ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » โดนด่าเพื่อนชั่ว! ออม บลูเบอร์รี่ เคลียร์ชัดๆ รู้นิสัย โบว์? พร้อมเปิดตัวแฟนญี่ปุ่นที่นี่!

โดนด่าเพื่อนชั่ว! ออม บลูเบอร์รี่ เคลียร์ชัดๆ รู้นิสัย โบว์? พร้อมเปิดตัวแฟนญี่ปุ่นที่นี่!

Posted 05/07/2015 by ไทยรัฐ

 

กลับมาเป็นข่าวเกรียวกราวกันอีกครั้ง สำหรับสาวๆ วงบลูเบอร์รี่ เมื่อหนึ่งในสามสาวอดีตสมาชิกวงอย่าง โบว์ วันทิพย์ ศรีทองท้วม ได้ออกมาตัดพ้อจัดหนัก! ว่าหลังจากตนแยกออกจากวงเพราะมีลูก เพื่อนๆ สองสาวอย่าง ออม เพลินศิลป์ เกตุแก้ว และหนูเล็ก เบญจวรรณ โภคทรัพย์ กลับห่างเหินไปเหมือนลืมกัน งานนี้ร้อนถึง ออม ต้องออกมาเคลียร์ข่าวกับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ แบบด่วนๆ เพื่อไม่ให้ผิดใจกันมากกว่านี้ พร้อมเซอร์ไพรส์เปิดตัวแฟนหนุ่มหล่อ รวยแดนปลาดิบที่นี่ที่แรก

ขอถามเรื่องงานก่อน บูลเบอร์รี่ ตอนนี้ เหลือ 2 คนแล้วใช่ไหม

“ใช่ค่ะ เหลือ 2 คนแล้ว ตอนนี้ก็เตรียมโปรเจคใหม่ของ สโมสรชิมิ ค่ะ ชื่ออัลบั้มว่า สโมสร สโมโสด ซึ่งออมเองก็เป็นหนึ่งใน โคโปรดิวเซอร์ช่วยทำในซิงเกิ้ลนี้ด้วย อัลบั้มนี้จะมีเพลงรวม 2 เพลง เป็นเพลงเร็วหนึ่งเพลง เพลงช้าหนึ่งเพลง เพลงเร็วก็จะเป็น โสดอยู่รู้ยัง เอาใจคนที่แอ๊บโสด และแต่คน สโมสรชิมิ คนก็จะมีเพลงเดี่ยวเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นความโสดในบุคลิกของตัวเอง”

แล้วตอนนี้ บูลเบอร์รี่ งานทุกอย่างยังเหมือนเดิมหรือเปล่า
“เหมือนเดิมค่ะ”

ยังเยอะเหมือนไหม
“เรียกว่างานเรื่อยๆ ดีกว่าค่ะ(หัวเราะ) เพราะด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เศรษฐกิจก็อาจจะทำให้มันงานลงๆ ไปบ้าง แต่ก็มีอยู่เรื่อยๆ ค่ะ”

ที่ บลูเบอร์รี่ ไม่ได้กลับมารวมกันเป็นเพราะผู้ใหญ่เห็นสมควรหรือเปล่า
“ใช่ค่ะ แต่ให้มองในแง่ของการตลาด ลุคของพี่โบว์ มันต่างกันแล้ว กับของออมและหนูเล็ก พี่โบว์ประกาศชัดเจนว่า มีครอบครัว มีน้อง มีสามี แต่ออม หนูเล็กยังไม่มีครอบครัว ภาพของโปรดักส์ที่ขายในการตลาดก็ย่อมแตกต่างกัน ซึ่งเป็นเหตุผลของผู้ใหญ่แบบนี้ค่ะ มันก็คงคนละทาร์เกตกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้เขามาร่วมนะ ออมกับหนูเล็กยังพูดเลย ถ้าวันนึงเราโตกว่านี้ มีครอบครัวกันหมด เราจะกลับมาร้องชิมิรุ่นแม่กัน มันคงเป็นอะไรที่น่ารัก เอาลูกๆ มาร้องด้วย“

ล่าสุดมี โบว์ อดีตบลูเบอร์รี่บ่นน้อยใจ เพื่อนไม่ไปเยี่ยม
“ออมว่าอาจจะเป็นมุม ของช่วงแรกๆ ที่เขาต้องเป็นคุณแม่ แล้วต้องอยู่บ้านคนเดียว อีกอย่างพูดตรงๆ ด้วยความว่าพี่โบว์เขาเป็นคนที่ ทุกคนจะรู้ว่า 8 ปีที่คบกันมา เขาจะเป็นคนที่ขี้น้อยใจ ขี้กลัว อาจจะเป็นอารมณ์ที่น้อยใจว่า เดี๋ยวเราจะหายไปแล้วเราจะจำเขาไม่ได้มากกว่า แต่จริงๆ แล้วออมกับหนูเล็กยังคุยกันแทบทุกวันกับพี่โบว์ ยังนัดกันไปพม่า ไปฮ่องกงกัน จะไปนั่นไปนี้กัน แต่ว่าด้วยที่พี่โบว์ตอนนี้สามีเขากลับมาอยู่ที่บ้านด้วย ออมเองก็ทำธุรกิจยุ่งมาก บางวันก็ไม่ได้กินข้าว ขนาดชีวิตรักตัวเองยังล่มเลย(หัวเราะ) น้องหนูเล็กเองก็ดูแลทางบ้านด้วย ก็เลยเหมือนต่างคนต่างมีภาระกิจของตัวเอง

แล้วพี่โบว์เองเขาก็มีครอบครัวเราเองจะเข้าไปจ๊ะเอ๋ ไปยังยิ้มกับสามีเขาก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ(หัวเราะ) เราก็ต้องเกรงใจในการใช้ชีวิตครอบครัวเขาด้วย เพราะว่าสามีเขาไม่ใช่คนไทย สามีเขาเป็นคนต่างชาติซึ่งด้วยนิสัย ด้วยพื้นฐานของคนต่างชาติเขาก็ชอบใช้ชีวิต อยู่กับครอบครัว มีปาร์ตี้กะเพื่อนได้บ้าง แต่ภรรยาและลูก ต้องใกล้ชิดกับเขา เราก็ต้องให้ช่องว่างกับเขา จะทำอะไร จะไปเยี่ยมบ่อยๆ ก็เกรงใจเขา

ส่วนตอนที่เขาย้ายบ้านไป เราทราบข่าวค่ะว่าเขาย้าย ยังถามว่าตกลงอยู่ที่ไหน ยังปรึกษากันอยู่คือไม่เคยขาดการติดต่อเลย พอสุดท้าย เขาบอกว่าอยู่ที่นี่ เราก็โอเค ถ้าอยู่แล้วสบายใจเราก็โอเค คือต้องบอกก่อนว่าบ้านใหม่พี่โบว์เขาก็ไกลกับเราไป เพราะปกติแล้วเขาอยู่ที่ สุขุมวิท มันอยู่ใกล้บ้านออม ไปมาหาสู่กันตลอด บางทีหิวข้าว โทรหาเขาบอกพี่โบว์ เดียวขับรถไปรับไปทานข้าวกัน พอพี่โบว์ย้ายยังพูดกับหนูเล็กเลยว่า ย้ายไปแล้วจะได้เจอกันมั้ย เพราะหนูเล็กก็ต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงาน ออมเองก็ต้องทำธุรกิจ ขนาดออมกับหนูเล็กยังแทบไม่ได้มีเวลาเจอกันเลยค่ะ แต่เราก็ยังคุยกันว่าถ้าวันไหนพี่โบว์มาเที่ยวในเมืองก็มากินข้าวกันนะ ถ้าว่างตรงกันก็ไปนั้นไปนี้ด้วยกันได้ แต่ว่าพี่โบว์ก็มีน้องด้วย วัยกำลังซนเราก็เกรงใจกลัวเขาไม่สะดวกมา เลยไม่กล้าไปชวนเขามา แต่เราก็คิดเสมอว่าไม่เป็นไรถ้าไม่ว่างเจอกันก็ค่อยโทรคุยกันปกติค่ะ”

ส่วนตัวโบว์เองเขาโทรหามั้ย อย่างชวนไปทานข้าว เพราะโบว์บอกว่า ชวนแล้วเพื่อนไม่ว่าง
“ไม่ๆ ไม่ได้โทรมาค่ะ อย่างที่บอกเราคุยกันน้อยลงด้วย ออมเองไม่ค่อยได้จับโทรศัพท์เท่าไหร่ ดูโซเชียลได้เลย อินสตาแกรม 2 วันอัพที หนูเล็กก็เหมือนกันค่ะ 10 วันอัพครั้งนึง คือต่างคนก็ไม่ได้เล่นโซเชียลเลย แต่ก็ทุกครั้งที่คุยในไลน์กลุ่ม ก็จะถามไถตลอดว่า เป็นยังไงบ้าง อัพเดทข้อความกันตลอด แล้วทุกๆ วันสำคัญ อย่างวันเกิดพี่โบว์ออมเองเป็นคนอวยพรคนแรก เพราะว่าตั้งนาฬิกาปลุกเลย 9 มิ.ย.นะ เที่ยงคืนฉันต้องตื่นมาอวยพรก่อนใคร พี่โบว์ก็ดีใจบอกว่า ออมเป็นคนแรกเลย ออมยังไม่ลืมกัน ก็เลยคิดว่าพี่โบว์น่าจะออกแนวน้อยใจมากกว่า

อย่างตอนวันเกิดน้องฟีลิกซ์ลูกพี่โบว์ออม ออมก็ไปคอมเมนท์อวยพรในอินสตาแกรม จำได้เลยว่าเราทำงานอยู่ต่างจังหวัด นั่งอยู่ข้างๆ หนูเล็ก หนูเล็กก็คอมเมนท์ต่อออมเลยค่ะ แต่พี่โบว์คงไม่เห็นเลยอาจคิดว่าไม่ไปอวยพรหลานเลยน้อยใจ ตรงนี้เราคิดว่าอาจจะเป็นเพราะพี่โบว์มีหลายแอคเคาท์ ก็เลยไม่ได้ดู เขาอาจจะล็อคอินแอคเคาท์นึง อีกหลายๆ แอคเคาท์ก็ไม่ได้ดู พอออมบอก ออมคอมเม้นท์แล้วนะ ไม่ได้ไม่อวยพรนะ เธอเครียดไปมั้ย เราก็นั่งคิดนะว่าเราผิดตรงไหน หรือเปล่าที่ทำให้เพื่อนน้อยใจเราถึงขนาดนี้”

ออมเองได้คุยกับหนูเล็กมั้ย พอมีข่าวออกมาแบบนี้
“คุยค่ะ พอเห็นว่าเราอวยพรแล้วแต่เขาไม่เห็นเอง พี่โบว์เขาก็มาขอโทษ เราก็บอกนะว่าไม่เป็นไร เรารู้ว่าพี่โบว์เป็นคนยังไง เขาไม่ใช่คนที่แบบจะมาว่าร้ายใคร เป็นคนใสๆ ซื่อๆ แต่ด้วยความที่นางเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ขี้นอยด์ขี้กลัว กลัวเพื่อนลืม กลัวเพื่อนลืมหลาน กลัวว่าจะไม่ให้ความสำคัญกับหลาน เราจึงบอกเขาว่าไม่ใช่ ด้วยความที่ต่างคนต่างโตขึ้น ต่างมีอายุเยอะขึ้น ต่างมีช่องว่างในการทำงานที่แตกต่างกันมากขึ้นมันก็ค่อนข้างที่จะรวมตัวกันยากนิดนึง ก็เหมือนกับเพื่อนทั่วๆ ไป ที่ต่างก็มีครอบครัว ก็เริ่มรวมตัวกันยาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าเราจะลืม เราไม่เคยลืมแม้แต่วันเกิดสามีเขา หนูยังอวยพรเลย ทั้งอินสตาแกรม ไลน์ส่วนตัว”

หลายคนจะวิพาษ์วิจารณ์ว่าหมดผลประโยชน์แล้วหรือเปล่าเพราะจาก 3 เหลือ 2 ตัวหารน้อยลง ออมกับหนูเล็กก็เลยไม่อยากให้ โบว์ กลับมาเพราะตัวหารจะเท่าเดิม
“ไม่เลยเกี่ยวค่ะ เพราะออมกับหนูเล็กเป็นคนบอกผู้ใหญ่เองด้วยซ้ำว่า ถ้ามีโอกาส อยากมีคอนเสิร์ต ก็อยากจะกลับมาชิมิใหม่ ให้พี่โบว์เอาฟีลิกซ์มาด้วย ให้ฟีลิกซ์มาร้องเพลง คือเรายังแพลนกันอยู่เลย ซึ่งเราไม่เคยคิดแบบนั้นว่า 2 คนตัวหารน้อยกว่า พี่โบว์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามีวันนี้ 3 คนคือครอบครัวเดียวกันที่ทำให้คนรู้จักคำว่า ชิมิ, เจ้าที่แรง, มีเวลาโทรมาด้วยเหรอ ถ้าไม่มีพี่โบว์ ไม่มีออม ไม่มีหนูเล็ก ก็ไม่เกิดเป็น บลูเบอร์รี่ ขึ้น ทั้งออมและทั้งหนูเล็กเองก็รักพี่โบว์ และก็ไม่ได้รักแค่ตัวเขา รักครอบครัวเขาด้วย เข้าใจแหละค่ะว่าก็อาจจะมีมุมน้อยใจนิดหน่อย อันนี้คือนิสัยเขา เรารู้จักเพื่อนว่าเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็ขอโทษแล้วก็จบไป”

เจอกันหรือยังค่ะตั้งแต่มีข่าวมา
“ยังค่ะ พี่โบว์เขาก็เลี้ยงน้องเราก็ทำงานค่ะ ทุกวันนี้ แม้แต่หนูเล็กเองก็ยังไม่ได้เจอเลยคะ ต่างคนต่างทำงาน”

อย่างนี้จะมองหน้ากันติดมั้ย
“คือไม่ได้โกรธกันนะคะ แต่แอบมีเสียใจบ้างหลังที่อ่านข้อความคนมาคอมเม้นท์มองเราเป็นเพื่อนชั่ว ยอมรับว่าเครียดออมร้องไห้ถึงตี 4 หนูเล็กก็นอยด์ ทำยังไงดี เราก็บอกว่าก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะเรารู้ว่าก่อนหน้านั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเห็นข่าวยังแซวกันอยู่ในอินสตาแกรมพี่โบว์อยู่เลยว่า เธอขา..สวยนะคะ เธอไปฉีดเธอไปดูดตรงไหน พอเห็นข่าวปุ๊บ โอ้ย! ใจสลาย แต่เราก็พยายามคิดกันว่ามันคงเป็นความรู้สึกนอยด์เฉยๆ ที่เราไม่ได้ไปหาเขาที่บ้านใหม่ แต่ตอนที่เขาย้ายบ้าน ก็ไม่ได้บอกวันที่แน่นอนกะเรานะ แล้วตอนนั้นเราอยู่ต่างประเทศด้วยมีคอนเสิร์ต เราก็รับทราบว่าเขาไปอยู่บ้านใหม่แล้ว ก็อวยพรตลอดไม่เคยขาดหายไปไหน ไลน์เราก็ยังมีอยู่เลยว่า ที่รักแฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะ ที่รักอยู่ไหนคะ ก็ยังมีอยู่เลย”

เห็น ออม เองมีไปโพสต์โต้ตอบด้วยในอินสตาแกรมหลังมีข่าวที่โบว์ออกมาพูด
“ตอนที่โพสต์ในอินสตาแกรมเราก็อยากให้เขาใจเย็นลงหน่อย เราพูดไปความหมายเราแบบนี้ แต่คนที่เขาอ่านเขาตีความหมายอีกแบบนึง เราไปโพสต์ว่า ‘สิ่งที่สำคัญ คือเราต้องรักษาน้ำใจเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นแบบนี้ เพราะไม่งั้นมันจะมีผลเสีย ดึงสติกลับมา และก็ทำงานที่เรารักกันต่อ' ประมาณนี้คะ”

