อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2014

    รอบชิงชนะเลิศ

    วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557

   แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3-1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

        สนาม : ซันไลฟ์ สเตเดี้ยม, สหรัฐอเมริกา

        รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา กลายเป็นเกม "แดงเดือด" ของสองทีมใหญ่อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ชาวดัตช์ของทัพ "ปีศาจแดง" จัดวางผู้เล่นในระบบ 3-5-2 แนวรุกนำทัพโดย  เวย์น รูนี่ย์ และชิชาริโต้ โดยมี เอร์เรร่า และดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ คุมแดนกลาง โดยมี  อันโตนิโอ วาเลนเซีย และแอชลี่ย์ ยัง เล่นเป็นริมเส้นขวา และซ้าย

        ส่วนทางด้าน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ขาด แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่บาดเจ็บและส่งตัวกลับอังกฤษไปแล้วส่งสามประสานแนวรุกทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง, ริคกี้ แลมเบิร์ต และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมเชื่อมเกมรุกร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และโจ อัลเลน

        ครึ่งแรกเปิดฉากเป็นลิเวอร์พูลที่ได้บุกก่อนนาทีที่ 2 ได้เตะมุมทางฝั่งขวาเจอร์ราร์ดเปิดเข้าไปหน้าประตูแต่โดนแอชลี่ย์ ยัง เคลียร์ทิ้งออกไปได้

        นาทีที่ 5 ผีแดงหวิดได้เมื่อขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ยัง เปิดจากริมกรอบโทษไปเสาสอง ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นานเดซ สอดเข้าไปเหยียดขายิงโล่งๆแต่โดนไม่ดีเหมือนเป็นหยุดบอลเลยโดนมามาดู ซาโก้เตะสกัดออกไปก่อนที่รูนี่ย์จะตามซ้ำดาบสอง

         นาทีที่ 8 ผีแดงต้องเปลี่ยนวาเลนเซียที่มีอาการบาดเจ็บออกส่ง ลุค ชอว์ลงมาแทน

        นาทีที่ 9 เป็นโอกาสของหงส์แดงเมื่อได้ฟรีคิกหน้ากรอบโทษ เจอร์ราร์ดเล่นลูกสูตรหลอกตักหยอดเข้าไปหน้าประตู ชิชาริโต้ที่ลงต่ำไปช่วยเกมรับโหม่งสกัดไม่ดีกลายเป็นตั้งให้เฮนเดดอร์สัน ได้โหม่งเหน่งๆแต่เร่งเกินไปกดไม่ลงบอลออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง

         นาที 13 หงส์แดงมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปในกรอบโทษ ฟิล โจนส์ พยายามพุ่งสกัดแต่สเตอร์ลิงเร็วกว่าแตะบอลหนีไปแล้วเลยกลายเป็นเสียบ สเตอร์ลิงร่วงลงไปกรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันทัและเป็นเจอร์ราร์ดรับหน้าที่ สังหารไม่พลาดลิเวอร์พูลออกนำ 1-0
 
        นาทีที่ 22 ผีแดงขึ้นเกมไปทางซ้าย ลุค ชอว์พาบอลไปถึงกรอบโทษแล้วเปิดย้อนมาแถวจุดโทษเวย์น รูนี่ย์ กำลังจะวิ่งเข้ายิงแต่โดนซาโก้พุ่งเหยียดขาสกัดออกไปได้ทัน

        นาที 24 หงส์แดงหวิดได้เพิ่มเมื่อฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ได้บอลหน้ากรอบโทษเยื้องทางขวาแล้วแตะหลบ จอนนี่ อีแวนส์ ที่เข้าบอลพรวดก่อนสับไกด้วยขวาเต็มบอลพุ่งกำลังจะเสียบโคนเสาแรกอยู่แล้ว แต่ ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดได้ปลายมือก่อนที่กองหลังผีแดงเตะเคลียร์ออกไป

        นาที 33 กองหลังยูไนเต็ดพลาดอีแวนส์ไปจ่ายยัดให้สมอลลิงที่ไม่พร้อมเลยจับบอลวืดโดน สเตอร์ลิงฉกบอลไปได้แล้วพาเข้ากรอบโทษดีที่ อันเดร์ เอร์เรร่า ตามลงไปช่วยพัวพันไว้ก่อนจิ้มสกัดโดนทั้งบอลทั้งคนก่อนที่สเตอร์ลิงทิ้งตัว ล้มลงไปแต่กรรมการปล่อยให้เล่นต่อไม่ให้จุดโทษลิเวอร์พูล

        นาที 42 มาร์ติน เคลลี่ แบ๊กขวาหงส์แดงโชว์ทักษะกระดกบอลหลบมาต้าแล้วพาบอลเข้าไปหาจังหวะซัดด้วยขวา ราว 30 หลาแต่บอลพุ่งออกเสาไกลแบบไม่มีลุ้น

        จากนั้นเกมยังสูสีแต่ไม่มีประตูเพิ่มทำให้หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำอยู่ 1-0

         ครึ่ง หลังฟานกัลเปลี่ยนสองคนส่งไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ กับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลงแทน จอนนี่ อีแวนส์ กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ฝั่งลิเวอร์พูลยังใช้ชุดเดิม

        นาที 49 หงส์ได้ลุ้นจากจังหวะที่ชอว์ไหลบอลสั้นๆให้มาต้าแต่เบาไปนิดประกอบกับมาตา พยายามบังบอลเล่นแต่โดนเจอร์ราร์ดฉกไปได้แล้วไหลเข้ากรอบโทษให้ริคกี้ แลมเบิร์ต ซัดด้วยขวาแต่บอลย้อนหลังไปนิดเลยยิงไม่ถนัดโดนไม่เต็มบอลเบาทำให้เด เคอารับสบาย

        นาทีต่อมายังเป็นโอกาสของหงส์แดงเมื่อสเตอร์ลิงได้บอลหลุดเข้าไปใน กรอบฝั่งซ้ายแล้วโยกหลบโจนส์หาจังหวะซัดด้วยขวาแต่โดนสมอลลิงตามมาบล็อคบอล แฉลบออกเสาแรกไปนิดเดียวชนิดที่เดเคอายืนขาตายแล้ว

        นาที 52 บอลทะลุช่องของหงส์แดงยังเล่นงานเกมรับผีได้ต่อเนื่องคราวนี้เป็นสเตอร์ลิง แทงต่อให้คูตินโญ่หลุดเข้าไปในกรอบโทษแต่โดนแบล็คเก็ตต์ตามมาพัวพันก่อนสกัด ออกไปได้

         นาที 56 ผีแดงตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จเมื่อชิชาริโต้วางบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบโทษฝั่งซ้ายอย่างแมนยำให้ รูนี่ย์วิ่งเข้าแปด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับบอลย้อนเสียบเสาไกลอย่างเหนือชั้น

         นาที 57 เป็นยูไนเต็ดที่แซงนำ 2-1 เมื่อชอว์ได้บอลทางซ้ายแล้วไหลเข้ากลางให้มาต้าหาจังหวะซัดด้วยซ้ายบอลพุ่ง แฉลบขาซาโก้ลอยย้อยข้ามหัวซิมง มิโญเล่ต์ นายด่านหงส์แดงเข้าประตูไป

         นาที 62 หงส์แดงเปลี่ยน ลูคัส, เอ็มเร่ ชาน และ จอร์แดน ไอบ์ ลงแทนเจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน และแลมเบิร์ต

        นาที 65 ผีแดงหวิดได้เพิ่มแบบเฮงๆจากจังหวะชิชาริโต้เปิดบอลลอยโด่งจากฝั่งขวาแล้วไป ตกลงบนเหล็กสามเหลี่ยมขึงตาข่ายซึ่งอยู่ต่อจากคานกระดอนเข้ามาในสนามแล้ว เป็นรูนี่ย์แปโล่งๆตุงตาข่ายแต่แข้งหงส์เข้าประท้วงก่อนที่ไลน์แมนจะถามผู้ ตัดสินที่ 4 ที่ดูภาพรีเพลย์เหมือนอเมริกันฟุตบอลจากนั้นกรรมการกลับคำตัดสินให้เป็นลูก ออกหลังไปแล้ว

         นาที 69 แมนฯ ยูไนเต็ดเปลี่ยนอีก 2 คน ส่งนานี่ กับ ชินจิ คางาวะลงแทนมาต้า กับ ชิชาริโต้

         นาที 74 โคโล่ ตูเร่ ถูกส่งลงมาแทน ซาโก้ และ นาที 76 ส่งคริส เพเตอร์สันลงมาแทนคูตินโญ่

         นาที 78 ผีแดงส่งเจสซี่ ลินการ์ด ลงแทน เอร์เรร่า

        หลังทั้งสองทีมทะยอยเปลี่ยนตัวทำให้รูปเกมไม่ต่อเนื่องจังหวะเข้าทำ จึงมีให้เห็นน้อยจนนาที 80 รูนีย์เปิดบอลคืนหลังไม่ดีกลายเป็นออกหลังไปและจากจังหวะเตะมุมเฮนเดอร์สัน เปิดเข้าไปหน้าประตูกองหลังผีแดงสกัดไม่ขาดสุดท้ายเป็นตูเร่ได้ยิงแต่โดนไม่ เต็มเพเตอร์สันกำลังจะตามซ้ำแต่โดนสมอลลิ่งพุ่งสกัดออกไปได้แบบหวุดหวิด

         นาที 86  รูนี่ย์ไปเสียบอลกลางสนามแล้วบอลไปเข้าทางจอร์แดน ไอบ์ กำลังจะเล่นเกมสวนกลับรูนี่ย์เลยตามไปตัดเกมหวดดาวรุ่งหงส์ร่วงไปกองกับพื้น

         นาที 88 ผีแดงหนีเป็น 3-1 จนได้เมื่อ ยังขึ้นเกมไปทางขวาแล้วเปิดเข้าไปหน้าประตู คางาวะพยายามจับบอลแถวเส้นกรอบโทษแต่ไม่อยู่กลายเป็นชะลอบอลให้ลินการ์ดที่ เติมขึ้นไปแตะบอลแล้วซัดด้วยขวาบอลพุ่งแหวกสองกองหลังหงส์แดงเสียบโคนเสา อย่างเฉียบขาด

        ช่วงเวลาที่เหลือเกมยังสูสีแต่ไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะลิเวอร์พูล 3-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลรายการพิเศษ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2014ไปครอง

        รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
        แมนฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ดา บิด เด เคอา ; ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, จอนนี่ อีแวนส์ ; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อันเดร์ เอร์เรร่า, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, แอชลี่ย์ ยัง ; ฆวน มาต้า ; ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนี่ย์

        ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิ มง มิโญเล่ต์ ; มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, เกล็น จอห์นสัน ; สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน ; ราฮีม สเตอร์ลิง, ริคกี้ แลมเบิร์ต, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่