ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » CLOSE UP: ฟุตบอลไทยไม่ใช่ของใคร (แต่เป็นของคนไทยทุกคน)

CLOSE UP: ฟุตบอลไทยไม่ใช่ของใคร (แต่เป็นของคนไทยทุกคน)

Posted 14/12/2014 by goal.com

 

ก่อนที่เกมนัดชิงชนะเลิศของทีมชาติไทยในเลกแรกจะเริ่มขึ้นในอีกวันสองวันนี้ Close Up ขอชวนคิดเรื่องของวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลกับการอยู่ร่วมกันของทุกคน

จวบจนถึงวินาทีนี้ คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ทีมชาติไทยภายใต้การนำทัพของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กำลังสร้างประกายใสในดวงตาแฟนบอลชาวไทยที่เคยหม่นหมอง ให้กลับมามีชีวิตเปล่งปลั่งดุจแพรไหมอีกครั้ง หลังจากการสร้างความสุขเล็กๆ ในทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์ที่เมียนมาร์ ต่อด้วยการลุยอินชอน เกมส์ ที่เกาหลีใต้

จนถึง ณ ขณะนี้ ที่พวกเขากำลังเดินหน้าตรงไปสู่บันไดขั้นสุดท้ายในการคว้าถ้วยแห่งสมรภูมิ สงครามลูกหนังอาเซียน เพื่อประกาศกร้าวถึงความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเอเชียอาคเนย์อีกครั้ง หลังจากต้องรอมานานถึง 12 ปี

รอมานานจนกระทั่งหลายคนเริ่มหมดศรัทธาในฟุตบอลไทย ขณะที่ทีมเพื่อนบ้านก็เร่งเครื่องพัฒนาโครงสร้างและฝีเท้าแบบเช้า-ค่ำ จนเกิดคำถามที่ว่าไทยยังคงเป็นเต้ยในแถบนี้อยู่หรือไม่

 

อย่างที่บอกครับ วันนี้ทุกชีวิตในแคมป์ฟุตบอลทีมชาติไทยของเรากำลังจะตอบคำถามนั้นประชาคมลูกหนังอาเซียนอีกครั้งว่า “ใช่”

พูดไปก็น้ำตารื้นไปครับ ที่ได้เห็นเหล่าบรรดาแฟนคลับทุกชนชั้น ทุกชีวิตที่รักฟุตบอล มุ่งหน้าไปสู่สนามราชมังคลากีฬาสถานเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์และภาพอันสวยงามในการเชียร์ฟุตบอลไทยแบบเต็มสนามอีก ครั้ง ในแบบที่ไม่ใช่มาดูฟุตบอลดารา, หรือทีมดังลูกหนังโลกจากยุหร่งยุโรปโน่น

ทว่าจะมีประเด็นที่กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ก็คงจะมีอยู่ไม่กี่เรื่อง ที่ต้องพูดถึงกันเป็นการซีเรียส นอกจากความหล่อลากไส้ของมิดฟิลด์ช้างศึกอย่างชัปปุยส์ (จนคุณลิลลี่สาวสวยเน็ตไอดอลของโกล ประเทศไทยต้องชูป้ายกอดฟรีด้วยสิเหน่หา), ตั๋วเข้าชมที่หายากดั่งไข่มุก เลอค่าดั่งทอง จนมี “ตั๋วผี” หลุดมาให้แฟนๆ ก่นด่าสาปแช่งกันไม่รู้จบ ก็คงจะมีเรื่องการจุดพลุแฟลร์ของกลุ่มกองเชียร์บางกลุ่ม ที่กำลังเป็นกระแสร้อนฉ่าในทุกวันนี้

 
Post by Lily Tunekachon.

ในฐานะผู้เขียน ผมคงจะมิอาจชี้ว่าอะไรผิดหรือถูกได้อย่างเต็มเปานัก แต่เมื่อได้ลองค้นคว้าข้อมูลมาบ้าง ก็พอจะทราบว่า วัฒนธรรมการเชียร์แบบสุดขอบ และจุดพลุแฟลร์แบบสว่างไสวหลายจุดของทีมงาน “อัลตราส, อัลตร้า หรืออุลตร้า” คือการสร้างสีสันและแสดงออกให้ประชาคมโลกรับรู้ว่านี่คือการเชียร์ระดับ อินเตอร์ ไม่ใช่กองเชียร์นิ้งหน่องที่มาร้องเพลงธรรมดาๆ

ข้อมูลชี้แจงว่า การโห่ร้องและแสดงออกแบบรุนแรง คือการข่มขวัญคู่ต่อสู้ กระโดดขย่มโขยกเก้าอี้ คือการสร้างความคึกคักแบบดุดัน ที่คาดว่าจะทำให้คู่ต่อสู้เสียขวัญ และเป็นกำลังใจให้ทีมรักทีมเชียร์ได้ฮึกเหิมตามแรงเชียร์

พูดง่ายๆ ก็คือ เชียร์แบบรุนแรง สร้างพลังแบบอินเตอร์ จุดพลุจุดไฟเพิ่มอรรถรสและบรรยากาศ



ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหน กองเชียร์กลุ่มนี้จะได้รับคำนิยามว่าเป็นแฟนบอลประเภท “ฮาร์ดคอร์” พวกเขารักใครรักจริง ไม่มีทอดทิ้งแม้ยามทีมตกต่ำ ซึ่งสำหรับในประเทศไทยก็เช่นกัน ไม่ว่าใครจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของพวกเขาในนาทีนี้อย่างไร แต่การตามให้กำลังใจทีมชาติไทยแม้ในวันที่รอบข้างเต็มไปด้วยเก้าอี้ว่าง เปล่า คือเครดิตที่พวกเขาสมควรได้รับแบบไม่มีใครแย่งชิงไปได้

อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน ความดีความงามในวันนั้น ก็ไม่อาจนำมาเป็นข้ออ้างให้ใคร “ทำอะไรก็ได้” ในวันนี้

ไม่ว่าใครที่ติดตามวงการลูกหนังมาอย่างยาวนานถึงระยะหนึ่ง ย่อมต้องทราบดีว่า “กองเชียร์” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้กีฬาชนิดนี้เติบโตขึ้นมาได้อย่างที่เราทุกคนเห็น นอกจากเหตุผลง่ายๆ ในเรื่องกำลังใจต่อผู้เล่นทั้ง 22 ชีวิตในสนาม ยังมีเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียน และขับเคลื่อนให้ทุกอย่างเติบโตไปในทางที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายใฝ่ฝัน

นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมโลกฟุตบอลสมัยใหม่ถึงได้พยายามออกแบบให้ “สเตเดียม” เป็นพื้นที่ของคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็กตัวเล็กๆ และคนชราที่มาพร้อมไม้เท้าคู่ใจ ไม่ใช่เพียงสนามรบสำหรับชายฉกรรจ์หรือคนหนุ่มคนสาวที่มีพลังเหลือเฟือ



การ เชียร์เหล่านี้จะไม่เกิดปัญหาเลย ถ้าโลกไม่มีข้อห้าม หรือเหตุผลด้านความปลอดภัยมารองรับการเกินเลยของพฤติกรรมหรือการแสดงออกที่ จะนำไปสู่เหตุจลาจลได้ในเวลาต่อมา ซึ่งสถานที่ที่มีคนหมู่มากเข้าไปทำกิจกรรมในรูปแบบเดียวกัน มันคือการสร้างมวลพลังที่จะต่อยอดไปสู่ความเดือดดาลได้อยู่แล้วและไม่ว่า ประเทศไหน (รวมถึงประเทศไทย) ล้วนมีบทลงโทษในเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ มีการปรับเงิน, แบน หรือตัดแต้มในบางกรณีทั้งวงการฟุตบอลระดับนานาชาติ หรือลีกภายในประเทศ

ผมพยายามตั้งคำถามมากมายถึงข้อดี-ข้อเสีย ชั่งน้ำหนักอย่างถี่ถ้วนในการเขียนบทความชิ้นนี้ เพราะในสังคมไทยทุกวันนี้ การเอาใจเขามาใส่ใจเราได้ ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมครับ แม้เราจะทำไม่ได้ตลอดเวลาก็ตาม

“อุลตร้า” ชาวไทย อาจรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นผู้ร้าย ทั้งที่การจุดพลุไม่ใช่อาชญากรรม แต่ความจริงที่เห็นชัดๆ ก็คือ มันผิดระเบียบของการแข่งขันที่เป็นทัวร์นาเมนต์ “นานาชาติ” ไม่ได้เล่นเป่ากบชิงแชมป์หมู่บ้านที่สนามดินกลางลานวัดที่ไหน

และการจุดพลุ รวมถึงด่าทอคนอื่นด้วยคำว่า “โลกสวย” นี้เอง เป็นเหตุผลหนึ่งที่กีดกันคนไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าวให้ออกจากสนาม (แน่นอน ร่วมกับ “ตั๋วผี” หากเกรงว่าเราจะไม่เอ่ยถึง) ทั้งที่ในฐานะของแฟนบอล “ฮาร์ดคอร์” ผู้รักฟุตบอลไทยมากกว่าใครๆ ผมเชื่อว่าท่านทั้งหลายน่าจะดีใจที่ได้เห็นปรากฏการณ์ “ราชมังฯ แตก”, ได้เห็นฟุตบอลไทยกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง...

....อีกทั้งคงอยากเห็นเรื่องราวดีๆ แบบนี้คงอยู่ด้วยกันไปนานๆ - ไม่ใช่ปรากฎการณ์แต่เป็นเรื่องปกติ - มากกว่าจะกลับไปมีแต่เก้าอี้เปล่าๆ เหมือนเก่า



เขียน มาถึงบรรทัดนี้ ผมอาจจะไม่ใช่บอร์ดฟีฟ่าที่จะมาห้ามไม่ให้ใครทำอะไรแบบไหนได้ แต่หากการอ่านบทความชิ้นนี้แล้วได้ลองคิดตามไปเพลินๆ ผมว่าทุกคนก็อยากเชียร์ฟุตบอลในแบบเร้าใจสุดมันเหมือนกันแหละครับ

ใจเขาใจเราครับ คนไทยด้วยกัน แฟนบอลด้วยกัน

ผมว่า “อุลตร้า” ทุกท่าน น่าจะ “แมน” พอที่จะทบทวนเรื่องนี้ดู ขอเพียงไม่จุดพลุ ไม่ต้องใช้ไฟ เรายังมีวิธีในการข่มขวัญคู่แข่งได้อีกมากมาย และหากท่านยอมใจกว้างเปิดทางถอยสักก้าวในชั่วโมงนี้ผมเชื่อว่าจากเสียงก่นด่าจะกลายเป็นเสียงชื่นชมที่ล้นหลามยิ่งกว่าเดิม

เอาเป็นว่า ถ้าใครอ่านตามย่อหน้าข้างบนแล้วเห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงที่ผมทำตัวหนา(ซ้ำด้วยขีดเส้นใต้) ก็ช่วยกันแสดงพลังนี้ในกล่องความคิดเห็น ทั้งบนหน้าเพจ, หน้าเว็บของเรา รวมถึงตามเว็บบอร์ด และเครือข่ายสังคมทั้งหลาย

ช่วยกันครับ เพื่อฟุตบอลไทย ที่ไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของเราคนไทยทุกคน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • OFFICIAL : แชมป์ลีกอินโดยันคว้าอารอนลุยเพลย์ออฟ ACL
    ดาวยิงแซมบ้าของพลังเอ็มบอกลาไทยพรีเมียร์ลีกไปค้าแข้งกับแชมป์อินโด ซูเปอร์ลีก เรียบร้อยแล้ว
  • ส.บอลจัดให้!ตั้งจอยักษ์หน้าราชมังฯรับแฟนบอลไทย
    แฟนบอลที่พลาดตั๋วเข้าชมอย่าเสียใจ !!! "บังยี"วรวีร์ มะกูดี ประมุขลูกหนังไทย เผยว่า เตรียมที่จะตั้งโปรเจ็กส์เตอร์จอยักษ์บริเวณ หน้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อรองรับแฟนบอล ในนัดชิงชนะเลิศ กับ มาเลย์เซีย
  • มือปราบเสือเหลือง!ซิโก้ยันไม่แพ้มาเลย์ตั้งแต่เป็นนักเตะ
    เสือเหลืองมีหนาว !!! "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ มั่นใจสุดๆ นัดที่จะเจอ มาเลเซีย เพราะว่าตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะกี่ครั้งๆ ก็ไม่เคยแพ้ จนมาถึงปัจจุบันที่ตนผันตัวเป็นโค้ช โดยตนหวังที่จะรักษาสถิตินี้ให้ได้ตลอดไป ด้านความพร้อมนักเตะได้สั่งแข้งไทยซ้อม2 มื้อ เช้า-เย็นเน้นซ้อมเกมรุกหวังล่าหัว"เสือร้ายมาลายู" ส่วนกรณีที่ มาเลเซีย จะเปลี่ยนรังเหย้าใช้ บูกิตจารีล ที่มีความจุนับแสนนั้น ตนไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างไร ส่วนเรื่องที่นักเตะชุดนี้มีแฟนคลับสาวๆ มาตามกรี๊ดเยอะ ตนได้กำชับลูกทีมแล้ว
  • มาแล้ว!เชียงรายเตรียมเปิดตัวเรนาตินโญรายแรก
    อดีตดาวยิงของคาวาซากิ ฟรอนตาเล เตรียมเปิดตัวเป็นสมาชิกใหม่ของกว่างโซ้งมหาภัยหลังจาก ประธานสโมสรเผยภาพที่เขาเดินทางถึงไทยแล้ว

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »