คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษ สั่งลดโทษ สารัช อยู่เย็น กองกลางของ เอสซีจี เมืองทองฯ ไม่ติดโทษแบน หลังจากพิจารณาแล้วว่าท่าดีใจจุ๊ปากไม่ได้ดีใจใกล้กับกองเชียร์ สระบุรี ในเกมที่บุกไปชนะ 4-2 ส่วน มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ช แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังคงโดนแบน 2 นัด ปรับ 2 หมื่นบาท ต่อไปจากเคสเตะขวดน้ำเกมที่พ่าย ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-3 ด้าน คัมเบะ ซูกาโอะ กุนซือ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โดนลดโทษเหลือแบน 1 นัด ปรับ 1 หมื่นบาท เพราะกระทำความผิดในการเตะขวดน้ำเป็นครั้งแรกในปีนี้

        "สารัช" อุทธรณ์โทษท่าดีใจเกมสระบุรีผ่าน

        เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมภายในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษ ได้ทำการพิจารณา 3 เคสต์หลักของศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 เริ่มจาก เกมเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง "กิเลนผยอง" บุกไปชนะ สระบุรี เอฟซี 4-2 ตามหนังสือที่สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขออุทธรณ์การลงโทษของคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วงที่มีมติลงโทษ สารัช อยู่เย็น กรณีแสดงกิริยาท่าทางดีใจยั่วยุกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน อันเป็นต้นเหตุนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยมีความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 1.7) พิจารณาห้ามลงแข่งขันและห้ามเข้าสนามแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท นั้น

        คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า จากภาพบันทึกการแข่งขัน เมื่อ สารัช อยู่เย็น ผู้เล่นของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำประตูได้แล้ว สารัช อยู่เย็น ได้แสดงกิริยาท่าทางดีใจบริเวณสนามแข่งขันเท่านั้น ไม่ได้แสดงกิริยาท่าทางดีใจที่ใกล้กับบริเวณกองเชียร์ทีมคู่แข่งอันจะเป็น การยั่วยุกองเชียร์ทีมคู่แข่งขันแต่อย่างใด สารัช อยู่เย็น ผู้เล่นของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จึงไม่ได้กระทำความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 1.7) กรณีแสดงกิริยาท่าทางดีใจยั่วยุกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน จึงมีมติยกโทษ

        แบน "มาโน่" 2นัดเซ่นเตะขวดน้ำเช่นเดิม

        ส่วนเกมที่ ไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ที่แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-3 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ในเกมดังกล่าว สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ยื่นหนังสือ ขออุทธรณ์การลงโทษของคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วงที่มีมติลงโทษ อเล็กซาานเดอร์ โพลกิ้ง กุนซือของ แบงค็อก ยูไนเต็ด กรณีเตะขวดน้ำอันเป็นการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชนและมิได้ถูก ผู้ตัดสินคาดโทษ มีความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6) พิจารณาห้ามทำหน้าที่นัดต่อไปและห้ามเข้าสนามแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท นั้น

        คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ยืนใกล้กับบริเวณเขตเทคนิคของสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด และยืนยันว่าเห็น อเล็กซานเดอร์ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฯ สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ได้เตะขวดน้ำจริง เป็นความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6) แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน และสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่มีพยานหลักฐานหักล้างเป็นอย่างอื่น และไม่มีเหตุอันควรลดโทษ จึงมีมติยืนโทษ ห้ามทำหน้าที่และห้ามเข้าสนามแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท เช่นเดิม

        ลดโทษ "คัมเบะ"เหลือแบน 1 เกม

        ขณะที่เกมวันที่ 9 ธ.ค. ซึ่ง "สวาทแคท" เปิดบ้านชนะ ศรีสะเกษ เอฟซี 1-0 ตามหนังสือที่อ้างถึง สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ขออุทธรณ์การลงโทษของคณะอนุกรรมการพิจารณามารยาท วินัย และข้อประท้วงที่มีมติลงโทษ คัมเบะ ซูกาโอะ กุนซือนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กรณีเตะขวดน้ำอันเป็นการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชนและมิได้ถูก ผู้ตัดสินคาดโทษ มีความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6) พิจารณาห้ามทำหน้าที่และห้ามเข้าสนามแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท นั้น

        คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เห็นว่า สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้ยอมรับในอุทธรณ์แล้วว่า คัมเบะ ซูกาโอะ ได้เตะขวดน้ำอันเป็นการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชนจริง มีความผิดตามข้อบังคับ ผนวกที่ 7 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6) แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน แต่ คัมเบะ ซูกาโอะ ได้กระทำความผิดดังกล่าวเป็นครั้งแรก และไม่เคยมีประวัติการทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาก่อน มีเหตุสมควรลดโทษ จึงมีมติห้าม คัมเบะ ซูกาโอะ ทำหน้าที่และห้ามเข้าสนามแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท