"ขุนพลกระทิงน้อย" สเปน โชว์ฟอร์มเก่งไล่อัด "อัซซูร์รินี่ย์" อิตาลี 4-2 ผงาดคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยเกมนี้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ซัดแฮตทริกอีกด้วย ในศึกฟุตบอล ยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป นัดชิงชนะเลิศ
วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2556
สเปน 4   -   2 อิตาลี   

สนาม : เท็ดดี้ สเตเดี้ยม (เยรูซาเล็ม, อิสราเอล)      ผู้ชม : 28,000 คน 


         ศีกฟุตบอล ยู -21 ชิงแชมป์ยุโรป นัดชิงชนะเลิศ "กระทิงน้อย" สเปน ส่ง ติอาโก้ อัลกันตาร่า,อีสโก้ และ อัลบาโร่ โมราต้า เป็นสามประสานเกมรุก สนับสนุนหัวหอกเป้าอย่าง คริสเตียน เตโย่ ปะทะ"อัซซูร์รีนี่" อิตาลี ที่ ฟาบิโอ บอรินี่ พร้อมปิดสกอร์ร่วมกับ ชิโร่ อิมโมบิเล่ โดยมี มาร์โก แวร์รัตติ, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ทำเกมสนับสนุน


      เริ่มเกมมาเพียง6นาที เป็นขุนพลกระทิงดุน้อย ได้เฮก่อนอย่างรวดเร็ว เมื่อ อีสโก้ จ่ายบอลให้ อัลบาโร่ โมราต้า พลักบอลเข้าไปเปิดทางฝั้งซ้ายของกรอบเขตโทษให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลอยเข้ามาโหม่งโล่งๆระยะเผาขนคนเดียว ส่งบอลตุงตาข่ายให้ สเปน ออกนำ 1-0

      อย่างไรก็ตาม4นาทีต่อมา อิตาลี ตีเสมออย่างรวดเร็ว เมื่อ มัตเตโอ เบียงเค็ตติ วางบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ดูดบอลลงอย่างสวย ก่อนกระดกบอลข้ามหัว ดาบิด เด เคอา ส่งบอลเข้าประตู อัซซูรินี่ ตีเสมอ 1-1

      นาทีที่12 สเปน เสียใบเหลืองอย่างรวดเร็ว หลัง โกเก้ ไปทำฟาวส์ ฟาบิโอ บอรินี่ เลยไม่รอดรับใบเหลืองจากผู้ตัดสินไปเป็นคนแรก

      5นาทีต่อมา อิตาลี เสียใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ ผู้ตัดสินมองว่า มาร์โก แวร์รัตติ ไปยกเท้าสูงใส่ โกเก้ เลยเสียใบเหลืองไปอีกคน และเสียฟรีคิกระยะอันตราย อิสโก้ ยิงติดกำแพง ก่อนบอลมาเข้าทาง คริสเตียน เตโย่ หลุดเข้าไปเปิดยัดเข้ากลางให้ โกเก้ ไขว้ยิง แต่ ฟรานเชสโก้ บาร์ดี้ เซฟไว้ได้

     นาทีที่25 อิตาลี ได้จบสกอร์แบบมีลุ้น หลังอาศัยจังหวะสวนกลับเล่นงาน โดย ฟาบิโอ บอรินี่ เปิดบอลให้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กระดกบอลข้ามหัว มาร์ก บาร์ตร้า ก่อนซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย แต่ ดาบิด เด เคอา ยังเซฟช่วยทีมกระทิงน้อย ได้อย่างหวุดหวิด

      นาทีต่อมา สเปน รับใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ คริสเตียน เตโย่ ไปเปิดปุ่มใส่ ฟาอุสโต้ รอสซี่ เลยโดนใบเหลืองไปอีกราย

      นาทีที่31 สเปน ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ โกเก้ เปิดบอลน้ำหนักเยี่ยม ข้ามหัว ลูก้า คัลดิโรล่า ให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พักบอลลงด้วยอก ก่อนตวัดยิงด้วยซ้าย บอลรอดตัว ฟรานเชสโก้ บาร์ดี้ เข้าประตูไป สเปน นำ 2-1

     นาทีที่37 สถานการณ์ของ อิตาลี ยิ่งเลวร้ายไปใหญ่ เมื่อเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ผู้ตัดสินมองว่า จูลิโอ โดนาติ ไปทำฟาวส์ คริสเตียน เตโย่ ล้มในกรอบเขตโทษ

      ก่อน ติอาโก้ อัลกันตาร่า รับหน้าที่สังหาร ก่อนยิงไม่พลาด ทำให้ สเปน นำห่าง 3-1 พร้อม ติอาโก้ อัลกันตาร่า ทำแฮตทริกให้ตัวเองได้สำเร็จ

      ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก สเปน จึงนำ อิตาลี อยู่ 3-1

      เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้แค่สองนาที "กระทิงดุ" สเปน เกือบมาได้ประตูที่สี่ เมื่อ ติอาโก้ เจ้าเก่าได้บอลจากนอกกรอบก่อนซัดเลียดด้วยขวาแต่ดีที่ ฟรานเชสโก้ บาร์ดี้ นายทวารอัซซูรินี่พุ่งปัดได้ทัน

       นาที 48 อินญิโก้ มาร์ติเนซ แนวรับสเปนโดนใบเหลืองหลังเข้าไปเสียบ ชิโร่ อิมโมบิเล่ หัวหอกของอิตาลี

      นาที 51 อัซซูรินี่มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างเมื่อ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ซัดเต็มข้อแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
     
      นาที 53 คริสเตียน เตโย่ ดาวรุ่งจากบาร์เซโลน่า กระชากบอลขึ้นมาทางริมเส้นก่อนจะตบเข้ากลางมาให้ อิสโก้ วิ่งมาใส่แบบไม่จับแต่บอลหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดาย

       นาทีที่ 58 อิตาลี เปลี่ยนตัวแก้เกมทีเดียวสองคนรวดโดยถอดเอา ชิโร่ อิมโมบิเล่ และ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ออก และส่ง มาโนโล่ กับเบียดินี่ กับ ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า ลงสนามแทน

       นาทีที่ 65 สถานการณ์ของอิตาลีย่ำแย่ไปอีก วาสโก เรจินี่ รับใบเหลืองอีกคนหลัง ไปเตะ มาร์ติน มอนโตย่า ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาเตจ์ ยุก ชี้เป็นลูกจุดโทษทันที
 
       นาทีที่ 65 อีสโก้ รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาด กระทิงดุหนีห่างเป็น 4-1

       นาทีที่ 71 สเปน เปลี่ยนตัวส่ง อิเคร์ มูเนียอิน ลงสนามมาแทน คริสเตียน เตโย่

      นาทีที่ 74 กระทิงดุเกือบได้ประตูเพิ่ม อัลบาโร่ โมราต้า หลุดเข้าไปยิงที่เสาแรก แต่ ฟรานเชสโก้ บาร์ดี้ ล้มตัวบล็อกไว้ได้

       นาทีที่ 76 อิตาลี เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง มาร์โก้ คริมี่ ลงสนามไปแทน  มาร์โก แวร์รัตติ

       และเพียงแค่นาทีเดียว มาร์โก้ คริมี่ ก็รับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ อิเคร์ มูเนียอิน

       นาทีที่ 80 อัซซูรินี่ไม่ยอมง่ายๆไล่มาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ ฟาบิโอ บอรินี่ ทำชิ่งกับ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เสียบโคนเสาสุดสวย

       นาทีที่ 80 สเปน เปลี่ยนตัวเอา อัลบาโร่ โมราต้า ออกและส่ง โรดริโก้ ลงแทน

       นาทีที่ 86 กระทิงดุ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง อิ๊กนาซิโอ คามาโช่ ลงสนามแทน โกเก้

      จบเกม สเปน ถล่ม อิตาลี ขาดลอย 4-1 ส่งผลให้ สเปน แชมป์เก่า คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ประจำปี 2013 และเป็นการได้แชมป์ทัวร์นาเม้นต์นี้สมัยที่ 4 ต่อจากปี 1986, 1998, 2011 ส่วน อิตาลี อดีตแชมป์เก่า 5 สมัย คว้ารองแชมป์ศึกนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1986 และศึกยูโร ชุดยู-21 ประจำปี 2015 รอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่สาธารณรัฐเช็ก


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


     สเปน(4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - มาร์ติน มอนโตย่า, มาร์ก บาร์ตรา, อินญีโก้ มาร์ตีเนซ, เอ็คตอร์ โมเรโน่ -  ติอาโก้ อัลกันตาร่า (กัปตันทีม), อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, โกเก้ (นาโช่ กามาโช่ น.85) - อีสโก้ อาลาร์กอน, อัลบาโร่ โมราต้า (โรดริโก้ น.80), คริสเตียน เตโย่ (อีเกร์ มูเนียอิน น.71)


     อิตาลี(4-4-2) : ฟรานเชสโก้ บาร์ดี้ - จูลิโอ โดนาติ, มัตเตโอ เบียงเค็ตติ, ลูก้า คัลดิโรล่า (กัปตันทีม), วาสโก เรจินี่ - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า น.58), ฟาอุสโต้ รอสซี่, มาร์โก แวร์รัตติ (มาร์โก คริมี่ น.76), ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ - ฟาบิโอ บอรินี่, ซิโร่ อิมโมบิเล่ (มาโนโล่ กับเบียดินี่ น.58)


     
     
     อีสโก้ อาลาร์กอน มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติสเปนและมาลาก้า คว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ประจำปี 2013 หลังจากเขามีส่วนสำคัญในการนำ สเปน คว้าแชมป์ไปครอง เมื่อต้อน อิตาลี 4-2 ในนัดชิงชนะเลิศที่ เยรูซาเล็ม, อิสราเอล เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 มิถุนายน

     สำหรับแมตช์ชิงชนะเลิศ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ กัปตันทีมสเปนทำแฮท-ทริค เหมาคนเดียวสามประตู นาทีที่ 6, 31, จุดโทษนาที 38 และ อีสโก้ สังหารจุดโทษปิดท้ายนาที 66

     และสุดท้าย อีสโก้ ได้รับการโหวตคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของศึกยูโร ชุดยู-21 ประจำปี 2013

      
     
ทำเนียบนักเตะยอดเยี่ยม ยูโร ชุด ยู-21
2000 - อันเดรีย ปีร์โล่ (อิตาลี) 
2002 - ปีเตอร์ เช็ก (สาธารณรัฐเช็ก)  
2004 - อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (อิตาลี)  
2006 - คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ (ฮอลแลนด์)  
2007 - รอยสตัน เดรนเธ่ (ฮอลแลนด์)  
2009 - มาร์คุส เบิร์ก (สวีเดน)  
2011 - ฆวน มาต้า (สเปน) 
2013 - อีสโก้ อาลาร์กอน (สเปน) 

สเปน (ยู-21)	สถิติหลังเกม	อิตาลี (ยู-21)
13(8)	ยิงทั้งหมด (เข้ากรอบ)	10(4)
12	ฟาวล์	18
3	เตะมุม	4
4	ล้ำหน้า	2
60%	เปอร์เซนต์การครองบอล	40%
3	ใบเหลือง	4
0	ใบแดง	0
1	ช็อตเซฟ	4