ในยามที่อะไรๆ ก็ยังไม่เข้าที่บางครั้งก็ยังมองไม่เห็นแววว่าจะไปได้รุ่งแค่ไหน สำหรับการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ชาวดัตช์แห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มน่าเป็นห่วงก่อนหน้านี้ แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปจนใกล้จะถึงสิ้นปี 2015

ดูเหมือนว่าระบบทีมผีแดงจะเริ่มมีอะไรที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังจากเก็บชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีกได้ 3 เกมติดต่อกัน ไล่ตั้งแต่ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 , ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 และชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-0 การเก็บ 9 แต้มเต็มทำให้สถานการณ์ที่จะจบฤดูกาล 2014/2015 ด้วยการติดท็อปโฟร์มีความหวังประกายขึ้นมาทันที

นอกจากนี้ ราดาเมล ฟัลเกา ที่หายเจ็บน่องกลับมาลงสนาม ดังนั้นหากฟัลเกา ได้ผนึกกำลังกับ เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ สองหัวหอกคนสำคัญของแนวรุกทัพปีศาจแดง  ซึ่งสองรายหลังเพิ่งซัดประตูในเกมที่ถล่มฮัลล์มาได้ อาจจะทำให้แนวรุกแดนหน้าของแมนฯ ยูไนเต็ดมีประสิทธิภาพและอันตรายเกินบรรยายก็เป็นไปได้

โดยทาง ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ ออกมาแสดงความเชื่อมั่นถึงแนวรุก ที่มี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ศูนย์หน้าชาวดัตช์เป็นตัวหลัก ถึงแม้ช่วงออกสตาร์ตซีซั่น ''อาร์วีพี'' ฟอร์มอาจจะยังฝืดไม่เข้าที่สักเท่าไหร่ แต่ถึงตอนนี้ดูเหมือนอดีตดาวยิงอาร์เซน่อลกำลังจะเครื่องร้อน บวกกับการได้ รูนี่ย์ เป็นผู้เล่นที่ทำทั้งแอสซิสต์และยิงประตู เท่ากับเพิ่มศักยภาพให้เกมรุกผีแดงอีกด้วย

''บางครั้งผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าก็โดนวิพากษ์วิจารณ์กันหนัก หากวันใดไม่ผลิตสกอร์ แต่ตอนนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว การเล่นตำแหน่งกองหน้าต้องผ่านอะไรความยากลำบากและบางครั้งพวกเขาก็ต้องการการยิงประตูสวยๆ สักครั้งเพื่อกลบเสียงคนพูด ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเริ่มขึ้นอีกครั้งสำหรับกองหน้าของเรา''

''สำหรับ โรบิน ประตูที่เขายิงได้ในเกมเจอกับ ฮัลล์ เป็นประตูที่ยอดเยี่ยมมาก และผมหวังอย่างยิ่งว่ามันจะเริ่มต้นดีขึ้นเรื่อยๆ และต่อเนื่อง บางทีนี่อาจจะทำให้ โรบิน เครื่องร้อนยิงประตูไปจนหยุดไม่อยู่''

 ''นักเตะทุกคนได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว เราทั้งหมดก็โดนกันหนักทีเดียวทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อทีวี บางสิ่งทำให้คุณต้องกำจัดมันจากความคิดความรู้สึก ไม่เช่นนั้นจะทำให้คุณกดดันและเครียดเปล่าๆ ทางที่ดีที่สุดคำตอบของการแก้ปัญหาคือการยิงประตู เหมือนที่ โรบิน ทำได้ในเกมที่เจอกับ ฮัลล์''

''มันเป็นประตูที่มหัศจรรย์มากสำหรับผม มันมีโอกาสครึ่งเดียวด้วยซ้ำที่จะเข้าตาข่ายไป มันไม่ชัดเจนว่าโอกาสจะเกิดประตูขึ้น แต่ในที่สุด โรบิน ก็เป็นคนตะบันประตูเข้าไปได้อย่างเหลือเชื่อ''

ในขณะที่ ''อาร์วีพี'' ทำประตูได้ ทางด้าน เวย์น รูนี่ย์ ก็ไม่เคยมาตรฐานลดลงเลย เพราะดาวยิงทีมชาติอังกฤษก็กดหนึ่งประตูในเกมที่ยำฮัลล์ ซิตี้ เช่นกัน ดังนั้นใดที่ โรบิน กลับมาฟอร์มร้อนแรง ประสานงานกับ รูนี่ย์ รวมถึง ฟัลเกา ที่หายเจ็บกลับมาแล้ว ในมุมมองของคาร์ริค ยิ่งมั่นใจว่า แนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ดตอนนี้จะทำให้แผงหลังของทุกทีมพรีเมียร์ลีกต้องหวาดกลัวหนักเข้าไปอีก

''เมื่อคุณมี โรบิน ที่ยิงประตูได้ และมี เวย์น รูนี่ย์ ที่ทำประตูได้เช่นกัน  บวกกับ ฟัลเกา ได้ลงสนาม และเกือบยิงประตูได้  ผมมั่นใจและคิดว่าพวกเขาทั้งสามคนจะเป็นผู้เล่นที่ขู่แผงหลังทุกทีมได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เรากำลังทำให้ทีมอื่นกลัวกัน ด้วยการผนึกกำลังของพวกเขา''

''ไม่ว่าทีมไหนก็ต้องการนักเตะแบบพวกเขา เมื่อคุณกำลังฟอร์มเข้าที่เข้าทาง ก็สามารถทำให้คู่แข่งรู้สึกเกรงกลัวที่จะต้องเล่นด้วย สิ่งที่โรบิน และ เวย์น ทำเอาไว้ในเกมเจอกับ ฮัลล์ยิ่งทำให้เราเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนับจากนี้ผมหวังอย่างยิ่งว่า เราจะเห็นพวกเขาทำสกอร์ได้มากมายเพิ่มขึ้นเรื่องๆ และสร้างสรรค์โอกาสในเกมรุกได้เป็นอย่างดี มันเป็นโอกาสที่จะทำให้นักเตะทุกคนในทีมสร้างความมั่นใจมากขึ้น หลังจากชนะในเกมลีกมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว  ความศรัทธาและความเชื่อมีส่วนอย่างหนักที่จะทำให้พวกเราเล่นได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเรามีเกมที่ดีอย่างสม่ำเสมอก็ส่งให้เรากลับมาแข็งแกร่งเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต''

โดยสถิติล่าสุด (ก่อนวันที่ 2 ธ.ค.57) แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ  5 เกมและเสมอ  1 เกม ในหกเกมหลังสุดที่เล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด  ซึ่งแม้แต่  หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังยอมรับว่ารู้สึกพอใจกับผลงานที่กระเตื้องขึ้นของทีม

แต่ก็ออกมาบ่นเรื่องที่ ทีมผีแดง ต้องลงสนามหลายนัดติดต่อกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยกล่าวว่า ''ผมไม่พอใจแต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร  ผมคิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อร่างกายนักเตะ ที่จะต้องเล่นภายใน 2-3 วันที่มีเกมไล่ๆ กัน

เพราะทุกคนมียังมีครอบครัว ผมก็มีภรรยาและลูก รวมทั้งหลานๆ ผมจะไม่ได้เจอพวกเขาในช่วงคริสต์มาสนี้ แต่ผมต้องการทำงานในพรีเมียร์ลีก ดังนั้น ผมต้องปรับตัว แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องดี มันไม่ดีสำหรับนักเตะ เช่นเดียวกับครอบครัวของพวกเขาด้วย''

ขณะที่  คาร์ริค เอ่ยถึงความรู้สึกฟอร์มของแมนฯ ยูไนเต็ดว่า ''ผมคิดว่าแฟนบอลทุกคนในสนามรู้สึกดีที่ฟอร์มของเรากำลังดีขึ้น และเหมือนว่ามาตรฐานของเรากำลังดีขึ้น การทุ่มเทเพื่อทีมและชัยชนะจะทำให้เรามาถึงจุดนี้''

''เราเคยทำได้ดีในอดีต แต่อดีตก็คืออดีต ตอนนี้เรากำลังอยู่กับปัจจุบัน เราจำเป็นต้องทำมันให้ได้อีกครั้ง และผมก็หวังอย่างยิ่งเหลือเกิน เราจะไม่ทำให้แฟนบอลเสียใจ เวลาผ่านไปเราเริ่มประสานงานกันได้ดี เราสามารถรักษาฟอร์มถ้าหากเราตั้งใจจริงที่จะทำมัน  อย่ากลัวอะไรนับจากนี้ เราต้องลุยเพราะถึงช่วงเวลาที่เราอาจจะทำได้''

''เราไม่สามารถมองอะไรไกลกว่านี้ แต่เราแค่จะต้องทำให้ดีที่สุด  เราต้องการชัยชนะมาถึง  10 หรือ  15 เกม มันอาจจะหวังได้น้อยนิดหน่อย แต่ตั้งแต่ที่เราชนะอาร์เซน่อล เราก็เริ่มก้าวได้ดีเรื่อยๆ มันเหมือนเป็นจุดเปลี่ยน  บางทีเราอาจจะจบอันดับที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่คาดเอาไว้ตอนช่วงออกสตาร์ตซีซั่น บางทีเราอาจจะทำเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนอ้าปากกันก็ได้'' คาร์ริค เอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้