ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » บังยีโต้ธรรมนูญใหม่เปล่าเอื้อตัวเองนั่งนายกชี้ฝ่ายต่อต้านทำแฟนบอลสับสน

บังยีโต้ธรรมนูญใหม่เปล่าเอื้อตัวเองนั่งนายกชี้ฝ่ายต่อต้านทำแฟนบอลสับสน

Posted 17/05/2013 by goal.com

 

วรวีร์ มะกูดี ออกโรงโต้ข้อกล่าวหานำธรรมนูญใหม่ฟีฟ่าเอื้อประโยชน์ตัวเองให้นั่งในเก้าอี้น่ายกสมาคมฟุตบอลต่อไป ชี้ฝ่ายที่ต่อต้านกำลังทำให้แฟนบอลสับสน

วรวีร์ มะกูดี ออกโรงโต้ข้อกล่าวหานำธรรมนูญใหม่ฟีฟ่าเอื้อประโยชน์ตัวเองให้นั่งในเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลต่อไป ชี้ฝ่ายที่ต่อต้านกำลังทำให้แฟนบอลสับสน ยันหากไม่เปลี่ยนแปลงวงการบอลไทยจะถอยหลัง

เมื่อ วันที่ 16 พ.ค. ที่อาคารมติชน “บังยี”นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ได้ร่างออกมาเพื่อให้สมาชิก 209 ชาติ นำไปใช้ว่า ธรรมนูญฉบับดังกล่าวถือว่าสำคัญมาก เพราะต้องการให้ทุกชาติปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อต้องการให้การเลือกตั้งผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลของแต่ละประเทศเป็นไป อย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย และเป็นสากล

“ดังนั้นเราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับฟีฟ่า และปฎิบัติให้เหมือนกันทั่วโลก ทั้งนี้หากเราไม่ดำเนินการอาจถูกทางฟีฟ่าตัดสิทธิ์ หรือแบนไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของทางฟีฟ่า ซึ่งนั่นหมายถึงจากถูกตัดสินไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับนานาชาติ หากปล่อยให้ถึงจุดนั้นวงการฟุตบอลไทยอาจจะได้รับผลการทบอย่างหนัก อาจถึงขั้นถอยหลังก็ว่าได้ ทั้งนี้รวมถึงรายการในระดับทัวร์นาเมนต์เอเชียด้วย”

นาย วรวีร์กล่าวอีกว่า "ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า การแก้ธรรมนูญใหม่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง เพื่อจะได้มีโอกาสนั่งนายกสมาคมอีกสมัยหนึ่งนั้น ตรงนี้เป็นการคิดแบบมีอคติ เพราะธรรมนูญใหม่นั้นฟีฟ่าออกแบบให้ใช้ทั่วโลกเหมือนกันหมด ที่สำคัญต้องการให้มีการเลือกตั้งแบบโปร่งใส และที่สำคัญสมาชิกทั้ง 72 ทีม ตามรัฐธรรมนูญใหม่ สโมสรจะเลือกใคร เรายังตอบแทนพวกเค้าไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนน ไปบังคับวิ่งเต้นซื้อเสียงไม่ได้ ต้องเคารพการตัดสินใจของเพื่อนสมาชิก และอย่าพึ่งไปดูแคลนการตัดสินใจว่า สมาชิกสโมสรจะเลือกใคร อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วตนได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท้วมท้น หากต้องการนั่งนายกอีกสมัยทำไมไม่ใช่กฎกติกาเดิม ซึ่งง่ายกว่า แต่ที่ต้องการเปลี่ยนเพื่อให้เป็นสากล และฟีฟ่ายอมรับด้วย”

“ธรรมนูญ ใหม่ไม่ได้ตัดสิทธิ์สโมสรสมาชิก เพียงแต่กำหนดให้ทีมที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้บริหารสมาคมฟุตบอล เป็นสมาชิกในระดับฟุตบอลลีกอาชีพ และกึ่งอาชีพ ซึ่งรวมทีมในระดับถ้วยพระราชทาน ข.ค.ง.ด้วย อีกทั้งสโมสรที่สงทุนบริหารทีมต้องทุ่มงบประมาณตั้งแต่ 1 ล้านบาทจนถึง 150 ล้านบาท สมาชิกเหล่านี้น่าที่จะมีสิทธิ์ได้ออกเสียงเลือกตั้ง ส่วนสมาชิกที่เหลือก็มีสิทธิ์นำเสนอแนวทางในการบริหารวงการฟุตบอลไทย และมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายเค้ารพในกฎกติกาตามหลักสากล ไม่ใช่ยังไม่ทันใช้ก็จะออกมาต่อต้านหรือวิจารณ์ไปต่างๆนานา ตรงนี้อาจทำให้แฟนบอลชาวไทยเกิดความสับสน”

“บัง ยี” เผยอีกว่า "ส่วนการลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลสมัยที่ 4 นั้น ส่วนหนึ่งต้องการต่อยอดพัฒนาวงการฟุตบอไทยออกไปอีก เพราะขณะนี้วงการบอลลีกอาชีพเรากำลังเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลีกภูมิภาค ซึ่งเข้าถึงระดับรากหญ้าอย่างแท้จริงแฟนบอลระดับจังหวัดตื่นตัวอย่างมาก ภารกิจตรงนี้สำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำทีมชาติไทย เพราะลีกระดับภูมิภาคเป็นการฝันให้กับเยาวชนได้พัฒนาทักษะฟุตบอลให้เก่งยิ่ง ขึ้น เพื่อก้าวสู้เส้นทางสายอาชีพลูกหนังอย่างยั่งยืน ตนจึงต้องการเข้ามาสานต่อให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพราะเรากำลังเดินทางถูกทาง"

“ส่วน แนวนโยบายในการบริหารสมาคมนั้น ประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถในวงฟุตบอลจำนวนมาก แต่ถ้าต้องการบริหารให้เป็นมืออาชีพ เราต้องนำบุคลากรที่มีความสามารถด้านบริหารจัดการเข้ามามีส่วนช่วยขับ เคลื่อน ซึ่งในธรรมนูญให้เลขาธิการสมาคมฟุตบอลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เราจะต้องจ้างทีมงานมืออาชีพเข้ามาดูแล ซึ่งผู้ที่เข้ามานั่งตำแหน่งดังกล่าวต้องระดับประธานเจ้าหน้าที่ หรือระดับซีอีโอ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการ ทั้งนี้เพราะนอกจากจะต้องดูเรื่องลีกอาชีพและ ต้องดูแลเรื่องทีมชาติทั้ง 18 ชุด ตั้งแต่ระดับเยาชนถึงทีมชาติชุดใหญ่”

นายก สมาคมฟุตบอลกล่าวต่อว่า "สำหรับวันที่ 15 มิ.ย.นี้จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งจะเชิญสมาชิก 184 สโมสรเข้าประชุม เพื่อรับรองธรรมนูญใหม่ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากสโมสรสมาชิก 3 ใน 3 เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของฟีฟ่า เมื่อรับรองแล้วต้องเลือกตั้งภายใน 55 วัน จะอยู่ช่วงปลายส.ค.โดยช่วงเวลานั้นเราต้องสรรหาคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งบุคคลที่จะมีเป็นกลาง ต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นบุคคลที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ ซึ่งเป็นกลางเหมือนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ซึ่งช่วงดังกล่าวหากเป็นไปได้น่าจะเชิญว่าที่ผู้สมัครแต่ละคนไปออกรายการ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ และแนวนโยบายในการบริหารสมาคม หรือเชิญมาพูดคุยแบบวงเสวนาก็น่าจะดี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และเพื่อนสมาชิก"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »