ฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556

เรอัล มาดริด 4-1 เคตาเฟ่ 

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน) 
 
　　"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เสียสถิติชนะสามนัดรวดในลีกลงไปแล้ว หลังจากบุกไปเสมอกับ บียาร์เรอัล มา 2-2 ในนัดล่าสุด แต่เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟอร์มดุดันมาก บุกไปถล่ม กาลาตาซาราย ยับเยิน 6-1 
 
　　เกมนี้ไม่มีพวกที่เจ็บอย่าง มาร์เชโล่ วิเอยร่า กับ ชาบี อลอนโซ่ รวมไปถึง อีเกร์ กาซียาส นายทวารทีมชาติสเปนที่บาดเจ็บซี่โครง ขณะที่ล่าสุด แกเร็ธ เบล ปีกค่าตัวแพงที่สุดในโลก 100 ล้านยูโร มีอาการบาดเจ็บต้นขาซ้ายในช่วงวอร์มอัพก่อนเริ่มเกมเลยชวดออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างน่าเสียดาย แต่ได้  ราฟาแอล วาราน ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส หายบาดเจ็บกลับมามี่ชื่อเป็นสำรอง 
 
　　ทาง "เอล เกตา" เคตาเฟ่ ผู้มาเยือนเก็บชัยได้แค่นัดเดียวในการลงสนาม 4 นัดแรก เกมนี้ต้องขาด เมห์ดี้ ลาเซน ที่บาดเจ็บอยู่ แต่ตัวรุกยังมีตัวเก่งๆอย่าง อังเคล ลาฟีต้า, เปโดร เลออน และ ดีเอโก้ กาสโตร ปั้นเกมให้กับ นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" กองหน้าตัวเป้าเข้าทำประตู 
 
　　ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 3 นาที เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมาแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้  ได้สับไกด้วยซ้ายหลุดเสาไป 
 
　　สองนาทีให้หลังเป็น เคตาเฟ่ ออกนำก่อนจนได้จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปเสียบอลเลยโดน นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" จ่ายให้กับ อังเคล ลาฟีต้า ลากมายิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลแฉลบตัว เปเป้ นิดหนึ่ง ก่อนจะเข้าประตูไปให้ทีมเยือนนำก่อน 1-0 
 
　　ผ่านมา 9 นาที เคตาเฟ่ ทำได้ดีทีเดียว เปโดร เลออน กองกลางตัวกลั่นกดด้วยขวาบอลหลุดเสาสองออกไป 
 
　　เรอัล มาดริด กลับมาคุมเกมได้แล้วมีโอกาสบ้างในนาทีที่ 14 เบนเซม่า ไหลให้กับ โรนัลโด้ ยิงไปติดบล็อคของ อเล็กซิส รูอาโน่ กองหลังเคตาเฟ่ ออกหลังไป
　　

　　ห้านาทีต่อมา ราชันชุดขาว ทวงประตูคืนได้สำเร็จจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย โยนจากซ้ายมาเสาสองให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จับหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา ไปติด มิเกล อังเคล โมย่า นายทวารเคตาเฟ่ บอลทะลักมาทาง เปเป้ ซ้ำด้วยขวาจ่อๆเข้าไปไม่เหลือให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 
 
　　เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 เจ้าถิ่นบดต่อเนื่อง ดิ มาเรีย โยนฟรีคิกให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงด้วยขวาเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
 
　　ชุดขาวกระหน่ำหนักขึ้นเรื่อยๆ โรนัลโด้ ไหลให้กับ ดิ มาเรีย ซัดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่โดน เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ มาขวางบอลออกหลังไปได้ทัน เมื่อผ่านมาครึ่งชั่วโมง 
 
　　อย่างไรก็ตามนาทีที่ 33 เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปั่นฟรีคิกไปโดนแขนของ มิเชล มาเดร่า ดาวเตะของทีมเยือนที่พยายามโดดขึ้นบล็อคบอล ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารด้วยขวาเข้าไปให้ราชันชุดขาว นำ 2-1 
 