ผู้ใหญ่เรียกไปคุยมั้ยเรื่องนี้ ที่มีข่าวคราว
“คุยคะ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าผู้ใหญ่บอกแค่ว่าให้พี่โบว์คิดก่อนที่จะพูดออกมา คือบางทีเราอาจจะรู้สึกแบบนี้ แต่คนที่เขาอ่านอาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนกัน ส่วนทางเราเองผู้ใหญ่ก็ให้เงียบๆ ไป ไม่ต้องไปปะทะ แต่ให้ไปเคลียร์กันให้เข้าใจ ซึ่งเราก็เข้าใจกันแล้ว วันเดียวก็รู้เรื่อง”

ถ้าวันไหนนัดทานข้าวกันถ่ายรูปรวมลงอินสตาแกรมได้มั้ยคะ
“ได้เลยคะ แต่คืออย่างออมเองค่อนข้างที่จะลำบากหน่อย พอออมทำธุรกิจแล้ว ออมเป็นหัวหน้าต้องดูแลลูกน้องทุกอย่างทุกขั้นตอน ทีนี้เวลาของออมจะน้อยมากๆ แทบไม่ได้ขยับออกมากบ้านเลย ทำงานอยู่ในบ้านตลอด ข้าวอะไรก็กินอยู่บนโต๊ะทำงานทุกอย่าง ธีสิท ปริญญาโท ทุกอย่างมารวมอยู่ที่โต๊ะทำงานหมดเลย ก็อาจจะออกมายากหน่อย แล้วไปไหนก็ไม่เป็น ถ้าไปไกลก็จะหลง ก็จะบอกเขาว่ามาใกล้ๆ บ้านกัน หรือมาเที่ยวที่เราเคยกินข้าวกันนะ เมื่อก่อนไปกับพี่โบว์ตลอดเพราะบ้านใกล้กัน แต่พอเขาย้ายก็ใจหาย ขับผ่านร้านที่เราเคยกิน ก็อยากกิน ก็คือไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ได้โกรธอะไรเขาเลย ออกแนวเป็นคุณแม่ลูกอ่อนขี้นอยด์เฉยๆ”

ถามถึงเรื่องหัวใจ เห็นบอกรักเพิ่งล่มไปกับหนุ่มนอกวงการ
“ค่ะ ตอนนี้ก็เพิ่งเลิกไป ที่เลิกกันเพราะก็คงเป็นเรื่องของเวลา คือคำเดียวที่เขาบอกคือ ออมบ้างานและก็เห็นแก่งานมากกว่าจนไม่มีเวลาให้เขา ถึงบอกว่าความรักออมยังไม่มีให้แฟนจนล่มเลยกับเพื่อนจะไปมีเวลาเจอยังไง กับคนนี้จริงๆ แล้วจะหมั้นกันด้วยซ้ำไปวางไว้ประมาณปลายปีนี้ เราสองคนคบกันได้ประมาณ 2 ปี แต่รู้จักกันมาเป็นเพื่อนประมาณ 7 ปี”

สาเหตุที่เลิกคืออะไร มือที่ 3 หรือเปล่า
“ทีเลิกต้องบอกว่าเขาไม่ได้มีคนอื่น แต่เป็นเพราะว่า เหตุผลกับความเห็นเราไม่ตรงกัน เราทำธุรกิจ ความเห็นของเขาเริ่มต่างกัน เริ่มจูนกันไม่ติด มันเริ่มมีปัญหาเข้ามาตรงกลางมากขึ้น มันเลยทำให้เราอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกัน อึดอัดที่จะคุยกัน พูดคำเถียงคำ พูดเหตุผลแบบนี้เขาคิดอีกแบบนึง มันเลยทำให้เราคิดว่าอยู่แล้วเราไม่มีความสุข พยายามลองจูนกันหลายครั้งแล้วพยายามปรึกษาที่บ้านว่าเอาไงต่อดี ซึ่งแม่ก็บอกว่าอนาคตเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจถ้าตอนนี้เรารู้สึก มันไม่รอด มันไม่ใช่ ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง เลิกกันมาครึ่งปีแล้วค่ะ”

ทำใจพอที่จะเริ่มเปิดโอกาสให้รักครั้งใหม่หรือยัง
“ก็มีคนเข้ามาคุยบ้างแต่ว่าเป็นชาวต่างชาติ (หนุ่มในวงการมีมั้ย?) มีค่ะแต่ออมไม่ค่อยคุยกะเขา ออมขี้เกียจ คนเดิมๆ วนมาคุย แต่อย่าถามนะว่าใคร ไม่บอกหรอกเก็บไว้เป็นความลับ (หัวเราะ)”

กับชาวต่างชาติคนนี้เป็นอย่างไร
“เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นนักธุรกิจ เราทำธุรกิจเหมือนกัน ความเห็นเราตรงกันคิดอะไรเหมือนๆ กัน ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ไม่เที่ยวเหมือนกัน เขาเองพอเห็นเรามีธุรกิจเขาก็สามารถช่วยเราแพลนได้ แต่ก็คุยกันไปก่อน เดียวยังไงค่อยว่ากัน”

ได้ข่าวว่าถูกขอเป็นแฟนที่สนามบินที่ฮ่องกง
“ใช่ค่ะ ขอคบที่สนามบิน วันที่ออมจะไปญี่ปุ่นคือเขาก็ติดตามในเฟสบุ๊ค ตามไลน์ตลอด เขาเห็นว่าเราจะไปเขาก็ยกเลิกประชุมกับลูกน้องเลย จากเกียวโตก็บินมาโตเกียวเพื่อมาหาเรา เราก็ตกใจทำไมแคนเซิลงานแล้วมาหาเรา เขาก็ไม่บอก พอเรากลับมาไทยก็ยังไม่พูด ออมบอกเขาว่าออมถึงเวลาต้องไปแก้บนที่ฮ่องกง เขาถามว่าไปกับใคร ออมบอกว่าอาจะดูทีมงานก่อน แล้วพอดีน้องทีมงานเขาไม่ได้ทำพาสปอร์ต เขาก็เลยบอกจะไปเป็นเพื่อนเองไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้คิดอะไร เวลากินข้าวเราก็ไม่ได้ถนอมความเป็นกุลสตรีเลย พอวันที่เราจะกลับเขาก็ส่งเราเช็คอินเสร็จ ออมก็ยืนอยู่ตรงนั้นข้างๆ เขา เขาก็ถามออมว่า คุณรู้ใช่มั้ยที่ผม มาที่นี้ผมแคนเซิลงานมา งานผมก็ยุ่งมากนะ ผมไม่ได้แค่มาเที่ยวหรือมาสนุกกับคุณอย่างเดียว แต่ผมอยากรู้จากปากคุณว่า คุณจะเป็นแฟนกับผมได้มั้ย ตอนนั้นเหมือนตัวเองเป็นนางเอกซีรีนย์เกาหลี สิงหนูอยู่เลย(หัวเราะ) ทุกคนรอบข้างตรงโต๊ะเช็คอิน อึ้งเงียบ และพวกเขาก็ยิ้มกันเหมือนการโดนขอแต่งงานเกิดขึ้น หน้าออมนี้เหลือ 2 นิ้ว คือไม่เคยโดนแบบนี้ ซึ่งเขาก็คงอยากจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเขากล้าที่จะขอเรา แต่เราเองยังไม่ชัดเจนกับเขา เขาเลยบอกว่าขอกลับไปคิดก่อน”

