ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » อีเอสพีเอ็นชูสปิริตแรงกล้าแข้งช้างศึกพาทีมดับไต้หวัน

อีเอสพีเอ็นชูสปิริตแรงกล้าแข้งช้างศึกพาทีมดับไต้หวัน

Posted 15/11/2015 by siamsport

"อีเอสพีเอ็น" สื่อระดับโลก ที่เฝ้าติดตามพัฒนาการของทัพ "ช้างศึก" ระบุถึงเกมชนะไต้หวัน 4-2 เอาไว้ 5 อย่าง โดยมองว่า ด้วยสปิริตอันแรงกล้าทำให้ไล่ยิงเอาชนะไปได้ แถม ธีรศิลป์ แดงดา ยังกลับเข้าสู่ฟอร์มฮอตอีกครั้ง รวมทั้งยังมีไพ่ไม้ตายอย่าง ธนา ชะนะบุตร ที่ลงมาสร้างความปั่นป่วน ยิง 1 จ่าย 1 ให้กับทีม นอกจากนี้ ยังชี้ว่าเกมแดนกลางต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ และจะต้องไม่กลัวทีมใดหากคิดว่าจะก้าวไปสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย

 สืบเนื่องจากทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน ไล่อัดไต้หวัน ไป 4-2 ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม เอฟ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ยังคงนำจ่าฝูงด้วยการมี 13 คะแนน และเหลือเกมที่จะออกไปเยือน อิรัก ในเดือน มี.ค. 2016

 
ล่าสุดเว็บไซต์ชื่อดังระดับโลกอย่าง อีเอสพีเอ็น ได้ออกมาเขียนบทความชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจ โดยใช้ชื่อว่า "5 อย่างที่ไทยได้เรียนรู้จากเกมที่ชนะไต้หวัน" ประกอบด้วย 1. ไทยสามารถหาวิธีที่ต่างออกไปเพื่อผลการแข่งขันที่ต้องการ กล่าวคือ ตั้งแต่ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย เค้าเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่การชนะเวียดนาม 1-0 ยันเสมออิรักในบ้านได้ 2-2 และไปชนะแบบถล่มทลาย 3-0 ในนัดไปเยือนเวียดนาม และเกมล่าสุดที่เจอกับไต้หวันจากการโดนนำตั้งแต่ 3 นาทีแรก เราเห็นความกังวลเกิดขึ้นในทีม เป็นเวลากว่า 10 นาที แต่แล้วพอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง ธีราทรเริ่มพาทีมไปบุกจากด้านซ้าย โดนให้สารัชควบคุมเกมตรงกลางสนาม และก็ได้ประตูตีเสมอ ทำให้ลดความกดดันลงไปได้ แม่ไทยจะบุกหนัก ในที่สุดเกมก็ยังกลับมาเสมออีกที่ 2-2 แต่เหล่าช้างศึกยังมีสปิริตอันแรงกล้า เผาเครื่องบุกเข้าใส่ไต้หวันจนสามารถขโมยชัยชนะจากไต้หวันมาได้สำเร็จ

2. "ธีรศิลป์" ยังแสดงผลงานได้อย่างเหนือชั้น กล่าวคือ เป็นอีกครั้งที่ธีรศิลป์ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเค้าคือคีย์แมนที่สำคัญของทีมชาติไทย หลังจากพลาดการลงเล่นใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 เมื่อปีที่ผ่าน ทำใหัมีฮีโร่ทีมชาติเกิดขึ้นใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป หรือ ชัปปุยส์ ซึ่งขณะนั้นเค้าถูกยืมตัวไปเล่นในในสเปนและไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ทำให้เค้าต้องกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

  ประสิทธิภาพของเค้าในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกยังไม่สู้ดีนักในนัดเปิดสนามที่พบกับเวียดนาม แฟนบอลหลายคนต้องการให้เปลี่ยน อดิศักดิ์ ไกรษร ลงไปแทนธีรศิลป์ แต่แล้วธีรศิลป์ก็ตอบกลับต่อคำถามในสังคมที่มีต่อตัวเค้า ในเกมที่บุกไปชนะไต้หวัน และเป็นคีย์แมนที่มีส่วนร่วมอย่างมากในการพาทีมไปชนะเวียดนามถึง 3-0

 และเกมในบ้านนัดล่าสุดที่พบกับไต้หวัน เค้าก็เป็นวีรบุรุษอีกครั้งด้วยการตีเสมอให้ไทยในนาทีที่ 41 เค้าเล่นได้อย่างชาญฉลาดจากลูกที่รับมาจาก ธีราทร บุญมาทัน นอกจากจะเป็นคนทำประตูแรกให้ไทยเค้ายังเป็นคนจ่ายบอลให้ ปกเกล้า อนันต์ จากเพื่อนตำรวจ เข้าไปทำประตูได้อย่างไม่มีที่ติ

3. "ธนา ชะนะบุตร" กลายเป็นฮีโร่อย่างไม่น่าเชื่อ กล่าวคือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ทำผลงานได้ตามเป้าหมายหลังส่งธนาลงมาในครึ่งหลัง ในขณะที่หลายคนให้ความสนใจว่าชนาธิปจะสามารถลงเล่นได้หรือไม่ กลับกลายเป็นธนาที่พาทีมคว้าชัยชนะในนัดนี้ ชนาธิปถูกส่งลงมาในตอนที่ไทยนำ 2-1 และ เกียรติศักด์ เสนาเมืองก็ส่งอดิศักดิ์ลงมา เพิ่มโอกาสการเข้าทำประตูของไทย จนกระทั่งเป็นไปตามคาด หลังจากนั้น 25 นาที และไพ่ใบสุดท้ายคือนักเตะวัย 31 จากเพื่อนตำรวจที่ลงทำผลงานได้ดีเยี่ยม แม้จะไม่ได้เล่นอยู่ในลีกสูงสุดของประเทศก็ตาม


 ซึ่งธนาจ่ายบอลตัดหลังไต้หวันให้อดิศักดิ์ทำประตูที่สามให้ไทย และตัวเองก็โหม่งทำประตูลูกที่สี่ให้ไทยจากลูกเตะฟรีคิกของธีราทร ก่อนหน้านี้ธนาอาจจะยังไม่มีแฟนบอลมากนัก แต่จากนี้ไปหลายๆ คน จะสามารถจำชื่อเค้าได้ติดปากเลยทีเดียว หลังพาชัยชนะมาสู่ทีมชาติไทย


4. กลางดูอ่อนลงต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ กล่าวคือ ธนบูรณ์ทำผลงานในตำแหน่งของตัวเองได้ดี และต้องคอยจัดการ การสวนกลับของไต้หวัน แต่เกมรับของไทยยังต้องปรับปรุง หากต้องการเข้าไปรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย โดยเฉพาะในนัดที่จะไปเยือนอิรัก ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย


  ธนบูรณ์และสุทธินันท์ แทบจะถูกลืมในเกมสวนกลับ และ ทริสตัน โด อาจจะไม่จำเป็น สำหรับเกมที่มีความกดดันสูงแบบนี้ แม้ในเกมนัดล่าสุดไทยสามารถครองเกมไว้ได้ทั้งหมด แต่ไทยยังคงมีความเสี่ยง อย่างในนาทีที่ 24 ลุน ลิน ฉาง หลุดเข้ามาได้ก่อนที่ธนบูรณ์จะเข้าไปเคลียร์ทำให้ลูกยิงของเค้าถูกเซฟไว้อย่างง่ายดายโดย กวิน ธรรมสัจจานันท์


หลังจากเสมอกันในครึ่งแรก กลับมาในครึ่งหลัง ไทยจับ เฉิน เหา เหว่ย ยาก เพราะให้ธนบูรณ์จับคนเดียว และลูกยิงลูกที่ 2 ของผู้มาเยือนคือสิ่งที่บอกถึงประสิทธิภาพของเกมรับทีมชาติไทยได้เป็นอย่างดี ว่าเกมรับของไทยยังมีปัญหาอยู่


 และ 5. หากคิดจะไปต่อต้องไม่กลัว กล่าวคือ สิ่งที่กล่าวมาแม้หนทางของทีมชาติไทยยังอีกยาวไกล แต่ก็ถือว่าการเดินทางครั้งนี้ของพวกเขาดูจะสะดวกสบายมากขึ้น จะเห็นได้ว่าการเล่นในบ้าน ณ สนามราชมังคลาฯ ของไทยดูเหมือนจะมีแรงกดดันอยู่ไม่น้อยเพราะพวกเขาสามารถทำได้ดีมากเวลาที่ออกไปเล่นนอกบ้าน สามารถเล่นได้อย่างไม่ลำบากแบบนี้


 ซึ่งการแข่งขันนัดนี้ส่งสัญญาณที่ดีไปยังอิรัก ในเดือนมีนาคม การที่ไม่ต้องแบกรับความคาดหวังของแฟนบอลในสนามอาจจะเป็นผลดีสำหรับทีมไทยมากกว่า อีกทั้งอาจจะทำให้ทีมสามารถเตรียมทีมได้ดีกว่าเดิมสำหรับการบุกไปเยือนอิรักนอกบ้านของตัวเอง และนี่คืออีกก้าวที่สำคัญ กับเส้นทางไปสู่ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »