ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ยอมรับไทยอาจต้องลุ้นหนักเรื่องรักษาโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่มีคู่แข่งอย่างออสเตรเลีย โดยความเป็นไปได้มีแค่เท่าเดิมหรือน้อยลง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา  ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด พร้อมด้วย สตีฟ คิม ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาสโมสรของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เปิดแถลงข่าวภายหลังการมาตรวจระบบการจัดการของ 8 สโมสรในศึกไทยพรีเมียร์ลีกช่วงระหว่างวันที่ 15-19 ก.ค. 56 เพื่อนำคะแนนไปประเมินผลของภาพรวมลีกประเทศไทย สำหรับการจัดสรรโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2014

8 สโมสรที่เข้ารับการประเมินครั้งนี้ซึ่งจะส่งผลถึงคะแนนรวมของประเทศไทยประกอบด้วย แบงค็อก ยูไนเต็ด ,ราชบุรี มิตรผล, สุพรรณบุรี เอฟซี ,บีอีซี เทโรศาสน ,ทีโอที เอสซี ,เชียงราย ยูไนเต็ด ,สงขลา ยูไนเต็ด และ อาร์มี่ ยูไนเต็ด

สตีฟ คิม กล่าวว่า ตอนนี้วงการบอลไทย กำลังพัฒนาไปในทางที่ดี  สิ่งแรกที่เห็นในการเปลี่ยนแปลง ที่ชัดเจนมากที่สุดคือเรื่อง แบรนด์ดิ้ง และ การจัดการสนามทำได้ดีมาก แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ เรื่องไฟในสนามแข่งขัน โดยถ้าแข่งขันกันเองภายในประเทศ ความสว่าง 600 ลักซ์ ก็เพียงพอ แต่ถ้าเป็นการถ่ายทอดสดควรจะมีความสว่างของไฟ อยู่ที่ 1,200ลักซ์ และอีกเรื่องคือ หลายๆสโมสรมีสต๊าฟฟ์ไม่เพียงพอ และขาดในเรื่องความรู้ความเข้าใจ ตอนนี้ได้พูดคุยกับทาง “ทีพีแอล”แล้ว ว่าจะมีการประชุมกันในเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่ สโมสรไหนที่กำลังจะสร้างสนามขึ้นมาใหม่นั้น อยากจะขอให้ ศึกษารูปแบบ ของ “เอเอฟซี” ให้ดี

พร้อมกันนี้ ตัวแทน เอเอฟซี ยังได้กล่าวเพิ่มอีกว่า เรื่องหลักเกณฑ์การให้คะแนนนั้น เมื่อปี 2010 คะแนน เต็มอยู่ที่ 800 แต่ หลังจากนั้นเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,000 คะแนน โดยเรื่องแรกที่จะดูก็คือ การให้ความสำคัญต่อฟุตบอลในประเทศ ว่าทีมชาติและสโมสรมีความเก่งแค่ไหน ซึ่งถ้าสโมสรได้สิทธิ์คว้าตั๋วไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก ก็จะมีคะแนน ส่วนเรื่องที่ 2 คือ เรื่อง การตลาด ในเรื่องนี้ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะประเทศไทยมีคะแนนสูงอยู่แล้ว ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะได้โควตาไหม เพราะต้องไปตรวจอีกหลายประเทศ

ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เปิดเผยว่า เอเอฟซี จะมีการประกาศโควต้าของประเทศต่างๆในฟุตบอลถ้วยใบใหญ่สุดในปีี 2014 ออกมาในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าประเทศไทยจะได้รับจำนวนทีมเข้าแข่งขันเท่ากับ 2 ปีที่ผ่านมาคือเข้ารอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ 1 ทีมและเพลย์ออฟ 1 ทีมที่เรียกว่า 1+1

อย่างไรก็ตามไทยจะต้องแข่งขันอย่างหนักหน่วงกับประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถูกลดโควต้าในปีที่แล้วจาก 2+1 เหลือ 1+1 เท่ากับไทย เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงว่า เอเอฟซี จะผลักประเทศจากโซนตะวันตกที่มีจำนวนทีมล้น มาแบ่งโควต้ากับ โซนตะวันออกที่มีประเทศไทยอยู่ร่วมด้วย

นอกจากนี้ ดร.วิชิต ยังยืนยันว่าปัญหาระหว่างทีมศรีสะเกษ เอฟซี และ อีสาน ยูไนเต็ด ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้นั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการคิดคะแนนของเอเอฟซี แน่นอนเนื่องจากเกณฑ์หลักที่วางไว้ลีกสูงสุดแต่ละประเทศต้องมีทีมไม่ต่ำกว่า 10 ทีมและใช้ระยะเวลาแข่งขันไม่น้อยกว่า 8-9 เดือน ซึ่งหากตัดศรีสะเกษ ออกไปไทยก็ยังเหลือ 17 ทีมอยู่ในเกณฑ์ของเอเอฟซี 

สำหรับโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2014 ที่จะประกาศในเดือน พ.ย.นี้นั้น จะใช้เพียง 1 ปี และเอเอฟซี จะเดินทางไปตรวจสโมสรแต่ละประเทศอีกครั้งเพื่อประเมินจัดสรรโควต้าใหม่สำหรับฤดูกาล 2015-16