มานูเอล นอยเออร์ ยอดมือกาวชาวเยอรมัน ได้ทั้งรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของทวีปยุโรปจากสมาคมนักข่าวกีฬาในทวีปยุโรป ประจำปี 2014 และรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของโลกจากสมาคมนักข่าวนานาชาติในปีเดียวกันไปนอนกอด หลังทำผลงานได้สุดยอดในปีดังกล่าว เจ้าตัวเปิดอก ประสบความสำเร็จอย่างนี้ได้เพราะมีเพื่อนๆ คอยช่วย

 มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูคนเก่งของทีมชาติเยอรมนี และ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 2 รางวัล ประกอบด้วยรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของทวีปยุโรปจากสมาคมนักข่าวกีฬาในทวีปยุโรป ประจำปี 2014 และรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของโลกจากสมาคมนักข่าวนานาชาติประจำปีเดียวกัน

ปี 2014 ถือเป็นปีทองของ นอยเออร์ เมื่อได้ทั้งแชมป์ลีกและแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล กับ บาเยิร์น ตามด้วยการได้เแชมป์ฟุตบอลโลกกับ เยอรมนี ส่งผลให้เขามีชื่อเข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก หรือ "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ครั้งล่าสุด ก่อนจะได้อันดับ 3 ไปครอง

สำหรับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของทวีปยุโรปจากสมาคมนักข่าวกีฬาในทวีปยุโรป และรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของโลกจากสมาคมนักข่าวนานาชาตินั้น จะตัดสินจากการโหวตของบรรดานักข่าว โดย นอยเออร์ ถือเป็นนักฟุตบอลรายที่ 3 เท่านั้น ที่ได้รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของทวีปยุโรปจากสมาคมนักข่าวกีฬาในทวีปยุโรป โดย 2 คนก่อนหน้านี้คือ มิเชล พลาตินี่ ตำนานมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส ที่ได้รางวัลในปี 1984 กับ โลธ่าร์ มัทเธอุส อดีตยอดแข้งชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ชนะรางวัลดังกล่าวในปี 1990

ในกรณีรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของโลกจากสมาคมนักข่าวนานาชาตินั้น นอยเออร์ เอาชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ของ เรอัล มาดริด ได้เลยทีเดียว โดย โรนัลโด้ เข้ามาเป็นอันดับ 3 ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิส ส่วนในด้านรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของทวีปยุโรปจากสมาคมนักข่าวกีฬาในทวีปยุโรปนั้น เฟเดอเรอร์ ก็เข้ามาเป็นที่ 2 เช่นกัน ต่างกันที่อันดับ 3 ในรางวัลนี้คือ โนวัค ยอโควิช แร็กเกตมือ 1 ของโลก

ทั้งนี้ มือกาววัย 29 ปี กล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติที่ช่วยให้เขาได้รางวัลอันทรงเกียรติครั้งนี้ "ผมคงไม่มีทางประสบความสำเร็จแบบนี้หากไม่มีพวกเขา"