"สิงห์บลูส์" เชลซี เกือบเอาตัวไม่รอด! ได้ เอแด็น อาซาร์ สวมบทฮีโร่ซัดลูกโทษในช่วงทดเจ็บ ตีเสมอ "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช แบบหืดขึ้นคอ 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์

 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2556

เชลซี 2-2 เวสต์บรอมวิช


        สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


        การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2013/14 ระหว่าง "สิงห์บลูส์" เชลซี ทีมรองจ่าฝูง เปิดบ้านรับมือ "เดอะ แบ็กกี้ส์" เวสต์บรอมวิช อันดับ 11 ของตาราง ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์


        เชลซี จัดเต็มสูบ มีการปรับแค่แนวรับส่ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ลงเล่นวิงแบ็กแทน แอชลี่ย์ โคล ส่วนแนวรุก เอแด็น อาซาร์ กลับมายึดตัวจริงอีกครั้ง โดยมี ซามูเอล เอโต้ ยืนหอกเป้าเช่นเดิม


        ส่วน เวสต์บรอมวิช ไม่มีปัญหาจัดทัพยึดชุดเดิม นำโดย 3 ประสานแแดนหน้า คริส บรันท์, สเตฟาน แซสเซญง และ เชน ลอง



        โอกาสแรกของเกมกลับเป็นของ เวสต์บรอมวิช จากบอลยาวขึ้นหน้าแล้วเป็น เชน ลอง พักบอลให้ มอร์กก็อง อามัลฟิตาโน่ สับไกยิงนอกเขตบอลปลิ้นหลุดเสาไปได้ลุ้น ในนาทีที่ 8


         นาทีที่ 15 แฟร้งค์ แลมพาร์ด มาโดนใบเหลืองแรกของเกมหลังไปตัดเกม เชน ลอง ผู้เล่นเจ้าถิ่นในจังหวะสวนกลับ


        เกมช่วงแรก เชลซี ทำเกมได้ชัดเจนกว่า เป็นฝ่ายครองบอลเข้าใส่ แต่โอกาสสุดท้ายยังไม่เฉียบคม


        วิลเลี่ยน ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ ซามูเอล เอโต้ ได้โขกแต่บอลข้ามคานไปเยอะ ในนาทีที่ 19


         นาทีที่ 29 เคลาดิโอ ยาค็อบ ห้องเครื่องอาร์เจนไตน์ มารับใบเหลืองเป็นคนแรกของทีมเยือนบ้าง หลังไปเตะเข้าข้างหลัง เอแด็น อาซาร์


        จากลูกฟรีคิกต่อเนื่องระยะ 25 หลาหน้าเขตโทษพอดี ออสการ์ รับหน้าที่ปั่นบอลข้ามกำแพงจะเสียบคานอยู่แล้ว แต่ โบอาซ มายฮิลล์ โชว์เหนียวบินปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด


        นาทีที่ 36 เชลซี ได้ลุ้นอีกครั้ง ออสการ์ คนเดิมพาบอลลากไปยิงหน้าเขตโทษ แต่ยิงไม่ดีบอลเหินข้ามคานไปเยอะ


        เข้าสู่ 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เกมรุกของ "สิงห์บลูส์" ชักจะตื้อๆ ไม่สามารถเจาะแนวรับของ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ที่คุมโซนได้ดีไปได้


         แต่ในนาทีสุดท้ายพอดี เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากลูกเลี้ยงริมเส้นซ้ายของ แอแด็น อาซาร์ ลากตัดเข้ากลางและซัดทันที โบอาซ มายฮิลล์ ปัดออกมาได้แต่ไม่พ้นอันตราย ซามูเอล เอโต้ วิ่งแซง เลียม ริดจ์เวลล์ แหย่บอลเข้าประตูโล่งๆ


         และจังหวะดีใจเกินเหตุ ซามูเอล เอโต้ รับใบเหลืองตามระเบียบ


         ในช่วงทดเจ็บ 3 นาที เชน ลอง มารับใบเหลืองอีกคน หลังไปฟาลว์ใส่ จอห์น เทอร์รี่


        ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ เชลซี เปิดรังนำ เวสต์บรอมวิช 1-0


        ครึ่งหลังเริ่มมา เชลซี ไม่รอช้าโจมตีบุกใส่ทันที ออสการ์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองแม่นราวจับวางเข้าเท้า เอแด็น อาซาร์ พอดีแต่ดาวยิงเบลเยียมจับบอลไม่ดีปลิ้นไปเข้ามือของ โบอาซ มายฮิลล์ อย่างน่าเสียดาย


        นาทีที่ 57 เวสต์บรอมวิช เกือบตีเจ๊าได้จากลูกเปิดริมเส้นด้านขวาเข้าหัวของ เชน ลอง โหม่งเต็มๆ บอลพุ่งชนโคนเสาออกมา


        นาทีถัดมา เชลซี เอาคืน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลองยิงไกลบ้างบอลเฉียดคานนิดเดียว


         นาทีที่ 60 "เดอะ แบ็กกี้ส์" มาตีเสมอจนได้ จากลูกเตะมุมของ มอร์กก็อง อามัลฟิตาโน่ บอลเข้าหัว แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ โขกเต็มๆ แต่ ปีเตอร์ เช็ก เซฟไว้ได้บอลยังลอยกลางอากาศและเป็น เชน ลอง ปรี่มาโขกซ้ำเผาขนแค่ 2 หลาตุงตาข่าย สกอร์ 1-1 แล้ว


         4 นาทีต่อมา โชเซ่ มูรินโญ่ อยู่เฉยไม่ได้เปลี่ยนเอา เดมบา บา ลงมาเสริมแดนหน้าแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด และปรับระบบเป็น 4-4-2 เน้นรุกเต็มตัว


         กลายเป็นบอลได้ใจซะแล้ว เวสต์บรอมวิช มาช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นยิงแซงนำ 2-1 เมื่อทำเกมขึ้นมาจากราบซ้ายบอลไหลมาถึง สเตฟาน แซสเซญง หน้าเขตโทษก่อนล็อกหลบดึงจังหวะกองหลัง เชลซี และซัดด้วยซ้ายบอลลอดแขน ปีเตอร์ เช็ก ที่ขาตายเข้าไปง่ายๆ ในนาทีที่ 68


         นาทีที่ 73 เชลซี เปลี่ยนรวดเดียว 2 คน ส่ง จอห์น โอบี มิเคล กับ ฆวน มาต้า ลงไปแทน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ ออสการ์


         นาทีที่ 79 "เดอะ แบ็กกี้ส์" เปลี่ยนตัวบ้างส่งหัวหอกสำรอง วิคเตอร์ อนิเชบี้ ลงมาแทน เชน ลอง


        10 นาทีสุดท้าย วิลเลี่ยน ได้โอกาสโขกเหน่งๆ ระยะแค่ 5 หลา บอลข้ามคานไม่น่าเชื่อ


         นาทีต่อมา เวสต์บรอมวิช เปลี่ยนอีกคนส่ง เจมส์ มอร์ริสัน ลงมาเล่นแทน สเตฟาน แซสเซญง คนทำประตู


         นาทีที่ 89 ทีมเยือนปรับเน้นรับเปลี่ยนเอากองหลัง โกรัน โปปอฟ ลงมาแทน มอร์กก็อง อามัลฟิตาโน่


        เชลซี โหมบุกอย่างหนักแต่ยังเจาะไม่เข้า แนวรับ เวสต์บรอมวิช ช่วยกันดีเหลือเกินในเกมนี้


        ช่วงทดเจ็บนาทีแรก เวสต์บรอมวิช ใช้ลูกโต้กลับเล่นงาน คริส บรันท์ ได้บอลหลุดมายิงหน้าเขตแต่ข้ามคานไม่ได้ลุ้น


        ทดเจ็บนาทีสุดท้าย เกิดเหตุการณ์คลาสสิคเมื่อ เชลซี ได้ลูกจุดโทษ หลัง เลียม ริดจ์เวลล์ ไปฟาลว์ รามิเรส ในเขตโทษ


         เลียม ริดจ์เวลล์ ได้รับใบเหลืองไปด้วย


         เอแด็น อาซาร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดพาทีมตีเจ๊าได้สำเร็จ 2-2 


        ช่วงท้ายเกมนักเตะทีมเยือนไม่พอใจคำตัดสินพยายามประท้วงปู้ตัดสิน แต่ไม่ทัน จบเกม เชลซี รอดตาย! ไล่ตีเจ๊า เวสต์บรอมวิช เต็มกลืน 2-2


        รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


        เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ออสการ์, วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์, ซามูเอล เอโต้


        สำรอง : มาร์ค ชวาร์เซอร์, แอชลี่ย์ โคล, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น โอบี มิเคล, เควิน เดอ บรอยน์, ฆวน มาต้า, เดมบา บา


        เทรนเนอร์ : โชเซ่ มูรินโญ่


        เวสต์บรอมวิช (4-3-3) : โบอาซ มายฮิลล์, สตีเว่น รีด, แกเร็ธ แม็คออลี่ย์, โยนัส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์, มอร์กก็อง อามัลฟิตาโน่, เคลาดิโอ ยาค็อบ, ยุสซุฟ มูลุมบู, คริส บรันท์, สเตฟาน แซสเซญง, เชน ลอง


        สำรอง : ลุค แดเนี่ยลส์, โกรัน โปปอฟ, เคร็ก ดอว์สัน, ไซโด เบราฮิโน่, เจมส์ มอร์ริสัน, วิคเตอร์ อนิเชบี้, มาเต็จ วีดร้า


        เทรนเนอร์ : สตีฟ คล้าร์ก


        ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต