"เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ สุดโหด เปิดบ้านถล่มยับ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช จนหาทางกลับบ้านไม่เจอ 7-0 โดยเรียงหน้ายิงแบบไม่ซ้ำหน้าอีกต่างหาก ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2556

แมนฯ ซิตี้ 7-0 นอริช ซิตี้

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม


         แมนฯ ซิตี้ ปรับทีมจากเกมลีก คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วพอสมควร แต่ที่น่าสนใจคือนายทวารมือหนึ่งยังดร็อปโจ ฮาร์ท นายด่านทีมชาติอังกฤษ ไว้ข้างสนามแล้วส่งคอสเตล ปันติลิม่อน ลงเฝ้าเสาต่อทำให้ฮารท์ ยุติสถิติลงสนามเป็นตัวจริงในลีกติดต่อกันอยู่ที่ 127 เกม 


         ขณะที่แนวรุกดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ และ อัลบาโร่ เนเกรโด้ กลับมาเป็นตัวจริง นอกจากนั้น 11 ตัวจริงของเจ้าถิ่นไม่มี


         ฝั่งนอริช ซิตี้ ก็ปรับทีมจากเกมลีก คัพ เยอะเช่นกันแอนโธนี่ พิลคิงตัน และ แกรี่ ฮูเปอร์ คัมแบ็กกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง เช่นเดียวกับโจนาธาน ฮาวสัน


         เริ่มเกมขึ้นมาเจ้าบ้านเดินหน้าบุกตามคาดและมีโอกาสขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 14 เมื่อดาบิด ซิลบา จ่ายบอลให้ซามีร์ นาสรี่ ลองซัดด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งไปชนะเสาอย่างน่าเสียดาย


         อย่างไรก็ตามสองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นก็ได้ประตูจากจังกวะที่กาเอล กลิชี่ เติมขึ้นมาทางซ้ายแล้วเปิดเข้ามาให้ดาบิด ซิลบา ยิงไปติดบล็อค บอลยังมาเข้าทางเซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงอีกครั้งบอลยังติดแบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน ทว่าบอลย้อยผ่านจอห์น รัดดี้ ที่ทิ้งตัวไปแล้วเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0


         "เรือใบสีฟ้า" เริ่มได้ใจนาทีที่ 20 ก็มาได้ประตูที่สองเมื่อเซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษก่อนไหลกลับมาให้ดาบิด ซิลบา ยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งลอดตัวรัดดี้ เข้าไปไม่เหลือ สกอร์เป็น 2-0


         แนวรับทีมเยือนแย่เหลือเกินนาที 25 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำ 3-0 จากลูกเตะมุมทางขวาที่นาสรี่ เปิดไปกลางประตูให้มาติย่า นาสตาซิซ โหม่งไปแฉลบหัวรัสเซลล์ มาร์ติน นิดๆเข้าประตูไปชนิดรัดดี้ หมดสิทธิ์เซฟ


         เกมผ่านถึงนาทีที่ 36 สกอร์ห่างเป็น 4-0 ดาบิด ซิลบา ได้บอลทางซ้ายของเขตโทษก่อนปล่อยให้ยาย่า ตูเร่ ตักบอลทะลุช่องให้เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดไปปาดเข้าไปหน้าประตูให้อัลบาโร่ เนเกรโด้ ยิงง่ายๆเข้าไป


         นาทีถัดมานอริช หาโอกาสตอบโต้บ้าง โดยได้โอกาสลุ้นประตูจากลูกยิงไกลนอกเขตโทษของแอนโธนี่ พิลคิงตัน แต่ปันติลิม่อน ล้อมตัวปัดออกหลังไปได้


         ก่อนจบครึ่งแรก 5 นาที เจ้าบ้านหาโอกาสบวกสกอร์เพิ่มได้อีกครั้งคราวนี้เนเกรโด้ ได้บอลทางซ้ายในเขตโทษแล้วจ่ายไปให้ยาย่า ตูเร่ พลิกยิงกลางประตู แต่ตรงตัวจอห์น รัดดี้ เซฟเอาไว้ได้ ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำห่าง 4-0


        กลับมาเล่นครึ่งหลังทีมเยือนเปลี่ยนสองนักเตะทันทีโดยส่งโยฮัน เอลมานเดอร์ กับ จอช เมอร์ฟี่ ลงสนามแทนแกรี่ ฮูเปอร์ และสตีเว่น วิตเทเกอร์ ส่วนเจ้าถิ่นถอดอัลบาโร่ เนเกรโด้ ไปพักแล้วให้เอดิน เชโก้ ลงสนามแทน


         เกมส่วนใหญ่ยังเป็นของเจ้าถิ่นแต่นอริช ซิตี้ มีโอกาสตีไข่แตกในนาทีที่ 53 เมื่อแบร็ดลี่ย์ จอห์นสัน เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดมาเสาแรกให้โยฮัน เอลมานเดอร์ แปโล่งๆไม่เข้ากรอบ


         นาทีถัดมาแมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูที่ห้าจากจังหวะที่ นาสรี่ พาบอลแหวกแนวรับทีมเยือนในเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟรัดดี้ ก่อนที่ "กุน" วิ่งตามไปยิงซ้ำแต่เข้าด้านข้างตาข่าย


         ผ่านถึงนาทีที่ 60 "เรือใบสีฟ้า" ทิ้งไกลสุดกู่ 5-0 จากจังหวะที่เอดิน เชโก้ โดนแบร๊ดลี่ย์ จอห์นสันทำฟาวล์หน้าเขตโทษ ก่อนที่ยาย่า ตูเร่ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาเสียบเสาแรกเข้าไป


         นาทีที่ 71 เจ้าถิ่นได้ประตูที่หกจากการขึ้นเกมทางซ้ายของดาบิด ซิลบา ก่อนเปิดไปหน้าประตูเซบาสเตียง บาสซง สกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ซัดไม่เหลือแมนฯ ซิตี้ นำไกล 6-0


         ก่อนหมดเวลา4นาที แมนฯซิตี้ มายิงได้อีก จาก เอดิน เซโก้ แม้เจ้าถิ่นนำห่างแต่ก็ยังเป็นฝ่ายครองบอลบุกต่อเนื่อง แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ถล่มนอริช ซิตี้ สบายเท้า 7-0 เก็บสามแต้มนิ่มๆ
 
 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 แมนฯ ซิตี้ : คอสเตล ปันติลิม่อน, ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ซามีร์ นาสรี่, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่, อัลบาโร่ เนเกรโด้   

 สำรอง : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เชโก้, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, เฆซุส นาบาส  

 นอริช ซิตี้  : จอห์น รัดดี้, รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เซบาสเตียง บาสซง, มาร์ติน โอลส์สัน, โจนาธาน ฮาวสัน, ลีรอย เฟอร์, แบร๊ดลี่ย์ จอห์นสัน, สตีเว่น วิตเทเกอร์, แอนโธนี่ พิลคิงตัน, แกรี่ ฮูเปอร์ 

 สำรอง : มาร์ค บันน์, เวส ฮูลาแฮน, โยฮัน เอลมานเดอร์, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, ลูชาโน่ เบ็คคิโอ, ไรอัน เบนเน็ตต์, จอช เมอร์ฟี่  

 ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์