　　นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เคตาเฟ่ ต้องเปลี่ยนเอา อังเคล ลาฟีต้า ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วให้ ปาโบล ซาราเบีย ลงมาเล่นแทน หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 2-1 
 
　　มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เคตาเฟ่ เปลี่ยนเอา โรเบร์โต้ ลาโก้ ลงมายืนเป็นแบ็คซ้ายแทน เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ 
 
　　รูปเกมช่วงต้นครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ยังบดหนัก เบนเซม่า มีโอกาสสองครั้งซ้อน แต่จังหวะแรกยิงมุมแคบหลุดกรอบไป และ อีกครั้ง เบนเซม่า สับด้วยซ้ายแต่ไม่ผ่านมือของ
มิเกล อังเคล โมย่า นายทวารเคตาเฟ่ 
 
　　กระเถิบมานาทีที่ 56 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก ดิ มาเรีย ปั่นโค้งด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมไปชนิดได้ลุ้น 
 
　　ทว่า 3 นาทีต่อมา เรอัล มาดริด มาหนีห่าง 3-1 เมื่อ อีสโก้ กระชากเข้าไปปั่นด้วยขวาบอลโค้งเข้าเสาไกลไปอย่างสุดสวย 
 
　　มาถึงนาทีที่ 61 ดิ มาเรีย ปีกตัวเก่งของชุดขาวเปิดบอลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดด้วยขวาจากนอกเขตแต่โดน มิเกล อังเคล โมย่า นายทวารเคตาเฟ่ ปัดไว้ได้ 
 
　　ท้ายเกมนาทีที่ 85 ทีมเยือนเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ มิเชล มาเดร่า ไปสกัด เฆเซ่ โรดริเกซ กองหน้าดาวรุ่งของเรอัล มาดริด อย่างน่าเกลียด เลยโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป จากลูกฟรีคิก โรนัลโด้ ปั่นข้ามคานไป  
 
　　ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 เรอัล มาดริด มาได้ประตูปิดท้ายจากจังหวะที่ ซามี เคดิร่า เปิดจากกรอบเขตโทษด้านขวาเข้ากลางให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไขว้บอลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นให้ ราชันชุดขาว นำขาด 4-1 
 
　　เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านไล่ถล่ม เคตาเฟ่ ที่เหลือแค่ 10 คนไปได้ท่วมท้น 4-1 เก็บสามแต้มได้ตามเป้าหมาย 
 
　　รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
　　เรอัล มาดริด: ดีเอโก้ โลเปซ - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, นาโช่ เฟร์นานเดซ, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ซามี เคดิร่า, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ (ลูก้า โมดริช น.77) - อังเคล ดิ มาเรีย, อีสโก้ (เฆเซ่ โรดริเกซ น.84), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (อัลบาโร่ โมราต้า น.80)
　　สำรองไม่ได้ใช้: เฆซุส เฟร์นานเดซ (ผู้รักษาประตู) - เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, คาเซมีโร่
 
　　เคตาเฟ่: มิเกล อังเคล โมย่า - อเล็กซิส รูอาโน่, อัลบาโร่ อาร์โรโย่ (ราฟา โลเปซ น.70), ลิซานโดร โลเปซ, เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ (โรเบร์โต้ ลาโก้ น.46) - เปโดร มอสเกวร่า, มิเชล มาเดร่า - อังเคล ลาฟีต้า (ปาโบล ซาราเบีย น.45+1), เปโดร เลออน, ดีเอโก้ กาสโตร - นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู" 
　　สำรองไม่ได้ใช้: จอร์ดี้ โกดีน่า (ผู้รักษาประตู) - บอร์ฆา เฟร์นานเดซ, ไคเม่ กาบิลาน, อาเดรียน โกลุนก้า
 
　　ผู้ตัดสิน: ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลาน