ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 14

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2558

ลิเวอร์พูล 1-0 สวอนซี ซิตี้

สนาม : แอนฟิลด์

          "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เกมนี้ขาด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มิดฟิลด์ตัวเก่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า แต่ได้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าและ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง แนวรุกมี คริสติย็อง เบนเตเก้ ยืนเป้าพร้อมได้ โรแบร์โต้ ฟิร์มีโน่ ปั้นเกมสนับสนุน

          ทางด้าน "หงส์ขาว" ของกุนซือเก้าอี้ร้อน แกร์รี่ มังค์ ขาด จอนโจ้ เชลวี่ย์ มิดฟิลด์ตัวหลักที่ติดโทษแบน ต้องใช้ เลออน บริตตัน ลงยืนกับ คี ชุง-ยอง พร้อมยึดผู้เล่นชุดที่แล้วหลายราย ทั้ง ไคล์ บาร์ทลี่ย์, ลีออน บริตตัน, เวย์น เราท์เล็ดจ์ และ เอแดร์ หอกโปรตุเกส

          ก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้ เจอร์รี่ ไบรน์ ตำนานแบ็กซ้ายหงส์แดงชุดทำศึกเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปี 1965 ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

          เล่นไปได้แค่ 4 นาที เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ จากจังหวะต่อบอลขึ้นหน้าอันไหลลื่น จังหวะสุดท้าย ฟิร์มีโน่ ไหลออกขวาให้ ไอบ์ ที่เติมขึ้นมา กระชากเข้าเขตโทษเบียดวิลเลี่ยมส์ อยู่ในมุมได้เปรียบแล้ว แต่จับบอลยาวไปเอง บาร์ทลี่ย์ ที่วิ่งตามมาล้มตัวสไลด์ บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง เกือบทำเข้าประตูตัวเอง

          จากนั้นนาทีที่ 7 นอห์ตัน ทำชิ่งกับเพื่อน แล้วโยนจากขวาเข้ากลาง เอแดร์ขึ้นโหม่งกระดอนพื้นออกหลัง เจ้าบ้านครองบอลเยอะ แต่หาจังหวะจบลำบาก นาที 20 ไคลน์ไหลเข้าเขตโทษให้ลัลลาน่า กดด้วยซ้าย ติดแนวรับทีมเยือน

          มาถึงนาที 25 โมเรโน่ครอสจากซ้ายมาถึงเสาสอง แต่ ไอบ์ จับบอลได้ แต่ซัดไปติดวิลเลี่ยมส์ออกหลัง ได้แค่เตะมุม อีก 3 นาที จากลูกเตะมุมฝั่งขวา ซิกูร์ดส์สันเปิดมาหน้าประตู บาร์ทลี่ย์โหม่งโดนถากๆ บอลแฉลบหลุดไปเสาสอง

          เจ้าบ้านช็อตไปดื้อๆ แทบหาโอกาสยิงไม่เจอ นาที 41 ไคลน์ ชิพบอลขึ้นหน้าให้ เบนเตเก้ โดน บาร์ทลี่ย์ กระแทกล้มหน้าเขตโทษ เป็นฟรีคิกของลิเวอร์พูล แต่โมเรโน่ปั่นด้วยซ้ายข้ามคานไม่ได้ลุ้น

          ท้ายครึ่งแรก สวอนซีต่อบอลสวยจากกลางสนาม บริตตันผ่านให้เอแดร์กระชากมาทางขวาหน้าเขตโทษ ก่อนสับไกหลุดเสาสอง จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0

          กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาที 49 ทีมเยือนโยนบอลจากขวาเข้ากลาง แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์ไม่ขาด ซิกูร์ดส์สันจับลอลได้ก่อนไหลคืนหลังให้ คี ชุง-ยอง ตะบันข้ามคาน อีก 2 นาที ไอบ์รับบอลจากโมเรโน่ ก่อนลากจากซ้ายเข้ากลางแล้วยิงยัดเสาแรก ฟาเบียนสกี้ล้มตัวปัดได้ทัน

          เกมเจ้าถิ่นเริ่มกระเตื้อง นาที 52 ลัลลาน่าเปิดฟรีคิกให้ลอฟเรนโขกข้ามคาน อีก 5 นาที โมเรโน่โยนให้ฟีร์มิโน่โหม่งติดกองหลังทีมเยือน

          กระทั่นาที 61 หงส์แดงได้จุดโทษ จากจังหวะที่ไอบ์ชิพจากขวาเข้ากลาง โดนมือเทย์เลอร์ เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหาร โดยชิพเข้ากลางประตูอย่างเหนือชั้น ลิเวอร์พูลนำ 1-0

          หลังจากนั้น ทั้งสองทีมเริ่มทยอยเปลี่ยนตัว นาที 70 เจ้าถิ่นส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงแทน คริสติย็อง เบนเตเก้ อีก 4 นาที เฮนเดอร์สันไหลบอลออกซ้ายให้มิลเนอร์ สับไกกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสอง สเตอร์ริดจ์ไม่ชาร์จ บอลหลุดออกหลัง

          หงส์ขาวได้บุกมากขึ้น นาที 78 อายิวผ่านให้โกมิสสับไกติดแนวรับเจ้าถิ่น อีกนาที จากลูกเตะมุม คอร์คยิงติดกองหลัง วิลเลี่ยมส์ โถมโหม่งซ้ำไม่เข้ากรอบอีก จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ สวอนซี ซิตี้ 1-0 คว้าสามแต้ม เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนน ขยับรั้งอันดับ 6 ส่วน หงส์ขาว มี 14 แต้ม อยู่ที่ 15

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ - เนธาเนียล ไคลน์, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เจมส์ มิลเนอร์, เอ็มเร่ ชาน - จอร์ดอน ไอบ์ (โคโล่ ตูเร่ น.95), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.64), อดัม ลัลลาน่า - คริสติย็อง เบนเตเก้ (แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.71)
          สำรองไม่ได้ใช้ : อดัม บ็อกดาน, โจ อัลเลน, ดิว็อค โอริกี้, คอนนอร์ แรนดอลล์

          สวอนซี ซิตี้ : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - ไคล์ นอห์ตัน, ไคล์ บาร์ทลี่ย์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, นีล เทย์เลอร์ - คี ซุง-ยอง, เลออน บริตตัน (แจ็ค คอร์ค น.65) - เวย์น เราท์เล็ดจ์ (เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ น.72), กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, อังเดร อายิว - เอแดร์ (บาเฟติมบี้ โกมิส น.69)
          สำรองไม่ได้ใช้ : คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดเฟลด์ท, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, แม็ตต์ กริมส์, อังเคล รานเคล

         ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์