มาดู 5 ประเด็นเด็ดๆหลังเกมนี้กันว่า จะมีอะไรให้พูดถึงบ้าง...

1. แท็กติก คล็อปป์ เข้าวิน!

        หมากการเล่นที่ทาง หลุยส์ ฟาน กัล นำมาสู้นั้นถือว่าทำได้ดีในช่วงแรกของเกม และดูเหมือนจะเข้าอีหรอบอย่างที่ผ่านมา แต่ขอโทษมาคราวนี้ลูกทีมของ คล็อปป์ ทำได้ตามแท็กติก ควานหาจังหวะทำประตูได้มากมาย และก็ใส่สกอร์ได้สำเร็จ

        ลิเวอร์พูล ยังคงเล่นแบบเดิมคือไล่บีบกดดันสูง และโจมตีกันเร็ว ซึ่งคราวนี้พวกเขาทำได้เนียนตากว่าที่เคยเจอกัน

2. จารย์หลุยส์ มีจุดยืน-เชื่อมั่นในตัว เฟลไลนี่

        มิสเตอร์ แอลวีจี ทำถูกแล้วที่โยน มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และคู่ขาของตัวตัดเกมเลือดเฟร้นช์คือ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บกลับมาช่วยทีมได้พอดีกับเกมแบบนี้

        ทั้งที่มีตัวเลือกสดกว่าอย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า แต่นายใหญ่ชาวดัตช์กลับไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าหัวฟูมากกว่า

        ทั้งคู่ช่วยกันอย่างดีที่สุดแล้วกับการสะกัดกั้นเกมรุกของเจ้า บ้าน ไม่ให้ทำอะไรได้ถนัด แม้ผลลัพธ์จะออกมาไม่เป็นใจแต่การเล่นของ เฟลไลนี่ ก็ถูกใจ ฟาน กัล ถึงขนาดออกปากชมเลยว่า "เฟลไลนี่ คือแข้งที่โดดเด่นที่สุดคนนึงของทีม"

3. วาเรล่า มีอนาคตที่ ยูไนเต็ด แน่นอน!

        แบ็กขวาชาวอุรุกวาโย่ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้เรื่อยๆ และนัดนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวทำได้น่าชื่นชม

        แม้ทาง มัตเตโอ ดาเมียน ที่มีประสบการณ์มากกว่า เหมาะสมกับการลงเล่นในเกมใหญ่มากว่า แต่ คิงหลุยส์ ก็เลือกจิ้มเจ้า วาเรล่า ลงสนามก่อน และก็ไม่ทำให้นายผิดหวัง

        ในอนาคต การแย่งตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริง จะสนุกอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่ ดาเมียน แล้วเท่านั้น ยังมี วาเรล่า, วาเลนเซีย ที่ใกล้หายเจ็บกลับมาแล้ว และ โดนัลด์ เลิฟ ที่รอสอดแทรกอยู่ห่างๆเช่นกัน

4. ว่ากันด้วย สามประสาน CSF

        ถึงตอนนี้ทิศทางของสามแดนหน้าอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีเรื่อยๆ

        น่าสนใจว่าถ้าทั้งสามคนฟิตเต็มถังสุดๆพร้อมเดินหน้าลุยในแท็กติก แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยสุดๆของ เยอร์เก้น คล็อปป์ พวกเขาจะสร้างความแตกต่างให้กับทีมมากแค่ไหน

        ทำให้นึกถึงสมัย คล็อปป์ มีอาวุธอย่าง มาริโอ เกิตเซ่, มาร์โค รอยส์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ ดอร์ทมุนด์ และ "มิสเตอร์ เจเค" กำลังจะปลุกปั้น CSF ให้มีความโหดเหี้ยมเช่นเดียวกัน

5. เด เคอา โคตรเหนียว

        เมื่อคืนที่ผ่านมา ดาบิด เด เคอา คงจะทำให้สาวก เดอะ ค็อป หัวเสียมิมากก็น้อย

        หลังนายด่านหน้าลิงโชว์ซุปเปอร์เซฟเป็นพัลวัน ทั้งลูกยากลูกง่าย ถ้าไม่นับลูกจุดโทษกับลูกยิงจ่อๆ ก็รับประทานแกยากจริงๆ

        ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูซัก 3-4 ประตูด้วยซ้ำไป แต่ "เจ้าเดฟ" ก็ช่วยปฏิเสธไม่ให้ทีมขายหน้าไปมากกว่านี้ และยังพอมีหวังที่จะกลับมาได้ในเลกที่สองด้วย

คะแนนความสามารถนักเตะโดย "เดอะ มิร์เรอร์"

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ (6) - เนธาเนียล ไคลน์ (7), เดยัน ลอฟเรน (6), มามาดู ซาโก้ (6), อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (6) - เอมเร่ ชาน (8), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (8), อดัม ลัลลาน่า (7) - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (6), แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (6), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (8)

สำรองที่ลงสนาม : โจ อัลเลน น.64, ดีว็อก โอริกี้ น.83

แมนฯยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (9) - กีเยร์โม่ วาเรล่า (5), คริส สมอลลิ่ง (7), ดาเล่ย์ บลินด์ (6), มาร์กอส โรโฮ (6) - มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน (5), มารูยาน เฟลไลนี่ (5) - เมมฟิส เดอปาย (5), ฆวน มาต้า (6), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (5) - มาร์คัส แรชฟอร์ด (5)

สำรองที่ลงสนาม : ไมเคิ่ล คาร์ริค น.46, อันเดร์ เอร์เรร่า น.79, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.79

แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : ดาบิด เด เคอา