ยูเซน โบลต์ ลมกรดหนุ่มชาวจาเมกา ดวงแตกสุดติ่งหลังโดนพาหนะเคลื่อนที่ของช่างกล้อง เสียหลักพุ่งชนด้านหลังเต็มรัก ขณะกำลังโบกมือแสดงความยินดีกับแฟนๆ กรีฑา หลังคว้าแชมป์วิ่ง 200 เมตร ที่ประเทศจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เดชะบุญที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย

ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งหนุ่มชาวจาเมกา เสียฟอร์มสุดขีดเมื่อโดนรถเซกเวย์พาหนะเคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่กล้องพุ่งชนเข้าอย่างจังจนล้มกลิ้งขณะกำลังเดินไปฉลองความสำเร็จกับแฟนๆ กรีฑา หลังจากคว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตร ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก 2015 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา

 เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในขณะที่ ลมกรดที่เร็วที่สุดในโลก วัย 29 ปี ซึ่งเพิ่งคว้าเหรียญทอง 100 เมตร ด้วยเวลา 9.79 วินาที กำลังปลาบปลื้มกับความสำเร็จของตนเอง โดยวิ่งถอดรองเท้าเพื่อไปฉลองเหรียญทองที่ 2 หลังจากเอาชนะ จัสติน แกตลิน ลดกรดหนุ่มอเมริกัน โดยที่มีรถเคลื่อนที่ของเจ้ากล้องตามหลังมาไม่ห่างนัก

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อพาหนะของช่างกล้องเกิดเสียหลักชนเข้ากับขอบทาง จากนั้นรถคันดังกล่าวก็พุ่งเข้าไปชน "เจ้าสายฟ้าฟาด"  เข้าด้านหลังเต็มๆ จนล้มหงาย แต่เดชะบุญที่ โบลต์ ไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะลุกขึ้นมาเดินกระโผลกกระเผกต่อได้

โบลต์ กล่าวติดตลกโดยอ้างว่า แกตลิน พยายามทำร้ายเขาเพื่อหยุดการครองเจ้าลมกรด "เขาพยายามจะฆ่าผม ! ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร มันเหมือนกับว่า -เฮ้ย นายคว้าแชมป์เยอะไปแล้ว ต้องกำจัดซะ- ผมรู้สึกเหมือนกับว่านี่อาจจะเป็นสิ่งที่ จัสติน แกตลิน อยากทำ ผมแค่พูดเล่นๆ นะอย่าคิดมาก"

"จริงแล้วตอนนั้นผมก็ไม่ได้มองรอบๆ เลย ผมกำลังโบกมือให้กับแฟนๆ และจากนั้นก็รู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างพุ่งมาชนผม ผมโอเคไม่มีปัญหา ผมแฮปปี้มากๆ ที่ร่างกายของผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย" นักวิ่งชื่อก้องโลก ซึ่งประกาศตัวเป็นสาวกสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้าไส้ ระบุ