ดาบิด บีย่า ฟอร์มสุดร้อนหลังซัดไปสองตุงแถมจ่ายให้เพื่อนยิงอีกหนึ่งช่วย "ตราหมี" แอต. มาดริด เปิดบ้านไล่ยำใหญ่ใส่ เรอัล เบติส ไม่เหลือซาก 5-0 รับสามแต้มตามเป้าพร้อมยึดรองฝูงเหนียวแน่นโดยมีคะแนนตาม บาร์เซโลน่า หัวตารางเพียงแต้มเดียวเท่านั้น ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา

 
ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

(นัดที่ 10 ฤดูกาล 2013-14)

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556

แอต.มาดริด 5 - 0 เรอัล เบติส

สนาม: เอสตาดิโอ บิเซนเต้ กัลเดร่อน, (มาดริด, สเปน)   ผู้ชม: 50,000 คน

        คู่นี้เจอกัน 5 นัดหลังสุด (จากทุกรายการ) นั้น ปรากฏว่า แอต.มาดริด ไม่เคยแพ้เลย ชนะ 3 เสมอ 2 นัด โดยเกมนี้ "ตราหมี" ต้องขาด เลโอ บาปติสเตา กองหน้าชาวบราซิล ที่บาดเจ็บ รวมไปถึง อาร์ด้า ตูราน ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ได้ ชูเอา มิรานด้า กองหลังวัย 29 ปี ชาวบราซิลกลับมาลงสนามได้

        ในแดนหน้าเรียก ดาบิด บีย่า กองหน้าจอมเก๋ากลับมาเป็น 11 คนแรก เพื่อลงล่าตาข่ายร่วมกับ ดีเอโก้ คอสต้า ดาวซัลโวสูงสุดของลา ลีกา ยามนี้ (10 ประตู)

        ทางด้าน เรอัล เบติส แพ้ถึง 3 จากการลงสนาม 4 เกมหลังสุด ต้องขาด เอเดร์ บีลาร์เชา, ชาบี ตอร์เรส และ รูเบน กาสโตร ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน โดยหน้าเป้าวาง มานูเอล เฆซุส ชูลี่ ลงสังหาร

        ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 15 วินาที ตราหมี ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ติอาโก้ เมนเดส เปิดบอลขึ้นหน้ามาให้กับ โกเก้ ทำชิ่งกับ ดีเอโก้ คอสต้า ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น โกเก้ เปิดจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายมาเสาสองให้ โอลิเบร์ ตอร์เรส ดาวรุ่งวัย 18 ปี แปด้วยขวาเบียดเสาเข้าไปให้ แอต.มาดริด นำเร็วเหลือเกิน 1-0

        ผ่านมา 15 นาที แอต.มาดริด ยังเล่นได้ดีกว่า โอลิเบร์ ตอร์เรส โยนให้กับ ดีเอโก้ โกดิน ขึ้นโหม่งจ่อๆ หลุดกรอบออกไป

        เจ้าบ้านบุกตลอด มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 29 เมื่อ ดีเอโก้ คอสต้า โยนให้กับคู่ขาอย่าง ดาบิด บีย่า ขึ้นโหม่งบอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่ กีเยร์โม่ ซาร่า นายทวารเบติส ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

        ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ห้านาที ตราหมี ได้ลุ้นอีก ดีเอโก้ คอสต้า ได้สอดมายิงด้วยขวาบอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

        นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก กาบี เปิดให้กับ ดีเอโก้ คอสต้า ส่องด้วยขวาเน้นๆ ทว่า กีเยร์โม่ ซาร่า นายทวารเบติส ปัดออกไปได้ หมดครึ่งแรก แอต.มาดริด นำก่อน 1-0

