ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี
 วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556
 กาลาตาซาราย (ตุรกี) 1-6 เรอัล มาดริด (สเปน)

สนาม: เติร์ก เทเลคอม อารีน่า, (อิสตันบูล, ตุรกี)
 
         เปิดเกมครึ่งแรกมา กาลาตาซาราย ได้โอกาสก่อนเลย จากจังหวะที่ เฟลิเป้ เมโล่ กองกลางชาวบราซิล ยิงไกลเล่นเอา อีเกร์ กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด ต้องปัดออกหลังไปในนาทีที่ 3
 
         สองนาทีต่อมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกชาวโปรตุกีสของชุดขาว กระชากมาส่องหลุดเสาซ้ายไป
 
         ผ่านมา 15 นาที อีเกร์ กาซียาส นายทวารของเรอัล มาดริด มีอาการบาดเจ็บในจังหวะออกมาตัดบอลแล้วชนกับ เซร์คิโอ รามอส เพื่อนร่วมทีม จนรายของ กาซียาส เจ็บชายโครง ต้องปฐมพยาบาลกันอยู่ครู่หนึ่งแล้วพันผ้ารอบลำตัว แต่เล่นต่อไม่ไหว เลยต้องให้ ดีเอโก้ โลเปซ ลงมาเฝ้าเสาแทน
 
         สี่นาทีต่อมา เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แตะบอลหนีกองหลังโดนสะกิดล้มในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินเฉย บอลทะลักมาทาง อังเคล ดิ มาเรีย ปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้น
 
         จากนั้นเป็นทีของ กาลาตาซาราย บ้าง เวสลี่ย์ สไนเดอร์ โยนให้กับ บูรัค ยิลมาซ โหม่งหลุดเสาซ้ายไปในนาทีที่ 25
 
         ครึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน เอนจิน บายตาร์ โยนให้กับ เฟลิเป้ เมโล่ โหม่งแต่ไม่ผ่านมือของ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารที่ถูกเปลี่ยนลงมาเป็นสำรองของเรอัล มาดริด
 
         อย่างไรก็ตามทีมเยือนขึ้นนำก่อนจนได้ในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย วางบอลจากขวาไปเสาสองให้กับ อีสโก้ เกี่ยวบอลลงด้วยซ้ายก่อนซัดด้วยขวาบอลชนเสาในเข้าไปอย่างสวยงามให้ เรอัล มาดริด ออกนำ 1-0
 
         ห้านาทีให้หลัง กาลาฯ ได้โอกาส เมื่อ เซคชุค อินาน ครอสให้กับ บูรัค ยิลมาซ เทคตัวโหม่งเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว
 
         นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เปเป้ ไปทำฟาวล์ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อย่างน่าเกลียด เลยต้องรับใบเหลืองไป ส่วน ดร็อกบา ต้องปฐมพยาบาลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเล่นต่อได้ ครบ 45 นาทีแรก เรอัล มาดริด บุกมานำก่อน 1-0
 
         กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เจ้าถิ่นต้องถอดเอา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนออกแล้วให้ นอร์ดิน ออมราบัต ลงมาเล่นแทน
 
         ทีมเยือนได้ลุ้นก่อนในนาที 47 เมื่อ ดิ มาเรีย ซัดไปติดเซฟของ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารชาวอุรุกวัยของกาลาตาซาราย บอลมาทาง โรนัลโด้ ซ้ำอีกทีไม่ผ่านมือของ มุสเลร่า
 
         นาทีเดียวกันนั้น กาลาฯ ได้โอกาสเมื่อ ออมราบัต ครอสให้กับ บูรัค ยิลมาซ โหม่งคนเดียวโล่งๆบอลหลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
 
         อย่างไรก็ตามเป็น เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไป เมื่อ ดิ มาเรีย วางบอลยาวขึ้นหน้ามา เมโล่ โหม่งสกัดไม่ดีบอลเลยมาถึง คาริม เบนเซม่า พาบอลควบเข้าไปยิงด้วยขวาผ่าน เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารกาลาฯเข้าประตูไปให้ราชันชุดขาว นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 54
 
         หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของเรอัล ได้ส่องบอลหลุดกรอบไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว อีกหนึ่งนาทีให้หลัง โรนัลโด้ ยิงไปติดเซฟของ มุสเลร่า อีกแล้ว
 
         เกมสวนกลับเร็วของเรอัล มาดริด นำไปสู่ประตูที่สาม เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ควบไปเปิดบอลจากสุดเส้นหลังของกรอบเขตโทษด้านซ้ายมาเสาสองให้ อีสโก้ โหม่งกลับเข้ามากลางบอลไปโดนกองหลังของกาลาฯ นิดหนึ่งมาตั้งให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดด้วยซ้ายจ่อๆเข้าไปไม่เหลือให้ ราชันชุดขาว นำขาด 3-0 ในนาที 63
 
         นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ส่ง แกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในโลก ลงสนามมาแทน อีสโก้ และเป็นการลงสนามนัดแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับเรอัล มาดริด ของเบล
 
         ขยับมานาที 66 ชุดขาว มาได้ประตูที่สี่เมื่อ แกเร็ธ เบล เปิดฟรีคิกจากทางด้านซ้ายเข้ามาหน้าประตูให้กับ เซร์คิโอ รามอส โหม่ง โดน มุสเลร่า ผู้รักษาประตูกาลาฯ ปัดออกมาเข้าทางของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดซ้ำเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ เรอัล มาดริด นำหายห่วง 4-0 และเป็นประตูที่สองของ โรนัลโด้ ในเกมนี้
 
         นาทีที่ 81 ชุดขาว มาได้เพิ่มอีกลูกนี้ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนดีดเรียดไปเสาไกลให้ เบนเซม่า ชาร์จเผาขนไม่เหลือเป็น 5-0
 
         นาทีที่ 84 ทีมดังแดนไก่งวงมาได้ประตูปลอบใจ จากจังหวะที่ นอร์ดิน อัมราบัต เปิดจากฝั่งขวาเข้ากลางให้ อูมุต บูรุต สอดมาแปตามน้ำเสียบเสาไกลเข้าไปไม่เหลือ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น จบเกม เรอัล มาดริด บุกถล่ม กาลาตาซาราย 5-1
 
         เกมทำท่าจะจบลงด้วยสกอร์ดังกล่าว แต่แล้วในช่วงทดเจ็บ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ทักษะเหนือชั้นด้วยการลากบอลหลบสามแนวรับเจ้าถิ่นก่อนหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านตัว เฟร์นานโด มุสเลร่า เข้าไปตุงตาข่าย เรอัล มาดริด หนีห่างเป็น 6-1 พร้อมเป็นแฮตทริกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเกมนี้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ กาลาตาซาราย ได้ท่วมท้น 6-1 เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน เก็บสามแต้มขึ้นนำจ่าฝูงของกลุ่ม
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         กาลาตาซาราย : เฟร์นานโด มุสเลร่า - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, ดานี่ เนิงเกอ, โอเรเลียง เชดฌู, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เอนจิน บายตาร์ (อาร์มินโด ตูเอ้ บรูม่า น.62), เฟลิเป้ เมโล่, เซลชุค อินาน (กัปตันทีม) - เวสลี่ย์ สไนเดอร์ - บูรัค ยิลมาซ, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (นอร์ดิน ออมราบัต น.46)
         สำรอง: เอราย อิสคาน (ผู้รักษาประตู) - ฮาคาน กาดีร์ บัลต้า, เซมีห์ คาย่า, ซาบรี ซาริโอกลู, อูมุต บูลุต
 
         เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส (ดีเอโก้ โลเปซ น.15) - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ซามี เคดิร่า, ลูก้า โมดริช - อังเคล ดิ มาเรีย, อีสโก้ (แกเร็ธ เบล น.64), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า
         สำรอง: นาโช่ เฟร์นานเดซ, คาเซมีโร่, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, เฆเซ่ โรดริเกซ, อัลบาโร่ โมราต้า
 
         ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก (อังกฤษ)