"เอบีซี" หนังสือพิมพ์ในสเปน ปูดข่าวเหตุผลแท้จริงที่ เรอัล มาดริด ตัดสินใจขาย เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี นั้นเป็นเพราะเอือมระอากับความไม่เป็นมืออาชีพของนักเตะ หลังชอบออกเที่ยวกลางคืนเป็นประจำจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน แถมพ่อของนักเตะยังขอเพิ่มค่าเหนื่อยให้ลูกชายสูงถึงปีละ 340 ล้านบาทในสัญญาฉบับใหม่ บีบให้ทัพ "ราชันชุดขาว" ต้องจำใจรับข้อเสนอของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ในที่สุด

" เอบีซี" หนังสือพิมพ์รายวันแดนกระทิงดุ รายงานว่า เมซุต โอซิล กองกลางคนใหม่ของ อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นพวกนักเที่ยวกลางคืนตัวยง และหลงแสงสียามค่ำคืนของกรุงมาดริดอย่างมาก ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ศึกลา ลีกา สเปน ตัดสินใจขายนักเตะออกไปก่อนปิดตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา
 
เอบี ซี พยายามรายงานการขาย โอซิล ออกไปนั้นไม่ใช่การขายด้วยเหตุผลเรื่องเงินธรรมดา แต่มีปัจจัยอื่นๆ ด้วย โดยระบุว่ามิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมนี หลงแสงสียามค่ำคืนของกรุงมาดริดถึงขั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยทีเดียว ทำให้ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานทัพ "ราชันชุดขาว" มอง โอซิล ว่า "ไม่เป็นมืออาชีพที่ดีพอ"
 
นอกจากนี้ยังรายงานว่า มาดริด มีแผนเสนอสัญญาใหม่ให้เพลย์เมกเกอร์วัย 24 ปี โดยพร้อมขึ้นค่าเหนื่อยให้เป็นปีละ 6.5 ล้านยูโร (ราว 260 ล้านบาท) ในสัญญาที่ยืดไปถึงปี 2018 แต่ มุสตาฟา พ่อของ โอซิล ต้องการให้เพิ่มเป็น 8.5 ล้านยูโร (ราว 340 ล้านบาท) และไม่พอใจที่ มาดริด ไม่ยอมจ่ายตามนั้น จึงนำลูกชายไปเสนอขายให้สโมสรในอังกฤษ, เยอรมนี และฝรั่งเศส
 
ความ ไม่เป็นมืออาชีพของอดีตดาวเตะแวร์เดอร์ เบรเมน บวกกับทัศนคติของพ่อของเขา เป็นตัวผลักดันให้ มาดริด ตัดสินใจยอมรับข้อเสนอ 50 ล้านยูโร (ราว 2,000 ล้านบาท) จากทัพ "ปืนใหญ่" ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. ก่อนที่นักเตะจะเซ็นสัญญาย้ายทีมในวันที่ 2 ก.ย.