        เข้าสู่ครึ่งหลัง เบติส เปลี่ยนเอา กีเยร์โม่ ซาร่า ผู้รักษาประตูที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วให้ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ลงมาเฝ้าเสาแทน รวมทั้งให้ ฆอร์เค่ โมลีน่า ลงมาเพิ่มพลังสังหารในแดนหน้าแล้วถอด โลเรนโซ่ เรเยส ในนาที 48

        เขยิบมาถึงนาทีที่ 53 ตราหมี มาได้ประตูที่สองจนได้จากการประสานงานกันอย่างสวยงาม และจังหวะสุดท้าย ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์กี้ แบ็คซ้ายดันขึ้นมาเปิดจากซ้ายไปเสาแรกให้ ดาบิด บีย่า สอดมาโหม่งเช็ดบางๆเข้าเสาไกลไปอย่างสุดคลาสสิคช่วยให้ แอต.มาดริด นำ 2-0 แล้ว

        สี่นาทีต่อมา เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สาม เมื่อโต้กลับเร็วขึ้นมา ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์กี้
จ่ายจากซ้ายมาเสาสองให้กับ ดาบิด บีย่า ล็อคหลบกองหลังเบติส แล้วตะบันด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ แอต.มาดริด ทิ้งห่าง 3-0 และเป็นประตูที่สองของบีย่า ในเกมนี้แล้ว

        ข้ามมาถึงนาทีที่ 64 เกมของตราหมี ดีกว่าเยอะ มาได้ประตูที่สี่อีกจากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า เกี่ยวบอลลงแล้วแปกระแทกขึ้นหน้าให้กับ ดีเอโก้ คอสต้า สอดมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนแปด้วยซ้ายเล่นทางเข้าเสาไกลไปให้ แอต.มาดริด ทิ้งขาด 4-0 และเป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในลา ลีกา ซีซั่นนี้ นำเป็นดาวซัลโวต่อไป

        ยังไม่พอ นาทีที่ 92 ตราหมีมาได้ประตูปิดกล่อง 5-0 จาก กาบี เฟร์นานเดซ

        จบเกม แอต.มาดริด เปิดบ้านทุบ เบติส ไปได้สวยงาม 5-0 เก็บอีกสามแต้ม รั้งรองจ่าฝูงเหนียวแน่น มีแต้มตามหลัง บาร์เซโลน่า ทีมนำแค่คะแนนเดียวเท่านั้นเอง

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

        แอต.มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์ - ฆวนฟราน ตอร์เรส, ชูเอา มิรานด้า, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ หลุยส์ กาสมีร์กี้ - โกเก้ (คริสเตียน โรดริเกซ น.68), ติอาโก้ เมนเดส, กาบี เฟร์นานเดซ (กัปตันทีม), โอลิเบร์ ตอร์เรส (อาเดรียน โลเปซ น.60) - ดาบิด บีย่า, ดีเอโก้ คอสต้า
        สำรองไม่ได้ใช้: ยาสซีน บูนู (ผู้รักษาประตู) - มาริโอ ซูอาเรซ, ราอูล การ์เซีย, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอมิลิอาโน่ อินซูอา

        เรอัล เบติส: กีเยร์โม่ ซาร่า (สเตฟาน อันเดอร์เซ่น น.46) - ฆวนฟราน โมเรโน่, ดาเมียง แปร์กกิส, จอร์ดี้ ฟิเกราส, ดีดัค บีล่า - โนซ่า อิเกียบอร์, ฆาเบียร์ มาตีย่า "มาติ" - เซดริก มับวาติ, โลเรนโซ่ เรเยส (ฆอร์เค่ โมลีน่า น.48), อัลบาโร่ บาดีโญ่ (โนโน่ น.64) - มานูเอล เฆซุส ชูลี่
        สำรองไม่ได้ใช้: ฆาเบียร์ ชีก้า, ฆวน การ์ลอส, ซัลบา เซบีย่า, นาโช่ เปเรซ

         ผู้ตัดสิน: ฆวน มาร์ตีเนซ มานวยร่า