ทำไมไม่ตอบตกลงกับเขาละ
“เรารู้สึกดีกันก็จริง แต่เราเคยรู้จักกันในมุมของความเป็นเพื่อน กับอีกมุมของการเป็นแฟนมันไม่เหมือนกันนะ ไม่งั้นออมจะมีปัญหาเรื่องความรักเหรอ ออมเองไม่มีเวลา เขาเองก็ไม่มีเวลา ถ้าเราอยู่ห่างกันขนาดนี้ ถ้าคุณอยากจะคบกับเราคุณทนกับความเหงาได้มั้ย คุณจะซื่อสัตย์กะเราได้มั้ย ถ้าคุณทำไม่ได้ เราตัดออกจากชีวิตเลยนะ เขาบอกว่าเขาอยากให้พิสูจน์ ออมเลยบอกว่างั้นวันที่คุณพิสูจน์ตัวเองได้คุณค่อยถามออมใหม่ก็ได้ เพราะคุณต้องรับผิดชอบกับคำถามคุณ ออมก็จะรับผิดชอบกับคำตอบของออม”

แล้วนี่มารู้จักกันกันได้ยังไง
“เราเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 2 ปีรู้จักกันที่เมืองไทย ซึ่งเขาก็เคยคุยไลน์กับเราแต่ด้วยความเป็นเพื่อนเนอะ ก็อัพเดทอะไรไป พอเรามีไปคอนเสิร์ตที่โตเกียว ไปแสดงคอนเสิร์ต ก็เคยคิดว่าชวนไปดีกว่าอย่างน้อยๆ มีเพื่อนญี่ปุ่นมาช่วยเชียร์เราก็อุ่นใจ คุยไปคุยมาพอเขารู้ว่าเราไม่มีแฟน เขาก็เริ่มจีบตั้งแต่ตอนนั้น ตัวเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาลเล็กๆ ที่ดูแลผู้สูงอายุที่เกียวโต และก็มีสาขาเปิดที่อื่นด้วย ตอนนี้กำลังขยายแฟรนไชส์กับรัฐบาล ที่ไทยก็มีพวกธุรกิจมือถือ และก็เคยเปิดเกี่ยวกับท่องเที่ยว อายุ 30 ค่ะแก่กว่าออมปีนึง ยังไม่แก่มาก ตอนนี้เขาก็ทำคะแนนอยู่”

ถ้าหากอนาคต เราจะเริ่มต้นใหม่กับใครซักคนนึงก็น่าจะเป็นคนนี้ใช่มั้ย
“ก็อาจจะใช่ ต้องดูก่อนว่าระยะทางมีปัญหากับเราหรือเปล่า ถ้าออมทำงานหนักขนาดนี้ และเขาก็ต้องดูแลธุรกิจด้วย”

ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับเขาไปใช่มั้ย
“ใช่ค่ะยังไม่ได้ให้คำตอบ นี่เขาขอคบเป็นแฟนมาประมาณเดือนครึ่งค่ะ อย่างตอนนี้เขาเป็นบอส เป็น CEO เขาก็จะเล่าให้ฟังว่ามีผู้หญิงมานัดเดทอะไรแบบนี้ ออมก็อยากจะดูว่าเวลาผ่านไปจะเป็นยังไง อย่างตอนนี้เขายังรักษาสัญญา ว่ามีอะไรเราจะบอกกัน มีบางครั้งที่เขาโพสต์รูปคู่ออกไป ออมบอกว่ายังไม่ต้องโพสต์นะ ออมยังไม่ชอบ เหมือนออมไปด่าเขาด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ยังไงเขามาชอบหนู(หัวเราะ)”

ถ้าให้คะแนนผ่านเต็มร้อยตอนนี้ หนุ่มญี่ปุ่นคนนี้ได้เท่าไหร่
“รอให้เขาพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าเขา อยู่ไกลกับเราแล้วไม่เหงาเราถึงจะโอเค ตอนนี้ 100% ให้ซัก 65-70% ละกันเพราะว่าทุกวันที่เรากลับถึงบ้าน จะมีเวลาที่แบบเราตื่นเช้ามาเราต้องเห็นข้อความเขา กู้ดมอร์นิ่งกัน และก็ทุกเที่ยงถ้าเขาว่างเขาก็จะแอบลูกน้องเฟสทามมาหาเรา ว่าเราอยู่ที่ไหน หรือว่าตอนเย็นหลังจากเขาเสร็จงาน ประมาณ 6 โมง หรือ 4 โมง ของไทยเขาก็จะไลน์มาบอกว่าเสร็จงานแล้วนะ และก็ถ่ายรูปมาให้ดู เวลาไปไหนทำอะไรก็จะถ่ายรูปมาให้ดู เวลาขับรถก็เฟสทามให้เราดู ออมบอกว่าเป็นแบบนี้ให้ได้ตลอดแล้วกัน(หัวเราะ) เราก็ไม่อยากไว้ใจผู้ชาย”

ตอนนี้ยังมีคุยกับใครอีกมั้ย
“ตอนนี้ก็คุยกับเขาแค่คนเดียวค่ะ เพราะเราเองก็มีเวลาน้อย คุยกับเขาแค่คนเดียว เขาเฟสทามทั้งวันก่อนนอนก็ต้องส่งกันนอน สวยเนอะ(หัวเราะ)”.
เลิกแฟนพร้อมเปิดใจรับรักใหม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • โนโนะ มิซึซะวะ และ โรล่า มิซากิ สัมภาษณ์พิเศษในการมาเยือนเมืองไทย
    นับว่าเป็นโอกาสพิเศษแบบ Exclusive กันเลยทีเดียว เมื่อทางผู้จัดงาน Bangkok Auto Salon 2015 เปิดโอกาสให้กับทาง Men.Mthai ได้เข้าไปสัมภาษณ์ 2 ดาราสาว AV โนโนะ มิซึซะวะ และ โรล่า มิซากิ ที่มาร่วมงานในเมืองไทย
  • Girls’ Generation ปล่อยทีเซอร์ Party อวดความงามของเกาะสมุย
    Girls’ Generation (เกิร์ลส เจนเนอเรชั่น) เริงร่าสุดสดใสริมหาดทรายขาว-ฟ้าใส รับซัมเมอร์ ที่เกาะสมุย ผ่านมิวสิควิดีโอทีเซอร์เพลงใหม่ Party
  • นุ่งบิกินีถ่ายเอ็มวีเปิดซิงเกิ้ล "เกิร์ลส์เจเนอเรชั่น" หวิวนิด(นึง)
    จ่อกลับมาเปิดตัวผลงานเพลงใหม่เต็มแก่แล้ว สำหรับ เกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น (Girls' Generation) เกิร์ล กรุ๊ป หรือกลุ่มนักร้องหญิงล้วนยอดนิยมจากประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่ปล่อยคลิปตัวอย่างมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ฉบับย่อ ๆ ออกมากระตุ้นต่อมอยากฟังอยากชมของแฟนๆ ไปแล้วหมาดๆ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ผ่านทาง ยูทูบ.คอม (youtube.com) เว็บไซต์ฝากคลิปยอดนิยม แค่เพียง 24 ชั่วโมง ก็มียอดผู้ชมทะลุหลัก 1.5 ล้านครั้งไปแล้วเรียบร้อย
  • นมแจ้งเกิด ‘น้ำฝน-ทวีพร’ โชว์ทั้งเต้า
    เรียกว่าเป็นที่ฮือฮามากทีเดียว สำหรับสาว “น้ำฝน” ทวีพร อารีย์สวัสดิ์ ที่มาร่วมงาน สยามดารา ด้วยชุดที่แสนจะใจกล้า โชว์ทั้งเต้าให้เห็นกันแบบเต็มตา จากใครที่ไม่เคยได้รู้จักสาวคนนี้ งานนี้ต้องรีบเสิร์ชประวัติเธอกันให้วุ่นวาย แต่ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสาวมีมง Miss Tourism South East Asia Thailand 2011 พ่วงด้วยพิธีกรในรายการ “เช้านี้ที่ช่อง 5” บอกเลยว่านางเด่นสุดในงาน ไม่มีใครที่ไม่มอง เพราะ สาวน้ำฝน เค้ามีดีให้มองถึงกับต้องเหลียวหลังทีเดียว ใจถึงขนาดนี้ เรียกว่านมพาแจ้งเกิดก็คงไม่ผิด รับไป 10 คะแนนเต็ม เลยยูวส์

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »