ 16 ทีมนัดแรกกับ บุนยอดกอร์ โดยโค้ช ‘สก็อต’ มั่นใจแข้งบุรีรัมย์ดีพอเปิดบ้านเอาชนะ ด้าน ‘บิ๊กจ้ำ’ เผยนักเตะทุกคนมีความกระหายในการผ่านเข้ารอบต่อไป มั่นใจแข้งเซราะกราว แกร่งพอโค่น บุนยอดกอร์ ชิงความได้เปรียบนัดแรก ACL

สก็อต คูเปอร์ เฮดโค้ช “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมั่นใจว่าจะสามารถเก็บชัยชนะ สร้างความได้เปรียบในเกมแรก เพราะลูกทีมผ่านสโมสรระดับท็อปของเอเชียมาหมดแล้ว ส่วน “บิ๊กจ้ำ” ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผจก.ทีม “แชมป์เซราะกราว”เชื่อ การขาดหายไปของ 2 ดาวเตะตัวหลักของทีมจะไม่ส่งผลกระทบ และผู้เล่นทุกคนมีความต้องการที่จะพาสโมสรผ่านเข้ารอบต่อไปให้ได้ ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก วันที่ 14 พ.ค.นี้

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ สนาม บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม (ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม) ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ระหว่าง “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ บุนยอดกอร์ ตัวแทนจากอุซเบกิสถาน

เริ่มที่ทางฝั่งของ บุนยอดกอร์ ที่นำมาโดย มีร์ยาลอล คาซิมอฟ กุนซือใหญ่ของทีม พร้อมด้วย มาร์โก้ มาร์ซิค มิดฟิลด์ตัวเก่ง โดยเทรนเนอร์ของทีมเยือนกล่าวว่า “คงจะเป็นเกมที่น่าสนใจมาก และเป็นบททดสอบที่ดีสำหรับพวกเรา ในการพิสูจน์ว่าเราจะสามารถทำผลงานได้ดีในเกมแรก ส่วนเรื่องสภาพอากาศนั้นคงจะไม่มีผลกระทบต่อเราแน่นอน”

นอกจากนี้กุนซือของ บุนยอดกอร์ ยังกล่าวเสริมว่า“ต้องยอมรับว่าในรอบที่ผ่านมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งสำคัญคือพวกเขามีประสิทธิภาพที่ดีมาก ซึ่งเราเองต้องจับตามองผู้เล่นหมายเลข 2 (ธีราทร บุญมาทัน)ให้ดี เพราะเขาคือนักเตะที่เล่นเกมรุกได้ดีมาก”

ด้าน มาร์โก้ มาร์ซิค กองกลางตัวกลั่นของ บุนยอดกอร์ มองเกมนี้ว่า “เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน ที่เรามาเล่นในเมืองไทย เพราะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่น่ากลัว แต่เราจะสู้ให้จนถึงวินาทีสุดท้าย เพื่อนำผลการแข่งขันที่ดีกลับไปให้ได้ก่อนในเกมแรก”

จากนั้นเวลา 16.30 น. เป็นการแถลงข่าวของ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำทัพมาโดย สก็อตต์ คูเปอร์ กุนซือใหญ่, “บิ๊กจ้ำ”ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผจก.ทีม และ ออสมาร์ อิบาเนซ ปราการหลังจอมแกร่ง

โดย สก็อตต์ คูเปอร์ เฮดโค้ชของ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้พูดถึงความพร้อมของทีมว่า “ต้องยอมรับว่า บุนยอดกอร์ เป้นทีมที่ดีมาก ตั้งแต่เข้าเข้ามาร่วมแข่งขันในราบการนี้ตั้งแต่ปี 20078 ซึ่งสามารถทะลุผ่านเข้ารอบลึกๆมาได้ตลอด”

“ทว่าเรายังเชื่อมั่นในฝีเท้าของผู้เล่นทุกคน เพราะพวกเราผ่านทีมในลีกระดับท็อปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน, เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ซึ่งพรุ่งนี้เราพร้อมแล้วที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ในเกมแรก เพื่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไป”

ฝั่ง “บิ๊กจ้ำ”ทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผจก.ทีม “แชมป์เซราะกราว” ได้ออกมาระบุถึงเกมนี้ว่า “การโดนแบนถึง 2 คน ทั้ง คาร์เมโร กอนซาเลซ และ สุเชาว์ นุชนุ่ม ถือว่าเสียหาย แต่เรามีตัวผู้เล่นที่สามารถทดแทนได้ อีกทั้งทุกคนยังมีความกระหายที่อยากจะผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งจะทำให้ทีมของเราไม่เสียความสมดุลจากจุดนี้แน่นอน”

ส่วน ออสมาร์ อิบาเนซ ที่จะลงสวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมนี้ ได้กล่าวว่า “เรารู้ว่า บุนยอดกอร์ เป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่เรามั่นใจว่าหากเล่นได้ตามแท็คติคที่วางไว้ จะทำให้ดึงศักยภาพที่ดีสมบูรณ์แบบออกมา เพื่อที่เราจะเก็บชัยชนะในบ้านให้ได้นัดแรก”

หลังจากนั้นในช่วงเย็นทั้ง 2 ทีมได้ลงทำการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ โดยเวลา 17.30 น. ทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ไปซ้อมที่สนาม เขากระโดง สเตเดี้ยม ส่วน เวลา 18.30 น. ทัพ บุนยอดกอร์ ทำการซ้อมที่สนาม บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม ซึ่งทั้งคู่ได้ปล่อยให้สื่อมวลชนได้ทำการเก็บภาพเพียง 15 นาทีเท่านั้น

ขณะเดียวกันชุดที่ทั้ง 2 ทีม จะทำการใส่ลงทำการแข่งขันนั้น ได้สรุปออกมาแล้ว โดย “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะสวมเสื้อ กางเกง และถุงเท้า สีกรมท่า ทั้งหมด ส่วนทีมเยือนจากอุซเบกิสถานอย่าง บุนยอดกอร์ จะใส่ชุดสีขาวล้วนทั้งหมด

นอกจากนี้แฟนบอลชาวไทยที่ไม่ได้เดินทางมาชมที่สนาม สามารถติดตามผลงานของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 ที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งนัดแรกจะเปิดรังรับการมาเยือนของ บุนยอดกอร์ จากอุซกิสถาน สามารถรับชมได้ที่ช่อง สตาร์สปอร์ต ทรูวิชั่นส์ ช่อง 109 ที่ถ่ายทอดสดเริ่มเวลา 17.55 น.

สำหรับผลงานของ บุนยอดกอร์ คู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่ามีสถิติที่ไม่ทำธรรมดา เนื่องจากพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันในศึกโทรฟี่ใหญ่ของเอเชีย มาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าวสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

ปี 2009 เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย และซีซั่น 2010 และ 2011 จอดป้ายแค่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย และมาแก้ตัวได้อีกครั้งในฤดูกาล 2012 ที่ผ่านมา ด้วยการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แต่พ่ายให้กับ อูลซาน ฮุนได ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-1 ก่อนที่ทีมจากเกาหลีใต้จะผงาดคว้าแชมป์ในปีดังกล่าว